ลูกหลานเด็กนวดฝ่าเท้าปู่ย่า ศาสตร์บำบัดกระชับคน2วัย


เพิ่มเพื่อน    

       “การนวด” ไม่เพียงเป็นศาสตร์ของการรักษา และบรรเทาอาการปวดเมื่อยของไทยที่มีมาแต่คุณปู่ย่าตาทวด ที่สำคัญยังเป็นกิจกรรมที่กระชับความผูกพัน ระหว่างลูกหลานและปู่ย่าตายาย เนื่องจากคน 2 ช่วงวัยที่ปัจจุบันมักจะสื่อสารกันน้อยลง เพราะวัยรุ่นมักจะให้ความสนใจกับเทคโนโลยี หรืออยู่กับเพื่อนวัยไล่เลี่ย ที่พูดคุยและสื่อสารด้วยภาษาเดียวกัน แต่ถ้าหากน้องๆ หนูๆ มีทักษะในการนวดฝ่าเท้า ก็จะทำให้ได้ใช้เวลาร่วมกับผู้สูงวัยมากขึ้น ที่สำคัญฝ่าเท้าถือเป็นจุดศูนย์รวมของเส้นประสาท ที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะภายในร่างกาย อีกทั้งศาสตร์การนวดกระชับความผูกพันดังกล่าวนั้น เป็นท่าที่ทำง่าย เด็กๆ สามารถเรียนรู้ และนำไปปรนนิบัติให้คุณตาคุณยายได้

(ศรีรัตน์ นาผลงาม)

       พี่รัตน์-ศรีรัตน์ นาผลงาม อาสาสมัครสาธารณสุข เขตคลองเตย ผู้ฝึกสอนการนวดฝ่าเท้าให้กับเด็ก และเยาวชนชุมชนคลองเตย “ล็อก 4 5 6”  ให้ความรู้ไว้น่าสนใจว่า เจ้าตัวเป็นอาสาสมัครสาธารณสุขมา 12 ปี และเคยทำโครงการสุขภาพเกี่ยวกับการนวดเพื่อให้ความรู้กับคนในชุมชนย่านคลองเตย เนื่องจากเป็นศาสตร์การแก้อาการปวดเมื่อยของคนไทยมายาวนาน และมีประโยชน์ค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะการที่บ้านเรากำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ที่สำคัญโรคภัยไข้เจ็บก็มักจะเกิดจากการที่เราไม่ดูแลตัวเอง จึงเกิดเป็นที่มาของการนำความรู้ด้านการนวดฝ่าเท้าดังกล่าวมาสอนให้เด็กและเยาวชน เพื่อให้ได้นำไปดูแลผู้สูงอายุ เนื่องจากชุมชนที่ตัวเองอาศัยอยู่นั้น เด็กส่วนใหญ่มักจะมีผู้สูงอายุเลี้ยงดู อีกทั้งเล่นอยู่ตามลำพัง เพราะพ่อแม่ต้องออกไปประกอบอาชีพ ที่สำคัญเจ้าตัวก็จะสอนเด็กอ่านหนังสือ ทำการบ้าน ควบคู่กับการนวดผู้สูงวัยเป็นประจำ เพื่อทำให้น้องๆ ได้ทำกิจกรรมยามว่างที่มีประโยชน์ โดยรวมแล้วจะมีน้องอายุ 8-10 ขวบมาเรียนนวด และทำกิจกรรมร่วมกันประมาณ 20 คน

       “เนื่องจากคน 2 วัยอย่างเด็กและผู้ใหญ่มักจะมีปฏิสัมพันธ์กันน้อยลง นั่นจึงทำให้เกิดช่องว่างระหว่างวัย ที่สำคัญการที่เด็กนวดฝ่าเท้าให้ผู้ใหญ่ แน่นอนว่าปู่ย่าตายายจะรู้สึกดีกับลูกหลาน และลูกหลานเองก็ยังได้ใกล้ชิดผู้สูงวัย ทำให้การปฏิสัมพันธ์ดีขึ้น เพราะเด็กในชุมชนคลองเตยส่วนใหญ่จะมีปู่ย่าตายายคอยเลี้ยง เพราะกลางวันพ่อแม่จะออกไปทำงาน และเด็กในชุมชนที่พี่สอนนวดส่วนใหญ่จะอยู่ประมาณ ป.4-ป.5 เป็นต้นไป หรือราว 9-10 ขวบ เพราะถ้าเด็กอายุน้อยกว่านั้น กำลังแขนเขาก็จะค่อนข้างเบาเมื่อนวด แต่เด็กเล็กบางคนที่ตามพี่มานวด และอยากลองฝึกพี่ก็สอนให้ค่ะ

       ส่วนการที่เลือกสอน “นวดฝ่าเท้า” คุณตาคุณยายให้กับเด็กนั้น เพราะฝ่าเท้าเป็นจุดศูนย์รวมของเส้นประสาทที่เกี่ยวข้องกับระบบภายใน เช่น กระเพาะอาหาร ลำไส้ และวัตถุประสงค์ของการนวดดังกล่าวก็เพื่อทำให้เกิดความผ่อนคลาย และยังเป็นการใช้มือเล็กๆ สัมผัสไปที่บริเวณเท้าของผู้สูงอายุโดยทั่ว อีกทั้งเป็นท่านวดที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายแต่อย่างใด ซึ่งแต่ละท่าก็ไม่ยาก และเด็กสามารถทำได้”

       พี่รัตน์บอกอีกว่า ท่านวดที่สอนเด็กๆ นั้นมีทั้งหมดประมาณ 10 ท่าที่ต้องทำต่อเนื่องกัน แต่เวลาที่นวดจริงๆ นั้น เด็กๆ สามารถนวดท่าที่จำได้ก็เพียงพอแล้ว เพราะจุดประสงค์ของการนวดบำบัดนี้ ต้องการให้ลูกหลานใกล้ชิดกับปู่ย่าตายาย และรู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ มากกว่าการเล่นซนหรือจับกลุ่มพูดคุยอยู่กับเพื่อนวัยไล่เลี่ยกันเท่านั้น หรือชวนเพื่อนเล่นเกม และก่อนนวดทุกครั้งนั้น นอกจากการล้างทำความสะอาดเท้าของปู่ย่าแล้ว แนะนำให้เด็กๆ ชโลมครีมบำรุงผิวลงบนเท้า เพื่อสร้างความชุ่มชื่น เพราะการเลือกทาโลชั่นบำรุงผิวที่ฝ่าเท้าจะไม่ก่อให้เกิดอาการแสบร้อนที่มือของเด็ก เท่ากับน้ำมันสมุนไพรต่างๆ

(“ท่ามะเหงกวนหลังเท้า”)

       “สำหรับท่านวดฝ่าเท้าที่เด็กทำได้นั้น มีตั้งแต่ 1.คือ “ท่าปั่นข้อเท้า” ซึ่งเป็นท่านวดเท้าสเต็ปแรก โดยเริ่มจากให้เด็กใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างประคองที่เท้าใดเท้าหนึ่งของปู่ย่าตายาย จากนั้นให้ลงไปน้ำหนักมือไปที่ฝ่าเท้าซึ่งประคองเท้าอยู่ ในลักษณะของการปั่นวนเบาๆ ที่เท้า ซึ่งท่านี้เรียกว่าเป็นการวอร์มอัพข้อเท้าและปลายเท้า เพื่อกระตุ้นเลือดลมให้ไหลเวียนได้ดี ระยะเวลาในการทำท่าดังกล่าวให้นับ 1-10 ทำทั้งหมด 10 ครั้ง

(“ท่ามะเหงกครูดเท้า”)

       นอกจากนี้ ยังมีท่านวดฝ่าเท้าที่เด็กทำได้อย่างง่ายๆ เช่น “ท่าลูบเอาใจ” โดยการประกบมือทั้งสองที่เท้าใดเท้าหนึ่งของผู้สูงอายุ จากนั้นใช้มือลูบจากปลายเท้าด้านบนลงด้านล่าง ตามด้วยการทำสลับมือกัน หรือวางมือซ้าย-ขวา เพื่อวางบนล่างสลับกัน (ยังคงนวดเท้าเดิม) ทำต่อเนื่องกัน 10 ครั้ง หรือ “ท่ามะเหงกครูดเท้า” โดยการทำมือมะเหงกข้างใดข้างหนึ่ง จากนั้นใช้มืออีกข้างจับที่เท้าของผู้สูงอายุ โดยหงายฝ่าเท้าคุณตาคุณยายขึ้น แล้วใช้มือที่ทำท่ามะเหงกครูด จากปลายเท้าด้านบนลงด้านล่าง (ทำทีละข้าง) ทำทั้งหมด 10 ครั้ง ปิดท้ายกันที่ “ท่ามะเหงกวนหลังเท้า” โดยเริ่มจากที่เด็กคว่ำเท้าผู้สูงอายุลง จากนั้นใช้มืออีกข้างจับประคองที่ใต้ฝ่าเท้า และใช้มือที่ทำท่ามะเหงกวนเบาๆ ที่หลังเท้า โดยค่อยๆ วนจากซ้ายไปขวา หรือวนตามเข็มนาฬิกานั่นเอง ขณะที่ทำนั้นให้นับ 1-10 จากนั้นให้เปลี่ยนสลับนวดเท้าซ้ายและเท้าขวา”.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"