'ทักษิณ'เมินสู้คดีแปลงสัมปทานฯ ค้านแก้กม.พิจารณาลับหลังจำเลย


เพิ่มเพื่อน    

7 มี.ค. 61 - นายวีรภัทร ศรีไชยา หนึ่งในคณะทนายความคดี ยึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้านบาท เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวที่ศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้ยกคดีแปลงค่าสัมปทานกิจการโทรคมนาคมเป็นภาษีสรรพสามิตขึ้นพิจารณาและออกหมายจับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่รับสัมปทาน กรณีแปลงค่าสัมปทานกิจการโทรคมนาคมเป็นภาษีสรรพสามิตนั้น ได้รับทราบจากคนสนิทของนายทักษิณว่า ท่านไม่เห็นด้วยกับกรณีที่มีการแก้กฎหมายให้พิจารณาคดีลับหลังจำเลยได้ และเป็นกฎหมายย้อนหลังอันขัดหลักนิติธรรมสากล

    "ท่านทักษิณจบปริญญาเอกทางด้านกระบวนการยุติธรรมทางอาญา จึงขอคัดค้านความไม่ยุติธรรมทุกรูปแบบ กรณีการแปลงค่าสัมปทานกิจการโทรคมนาคมเป็นภาษีสรรพสามิตนั้น รัฐไม่ได้เสียหาย บริษัทก็ไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ เนื่องจากบริษัทต้องจ่ายค่าตอบแทนเท่าเดิมโดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งจ่ายเป็นภาษีสรรพสามิต อีกส่วนหนึ่งจ่ายให้กับบริษัทรัฐวิสาหกิจซึ่งรัฐเป็นเจ้าของ การจ่ายแบบนี้ทำให้รัฐได้เงินมาแก้ปัญหาประเทศเร็วขึ้น ไม่ต้องรอปันผลจากรัฐวิสาหกิจ ซึ่งอาจนำไปลงทุนผิดพลาดก็ได้ บริษัทต้องจ่ายเงินให้รัฐเร็วขึ้นกว่าเดิมน่าจะเสียประโยชน์มากกว่าได้ประโยชน์ เปรียบเสมือนว่าเอาเงินเดิมใส่กระเป๋ารัฐข้างหนึ่งมาใส่กระเป๋าสองข้างด้วยจำนวนเงินเดิมไม่มีความเสียหายใดเกิดขึ้นเลย" นายวีระภัทร ระบุ

    อย่างไรก็ตามเมื่อคดีอยู่ในกระบวนการพิจารณาคดีของศาลแล้ว เชื่อว่าศาลคงจะได้พิจารณาตรวจสอบว่า กรณีการแปลงค่าสัมปทานกิจการโทรคมนาคมเป็นภาษีสรรพสามิต เมื่อกระทรวงการคลังได้รับประโยชน์ตามที่ได้กล่าวมาแล้ว จะก่อเกิดความเสียหายแก่รัฐตามฟ้องของอัยการสูงสุดหรือไม่ ซึ่งจะได้ติดตามผลของคดีนี้ต่อไป.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"