29ส.ค.62-หึ่ง “ม.นครพนม” ถังแตก ! การบริหารงานภายในเละ บุคคลากรไม่ได้รับเงินเดือนตั้งแต่เดือนก.ค. เหตุบริหารงานไม่โปร่งใส ใช้งบฯผิดประเภท ขัดแย้งภายในสูง  ด้านครูฝึกวิทยาลัยการบิน ทิ้งบอมบ์ ร้อง ส.ส. เผย 1 ปีไม่ได้ค่าตอบแทน  ศาลอาญาทุจริตประทับรับฟ้องอดีตนายกสภาฯ ม.157

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ท่าอากาศยานจังหวัดนครพนม ขณะที่ นพ. ประสงค์ บูรณ์พงศ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย และรองหัวหน้าพรรคฯ จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยสารการบินแห่งหนึ่ง เพื่อเข้าประชุมสภาผู้แทนราษฎร  ปรากฎว่า ระหว่างนั้น มีนายวันนิวัติ อิทธิไชโย อายุ 29 ปี และ น.ส.อุทุมพร ขะระเขื่อน อายุ 35 ปี ปฏิบัติหน้าที่เป็นครูฝึกบิน วิทยาลัยการบินนานาชาติ มหาวิทยาลัยนครพนม ได้ไปรอดักพบ พร้อมกับยื่นหนังสือร้องเรียน ว่าการบริหารงานวิทยาลัยการบิน มหาวิทยาลัยนครพนมมีความบกพร่อง และมีความไม่โปร่งใสในสัญญาจ้าง จึงมาร้องขอความเป็นธรรมให้แก่ วิทยาลัยการบินฯ และกลุ่มผู้รับทุนครูการบินโครงการ Fly Oz

    นายวันนิวัติเปิดเผยว่าตามที่ ม.นครพนม และ ว.การบินฯ ได้มีการจัดทำโครงการ Fly Oz เพื่อพัฒนาขีดความรู้ ความสามารถครูการบิน และให้ทุนกับผู้ที่เข้ารับการฝึกอบรม ปรากฏว่าตั้งแต่เดือนกันยายน 2561 จนถึงปัจจุบัน ผู้รับทุนไม่เคยได้รับค่าตอบแทน หรือการช่วยเหลือเยียวยาใดๆจาก ม.นครพนม ภายหลังทราบว่าสาเหตุมาจากการบริหารผิดพลาดจนไม่เหลือเงิน ที่จะต้องนำมาจ่ายเงินเดือนแก่ครูการบิน ที่มีจำนวนทั้งสิ้น 16 คน โดยมีอัตราเงินเดือนแตกต่างกันไป มีตั้งแต่ 40,000-45,000 บาท ยังไม่รวมค่าที่พักเหมาจ่ายอีกคนละ 7,000 บาท

     ผู้ร้องเรียนกล่าวอีกว่า จากการบริหารงานที่ไม่เป็นธรรมของผู้บริหาร ที่นำเงินของ ว.การบินฯ ไปให้คณะอื่นๆ อีกทั้งยังตัดงบประมาณในการใช้จ่ายค่าสาธารณูปโภค เช่น ค่าไฟ ค่าน้ำ เป็นต้น และยังมีเรื่องของค่าประกันภัยเครื่องบิน ค่าน้ำมันเครื่องบิน รวมถึง การตัดงบประมาณค่าครองชีพของบุคลากรใน วิทยาลัยฯอีก จึงสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้รับทุนโครงการ Fly Oz และความเดือดร้อนได้ลุกลามไปถึงการบริหารงาน และดำเนินงานของ ว.การบินฯเป็นอย่างมาก อีกทั้งสร้างความแตกแยกและสับสนให้แก่บุคลากรในการปฏิบัติหน้าที่

    " กลุ่มครูฝึกบินได้ติดตามความคืบหน้าและตามแก้ไขปัญหาข้อบกพร่องของเอกสารตามที่ผู้บริหารมอบหมายให้ตัวแทนคนหนึ่ง ให้เป็นผู้กำกับดูแลเรื่องเอกสารต่างๆของผู้รับทุน แต่เหมือนเป็นการซื้อเวลาไปเรื่อยๆ เพราะตัวแทน ม.นครพนม ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา กลับเป็นตัวเพิ่มปัญหาสร้างความล่าช้า ขัดขวางกระบวนการลงนามสัญญาจ้างมากกว่า จึงสงสัยถึงความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ของตัวแทน ม.นครพนม ว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะเพิกเฉยต่อการรายงานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการ ว.การบินฯ สอบถามทีไรก็ตอบว่าต้องรอคำตอบจากผู้บริหาร และในทุกๆครั้งที่มีการติดตาม ก็จะได้รับคำตอบนี้มาโดยตลอด"นายวันวิวัติกล่าว

        พร้อมกับให้ข้อมูลเกี่ยวกับการรับทุนโครงการ Fly Oz อีกว่า ผู้รับทุนได้ทำสัญญาทุนกับผู้ว่าจ้างคือ ม.นครพนม ซึ่งในสัญญาจ้างในข้อ 8 ระบุว่า “เมื่อผู้ใดได้รับทุนสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรนี้ จะต้องเข้าปฏิบัติงาน ณ หน่วยงานในสังกัด ว.การบินฯ ม.นครพนม ภายในเวลา 7 วัน นับจากวันที่สำเร็จการศึกษา และได้รับการบันทึกศักย์ครูการบินลงในใบอนุยาตนักบิน เพื่อเป็นการชดใช้ทุน” ขณะนี้เวลาล่วงเลยมาเป็นเวลา 2 เดือนแล้ว ก็ยังไม่ได้รับการลงนามในสัญญาจ้าง หรือชี้แจงถึงปัญหาการลงนามในสัญญาจ้างอย่างเป็นทางการจากผู้ว่าจ้าง ซึ่งก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อผู้รับทุนเป็นอย่างมาก และเป็นการทำผิดสัญญาทุนอย่างจงใจและไร้ความรับผิดชอบ จึงจำเป็นต้องยื่นหนังสือร้องเรียน นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ในฐานะที่ท่านเป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมเป็นผู้ก่อตั้ง ม.นครพนม

       ด้าน นพ.ประสงค์ฯ เผยว่าจะรีบนำเรื่องความเดือดร้อนนี้ยื่นเป็นกระทู้ด่วน เพราะวันที่ 17 กันยายน นี้ ก็จะปิดสภาสมัยประชุม และทราบมาโดยตลอดว่า ม.นครพนม มีปัญหาด้านการบริหาร บุคลากรขัดแย้งแบ่งฝักแบ่งฝ่ายพวกใครพวกมัน การเรียนการสอนจึงล้าหลัง  ควรมีการแก้ไขตั้งแต่บนลงล่าง ล้มกระดานเก่าแล้วเชิญผู้มีวิสัยทัศน์มองการณ์ไกล มาผลักดัน ม.นครพนม ให้เป็นมหาวิทยาลัยใกล้บ้าน ที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง และเป็นมหาวิทยาลัยของชาวนครพนมจริงๆ “ไม่ใช่เหมือนทุกวันนี้ที่คนนครพนมไม่ได้มีส่วนรวมอะไรทั้งทางตรงและทางอ้อม เราเสียเวลามามากแล้ว

    นอกจากนี้  ยังมีตัวแทนของชาวจังหวัดนครพนม ยื่นหนังสือให้ติดตามตรวจสอบบริหารจัดการ และแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลใน ม.นครพนม โดยระบุว่าตั้งแต่ปี 2558 มีปัญหาการขัดแย้งของบุคลากรอย่างต่อเนื่อง  มีบางคนไม่มีคุณธรรมบริหารงานแบบรวบรัดและครอบงำ  กรรมการสภาผู้ทรงคุณวุฒิ ทยอยกันลาออกรวมทั้งสิ้น 7 คน รวมถึงนายสมชาย วิทย์ดำรงค์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ด้วย มีระบบพรรคพวก ใช้งบประมาณผิดประเภท ไม่เป็นไปตาม พรบ.งบประมาณที่ได้รับจัดสรร มีการพาพรรคพวกกว่า 150 คน ไปทัวร์ต่างประเทศสูญเงินไปหลายล้านบาท  ทั้งที่ ม.นครพนม ขาดแคลนงบประมาณ  และมีการจัดซื้อสื่อการศึกษาจากต่างประเทศที่ไม่สามารถใช้งานได้ให้กับโรงเรียนสาธิตฯ สูญเสียเงินงบประมาณไปกว่า 10 ล้านบาท 
        รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า การที่ผู้ปฏิบัติงานไม่ได้รับค่าตอบแทน โดยเฉพาะบุคลากรที่รับเงินเดือนจาก ม.นครพนม โดยตรงนั้น ได้เกิดปัญหาลุกลามไปทั่วทั้งมหาวิทยาลัยแล้ว ซึ่งเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีบางคณะไม่ได้รับเงินเดือน แต่พอถึงเดือนสิงหาคมเงินเดือนทุกคณะสาขาวิชา ยังไม่ได้เข้าบัญชีบุคลากรแม้แต่คนเดียว เป็นปัญหาความเดือดร้อนที่เกิดจากการบริหารงานผิดพลาด ซึ่งแหล่งข่าวเผยว่าขณะนี้ ม.นครพนม บริหารงานติดลบถึง 56 ล้านบาท
      ล่าสุดรายงานข่าวแจ้งว่า ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4(ขอนแก่น) ประทับรับฟ้องคดี ที่มีนายภาวิช ทองโรจน์ อดีตนายกสภามหาวิทยาลัยนครพนม พร้อมกรรมการสภาและอดีตกรรมการสภารวม 18 คน ตกเป็นจำเลย ซึ่งก่อนหน้านี้เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นายภาวิชถูกศาลอาญาทุจริตฯภาค 4 ประทับรับฟ้องมาแล้ว 1 คดี และเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ศาลอาญาทุจริตฯภาค 4 จะพิจารณาอีก 1 คดี ในข้อกล่าวหาเดียวกันคือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ