ญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ทะเลาะกัน สหรัฐควรจะเป็นคนกลางเข้ามาไกล่เกลี่ยใช่หรือไม่
เพราะวอชิงตันเป็นมิตรเก่าแก่ของทั้งสองประเทศ
แต่ดูเหมือนโดนัลด์ ทรัมป์ จะไม่ให้ความสนใจเรื่องนี้เพียงพอ มีแค่แสดงความกังวลพอเป็นพิธี ทั้งๆ ที่ควรจะต้องกระโดดเข้าหาโอกาสที่จะเล่นบทบาทของพี่ใหญ่ให้ทั้ง 2 ประเทศเอเชียลดความตึงเครียดลง
แต่ล่าสุดมีข่าวว่าจีนกำลังเสนอตัวเป็น “กาวใจ” ให้กับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เสียแล้ว
มูน แจอิน แห่งเกาหลีใต้ คงจะยินดีที่จะให้สี จิ้นผิง ช่วยไกล่เกลี่ย
แต่ชินโซะ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น คงไม่ค่อยจะสะดวกใจนัก เพราะญี่ปุ่นกับจีนก็มีเรื่องบาดหมางกันมากมายหลายประเด็นทั้งในประวัติศาสตร์และวันนี้
แต่ความจริง จีนกับเกาหลีใต้ก็ใช่ว่าจะไม่มีเรื่องขัดแย้งกัน แต่เมื่อการเมืองระหว่างประเทศวันนี้กำลังเข้าสู่ภาวะผกผันอย่างหนักหน่วงรุนแรง สมการเก่าๆ ก็ใช้ไม่ได้อีกต่อไป
ถ้าทรัมป์ไม่ทำหน้าที่นี้, สี จิ้นผิง ก็พร้อมจะเข้ามาสวมบทผู้แสวงหาสันติภาพได้เช่นกัน
ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ประกาศไม่เผาผีกันครั้งล่าสุดหลังจากที่รัฐบาลโตเกียวสั่งคุมเข้มการส่งออกวัตถุดิบไฮเทคที่สำคัญ 3 ชนิด ซึ่งเกาหลีใต้ต้องพึ่งญี่ปุ่นในสัดส่วนสูงถึง 90%
ทันใดนั้น กระแสโจมตีในโลกโซเชียลของเกาหลีใต้ก็โหมกระหน่ำเรียกร้องให้คว่ำบาตรแบนสินค้าญี่ปุ่นอย่างตรงไปตรงมา
เรื่องความระหองระแหงรอบใหม่เกิดขึ้นเมื่อญี่ปุ่นยกระดับมาตรการเข้มงวดต่อการส่งออกวัตถุดิบ 3 ชนิดคือ
• ไฮโดรเจนฟลูออไรด์ ซึ่งใช้ในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์
• ฟลูออริเนต โพลีไอไมด์ วัตถุดิบสำหรับผลิตจอแสดงผล
• และสารโฟโตไลซิส ใช้ในการผลิตชิปหน่วยความจำในสมาร์ทโฟน
ความจริงสำหรับไฮโดรเจนฟลูออไรด์ยังมีประเทศอื่นที่ผลิตอยู่ เช่น จีน ไต้หวัน และอินเดีย เกาหลีใต้ก็สามารถสั่งเข้าจากประเทศเหล่านี้แทนได้ ไม่เดือดร้อนมากนัก
แต่สำหรับวัตถุดิบอีก 2 ตัว เกาหลีใต้ยังต้องพึ่งพาญี่ปุ่นถึงกว่า 90%
คนเกาหลีใต้หลายหมื่นคนร่วมกันลงชื่อบัญชีหางว่าวสนับสนุนการแบนสินค้าญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์, เครื่องสำอาง, เบียร์, แบรนด์เสื้อผ้ายอดนิยมของญี่ปุ่น เช่น ยูนิโคล
ผมเห็นแฮชแท็ก “Boycott Japan” เรียกร้องให้คนเกาหลีใต้เลิกไปเที่ยวในญี่ปุ่น
อารมณ์ร้อนอย่างนี้ลามไปถึงอุตสาหกรรมบันเทิงด้วย
มีการกดดันให้ศิลปินในหลายวงที่มีสมาชิกเป็นชาวญี่ปุ่นให้ลาออกจากสมาชิกของวงเสียเพื่อแสดงความรักชาติ
คนเกาหลีใต้ไปเที่ยวญี่ปุ่นปีหนึ่งประมาณ 7.5 ล้านคน และใช้จ่ายราว ๆ 5,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สถิติทางการบอกว่า เกาหลีใต้ติดอันดับที่ 5 ของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเยือนญี่ปุ่น
ปีที่แล้ว เกาหลีใต้นำเข้ารถยนต์จากญี่ปุ่นไม่น้อยกว่า 40,000 คัน
ยิ่งวันปมความขัดแย้งระหว่าง 2 ประเทศก็ยิ่งถูกยกระดับขึ้น กระทรวงพาณิชย์เกาหลีใต้บอกว่ากำลังพิจารณาหาทางตอบโต้ญี่ปุ่น
และอาจจะยื่นฟ้องญี่ปุ่นต่อองค์การการค้าโลก (WTO) ให้กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตกันไปเลยทีเดียว
บางคนบอกว่ากรณีนี้มีความละม้ายปมประเด็น “หัวเว่ยและสหรัฐ” ซึ่งไม่มีใครสามารถเอาชนะได้ มีแต่ใครจะเจ็บมากกว่ากันเท่านั้น
แต่การที่ปักกิ่งได้แสดงความสนใจที่จะเข้ามา “ทำความเข้าใจ” ให้ทั้ง 2 ฝ่ายสะท้อนถึงบทบาทใหม่ของจีนที่น่าเกาะติดมาก
หากเป็นจริงเท่ากับว่าสี จิ้นผิง กำลังจะส่งสัญญาณให้ชาวโลกได้รู้ว่าเขาเป็นนักการทูตระหว่างโลกได้ดีกว่าโดนัลด์ ทรัมป์
ขณะที่ภาพของทรัมป์เป็น “นักเลงปากซอย” ท้าตีท้าต่อยกับผู้นำทั่วโลก แต่สี จิ้นผิง กลับสวมบทของ “นักการทูตที่พร้อมจะแสวงหาความสงบสุขแทนความขัดแย้ง”
จับตาได้ดี โลกกำลังจะกลับตาลปัตรแล้วจริงๆ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |