29 ส.ค.62 - ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถ.แจ้งวัฒนะ นายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป นำแคชเชียร์เช็ค จำนวน 882,909.67 บาท ซึ่งเป็นเงินที่พรรคได้รับการจัดสรรจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง มาคืนให้กับ กกต.เนื่องจากหากรอ กกต.ประกาศให้พรรคสิ้นสภาพในราชกิจจานุเบกษา ตนก็จะไม่มีอำนาจที่จะเช็คดังกล่าวมาคืน เพราะถือว่าพ้นจากการเป็นหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคดังกล่าวแล้ว
อีกทั้งต้องการเป็นการสร้างบรรทัดฐานในทางการเมืองว่าเมื่อเลิกพรรคแล้วก็ควรคืนเงินอุดหนุนเป็นอันดับแรก และเมื่อมีประกาศ กกต.ในราชกิจจานุเบกษาให้พรรคสิ้นสภาพแล้ว ตนก็จะนำส่งงบการเงินมาให้นายทะเบียนพรรคภายใน 30 วัน จากนั้นสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินจะเข้ามาตรวจสอบการชำระบัญชีให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน ซึ่งตนก็จะมีหน้าที่เป็นอดีตหัวหน้าพรรคที่ต้องชี้แจงการใช้เงินของพรรคเท่านั้น ไม่รอให้การชำระบัญชีเสร็จแล้วจึงจะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองอื่นได้ แต่สามารถไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคอื่นได้หลังมีประกาศ กกต.ให้พรรคประชาชนปฏิรูปสิ้นภาพในราชกิจจานุเบกษา ดังนั้น การที่มีเจ้าหน้าที่ของ กกต.ออกมาแสดงความเห็น จึงเป็นการให้ข้อมูลกฎหมายที่ไม่ถูกต้อง กกต.ควรที่จะตักเตือน
นายไพบูลย์ กล่าวย้ำว่า จะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งก็จะถือว่าเป็น ส.ส.ของพรรค และจะมาขอหนังสือรับรองจากนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อนำไปยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ทั้งนี้ ไม่ต้องกังวลในเรื่องของลำดับที่ของ ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยตนถือเป็นเพียง ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค พปชร.เท่านั้น แม้มีการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งต้องการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ใหม่ ตนเองก็ไม่ได้เกี่ยวข้องหรือถูกกระทบ รวมทั้งหากมีการคำนวณคะแนนใหม่จริงโดยที่พรรคประชาชนปฏิรูปยังไม่สิ้นสภาพ ตนก็อยู่ในเซฟโซน เพราะยังมีอีก 5 พรรค ก่อนหน้าที่มีคะแนนน้อยกว่า.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |