วันนี้...สงสัยคงต้องเถลไถลไปนอกบ้านน่าจะเข้าท่ากว่า เพราะบ้านเราช่วงนี้ สากกะเบือบิน มันออกจะเยอะแยะซะเหลือเกิน อีกทั้งรัฐบาลท่านก็ยังออกไปทางยึกๆ ยักๆ ยังสนุกกับการ ลับ-ลวง-ครางง์ง์ง์ ขณะที่ใครต่อใครชักเริ่มออกอาการ ครางง์ง์ง์ ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ สู้ลองหันไปหาข่าวอะไรที่มันดูเข้าท่า เข้าทาง พอเพิ่มความสดใสในช่วงหนาวๆ ได้มั่ง น่าจะเหมาะกว่า...
-------------------------------------------
เผอิญว่าเหลือบไปเห็นพาดหัวหน้าต่างประเทศ ไทยโพสต์ ฉบับวันวาน ที่ขึ้นประเด็นเอาไว้ชัดเจนว่า โสมขาวขอเลื่อนซ้อมรับกับสหรัฐ แค่นี้...ก็พอ หึ่ม-ฮึม-ฮึ้ม-หึ่ม ขึ้นมาได้บ้างแล้ว คือจากที่ทำท่าว่าจะเครียดขึ้นๆ ถึงขั้นมีข่าวว่ากองทัพสหรัฐอาจจะงัดไม้ตาย จัดการ ปิดล้อมน่านน้ำ เกาหลีเหนือ เพื่อเพิ่มแรงกดดันการบอยคอต แซงก์ชั่น ให้ คิมน้อย ต้องยอมศิโรราบลงไปให้จงได้ ชนิดผู้เชี่ยวชาญชาวจีนไม่ว่าตั้งแต่ระดับที่ปรึกษารัฐบาล อดีตเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูง ไปจนถึงศาสตราจารย์ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ถึงกับเห็นพ้องต้องกันว่า แนวโน้มที่จะเกิดสงครามในคาบสมุทรเกาหลี หรือเกิด การละเมอเดินเข้าสู่สงคราม สามารถเป็นไปได้ระดับนาทีต่อนาทีเอาเลยถึงขั้นนั้น...
------------------------------------------------
และแม้ว่าเมื่อช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐที่มีชื่อคล้ายๆ ไดโนเสาร์ คือนาย ที.เร็กซ์ หรือ เร็กซ์.ที (Rex Tillerson) จะออกมาผ่อนคลายบรรยากาศ ด้วยการประกาศพร้อมเจรจากับเกาหลีเหนือโดยไม่มีเงื่อนไขล่วงหน้า แถมจะให้เจรจากันในเรื่องดิน-ฟ้า-อากาศ หรือเรื่องจะเอาโต๊ะกลม โต๊ะเหลี่ยม ก็ยังได้ แต่ก็นั่นแหละ...รัฐบาลอเมริกันทุกวันนี้ ที่ชักออกอาการ One flew over the Cuckoo’s nest หรือ บ้าก็บ้าวะ เข้าไปทุกที พูดยังไม่ทันขาดคำ ตดยังไม่ทันหายเหม็น โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาว ก็ออกมาสวนหมัด สวนคำพูด ของรัฐมนตรีต่างประเทศ ประกาศย้ำจุดยืนนโยบายของ ทรัมป์บ้า ว่าจะไม่เจรจาใดๆ โดยเด็ดขาด ถ้าหากเกาหลีเหนือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขเอาไว้ก่อนล่วงหน้า เล่นเอามึนซ์ซ์ซ์กันไปทั้งโลก ทั้งบาง หรือทำให้อะไรที่เคยเครียดๆ ยิ่งทั้งเครียด ทั้งปวดกบาลเข้าไปใหญ่...
---------------------------------------------------
แต่การที่เกาหลีใต้...ซึ่งย่อมต้องมีโอกาส ฉิบหาย เป็นอันดับแรก ถ้าหากเกิดสงครามในคาบสมุทรเกาหลีขึ้นมาจริงๆ ได้ออกมาขอประกาศเลื่อนการซ้อมรบประจำปี ตามชื่อรหัส Key Resolve และ Foal Eagle ที่จะมาถึงในช่วงราวๆ ปลายกุมภาฯ และมีนาคมปีหน้า อันนี้...ต้องถือว่า มีส่วนช่วยให้บรรยากาศเครียดๆ มันพอลดๆ ลงไปได้มั่งไม่มากก็น้อย คืออันที่จริงก็มีข่าวทำนองนี้มาก่อนหน้าเกือบซักเดือนเห็นจะได้ แต่ที่กลายเป็นข่าวดี ข่าวเด่น ในช่วงนี้ ก็เพราะตัวประธานาธิบดีเกาหลีใต้ นาย มุน แจอิน ได้ออกมาพูด มายืนยัน เอาไว้อย่างเป็นทางการ ด้วยเหตุผลข้ออ้างว่าเพื่อไม่ให้การเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวของเกาหลีใต้ ที่จะจัดขึ้นในช่วงคาบเกี่ยวกับการซ้อมรบ ต้องเจอกับกีฬาประเภท พุ่งหลาว หรือพุ่งจรวด ฮวาซอง ของเกาหลีเหนือ ตกมาใส่น่านน้ำ ใส่หัวกบาลใครต่อใคร ให้ต้องปวดหัวโดยใช่เหตุ...
------------------------------------------------------
แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผล ข้ออ้างใดๆ ก็แล้วแต่...คงต้องยอมรับเอาจริงๆ นั่นแหละว่า อดีตนักกฎหมายและนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนรายนี้ ผู้ผงาดขึ้นเป็นประธานาธิบดีเกาหลีใต้จากการเลือกตั้งเมื่อไม่นานที่ผ่านมา ท่านออกจะ ใฝ่สันติภาพ มากกว่าคิดจะ บ้า ไปกับอเมริกา หรือกับ ทรัมป์บ้า มาตั้งแต่แรก เรียกว่า...ตั้งแต่ช่วงหาเสียงเลือกตั้งมาแล้ว ท่านก็แสดงท่าทีค่อนข้างชัดเจน ว่าท่านออกจะ ไม่เห็นควรด้วย ซักเท่าไหร่ กับการนำเอาระบบป้องกันขีปนาวุธของอเมริกา หรือการเข็น THAAD เข้ามาติดตั้งอยู่ในเกาหลีใต้ ไม่ต่างไปจากประชาชนชาวเกาหลีใต้จำนวนไม่น้อย ที่เคยออกมาประท้วงเรื่องนี้คราวแล้ว คราวเล่า และหลังจากที่ท่านขึ้นเป็นประธานาธิบดี ท่านก็หันไปตรวจสอบความร่วมมือระหว่างกองทัพเกาหลีใต้กับกองทัพอเมริกันโดยละเอียด...
-------------------------------------------------------
ยิ่งไปกว่านั้น...ท่านยังเป็นผู้พยายามเสนอแนวทางการเจรจากับเกาหลีเหนือ ผู้ที่เป็นพี่ๆ น้องๆ ตระกูลคิม ตระกูลปัก มาโดยตลอด เพียงแต่ว่า...โดยสีสันบรรยากาศ ที่ทั้ง ทรัมปบ้า และ คิมน้อย ต่างออกอาการบ้ามาก-บ้าน้อย ไปด้วยกันทั้งคู่ แถมยังมีคุณน้ายุ่นปี่ หรือญี่ปุ่น ที่กำลังอยากจะผงาดกลับมาเป็น มหาอำนาจทางทหาร อย่างเคย ร่วมบ้าไปกับเขาด้วย ความใฝ่ใจในแนวทางสันติภาพของประธานาธิบดี มุน แจอิน จึงถูกกลบกระแสไปด้วยความบ้าเหล่านี้ แต่ถึงกระนั้นท่านก็ยังแสดงออกถึงความพยายามแบบสุดฤทธิ์สุดเดช นอกจากจะเคยลุกขึ้นมาป่าวประกาศแบบเสียงดัง-ฟังชัดว่า สงครามในคาบสมุทรเกาหลีจะไม่มีวันเกิดขึ้นเป็นอันขาด...ตราบใดที่เกาหลีใต้ไม่เห็นด้วย ท่านยังพยายามออกเดินสายไปจับเข่าเจรจากับผู้นำจีนและรัสเซีย ที่พยายามนำเสนอทางออก ทางแก้ปัญหาในคาบสมุทรเกาหลี ด้วยกรรมวิธีที่เรียกว่า Double Freeze หรือ หยุดบ้าด้วยกันทั้งสองฝ่าย...
----------------------------------------------------------
คือหยุดปฏิบัติซ้อมรบแบบปีแล้ว ปีเล่า ของกองทัพอเมริกาในคาบสมุทรเกาหลี ที่กลายเป็นตัวกระตุ้นความบ้าของเกาหลีเหนือมานับเป็นสิบๆ ปี และหยุดการทดสอบขีปนาวุธ หยุดพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของ คิมน้อย ลงไปด้วยกันทั้งสองฝ่าย แม้ว่าข้อเสนอที่ว่านี้...ทั้งฝ่ายอเมริกาและเกาหลีเหนือ จะไม่ตอบรับด้วยกันทั้งคู่ แต่ก็ยังถือเป็น ทางออกที่เป็นไปได้ และเป็นทางออกทางเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่ ถ้าหากแต่ละฝ่ายยังไม่คิดจะออกไปสู่ประตูนรก หรือไปสู่ความฉิบหาย วายวอด ด้วยกันทั้งคู่ เพียงแต่ความพยายามที่จะทำให้ทางออกที่เหลืออยู่ทางเดียว มันเป็นทางออกที่เป็นไปได้ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ มันคงต้องเริ่มที่ต่างฝ่ายต่างต้องพยายาม ลดความบ้า ลงไปตามลำดับ รวมทั้งอีกหลายๆ ฝ่าย ต้องช่วยสนับสนุน ช่วยสร้างบรรยากาศ อย่างที่ประธานาธิบดี มุน แจอิน ท่านได้แสดงให้เห็นเป็นตัวอย่างอยู่ในขณะนี้...
-------------------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Niccolo Machivelli... He who make war, his profession cannot be otherwise than vicious. War make thieves, and peace bring them to the gallows.- ผู้ที่ก่อสงคราม...คือผู้ที่มิอาจเป็นอะไรอื่น นอกเสียจากผู้ที่หาประโยชน์จากความชั่วช้า สงครามจะสร้างโจร ส่วนสันติภาพจะลากคอมันไปสู่ตะแลงแกง...
---------------------------------------------------------
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |