ช่วงนี้.....
นายกฯ ตกที่นั่ง "จันทร์ต้องราหูอม"
อมชนิด "ดีปโธรต" ซะด้วย!
แต่ราหูก็ตาเหลือกกระเดือกลิ้นไก่อมคาไว้เท่านั้น ไม่สามารถกลืนจันทร์ลงท้องได้
เรื่อง "ถวายสัตย์ปฏิญาณ" จบ
แต่ราหู "จอมหาเรื่อง" ไม่ยอมจบง่ายๆ แม้ถูกจันทร์ถีบหงายท้องก็เถอะ
อีกทั้งจะมีเรื่องใหม่ทยอยเข้ามาเป็น "ด่านวิบาก" ให้จันทร์ฟันฝ่าอีกหลายด่าน
ยืนระยะจนถึงกลางพฤศจิกาให้ได้
"กรรมเก่า" ชดใช้ "กรรมใหม่" ไม่ก่อ ก็จะถึงเวลาจันทร์กระจ่างฟ้า เศรษฐกิจประเทศฟู่ฟ่า เงินไหลนอง ทองไหลมา
การค้า-การขาย "ไทยรวย-ไทยเจริญ"!
ก็มาเข้าเรื่องของเรา....
ทราบความในพระราชดำรัสพร้อมลายพระราชหัตถ์ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่คณะรัฐมนตรีเมื่อวาน (๒๗ ส.ค.๖๒) กันแล้วกระมัง?
นายกฯ นำพระราชดำรัสพร้อมลายพระราชหัตถ์เข้ากรอบทอง อวดนักข่าวทำเนียบฯ ทันที ความว่า ดังนี้
"ขอถือโอกาสนี้ ให้พรให้ท่านมีกำลังใจ ความมั่นใจ และความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้ได้ตามคำถวายสัตย์ปฏิญาณ. ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์สุขและความมั่นคงของประเทศชาติและประชาชน. งานใดๆ ก็ต้องมีอุปสรรค งานใดๆ ก็ต้องมีปัญหา. เพราะฉะนั้น ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องแก้ปัญหา และเข้าหางาน เพื่อให้การบริหารประเทศ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามสถานการณ์ โดยแก้ไขให้ตรงเป้าตรงจุด และมีความเข้มแข็งอดทน.
ก็ขอให้คณะรัฐมนตรีและรัฐบาลได้มีกำลังใจ มีพลังที่จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยดีด้วยความถูกต้องต่อไป"
........................
๑๖ กรกฎาคม ๒๕๖๒
ครับ....
จากพระราชดำรัสพร้อมลายพระราชหัตถ์นี้ ชัดเจนถึงความสมบูรณ์เรื่อง "ถวายสัตย์ปฏิญาณ" อยู่ในตัวแล้ว
เป็นพระราชดำรัสเดียวกับวันที่ "พลเอกประยุทธ์" นำคณะรัฐมนตรีเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ เมื่อ ๑๖ ก.ค.๖๒ นั่นแหละ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพอพระราชหฤทัยในคำถวายสัตย์ปฏิญาณวันนั้น
จึงพระราชทานพร....
พร้อมทั้งมีพระราชดำรัสอันเป็นมงคลสูงสุด กับพลเอกประยุทธ์และคณะรัฐมนตรี ดังความในกรอบทองของนายกฯ นั้นแล้ว
และวานนี้ (๒๗ ส.ค.๖๒)
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชดำรัส ถ่ายทอดบันทึกเป็นอักษร พร้อมลายพระราชหัตถ์ แก่รัฐมนตรีทุกคน
ทุกฝ่าย "จบ" ด้วยเข้าใจ
แต่ดูเหมือน "ปิยบุตร-อนาคตใหม่" ไม่ยอมจบ!?
ก็เป็นที่เข้าใจได้ในความเป็นสาวก "แซ็ง-ฌุสต์" แกนนำปฏิวัติฝรั่งเศส
ทั้งเรียกร้องให้ประหารชีวิต "พระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๖" เมื่อปี ๑๗๙๓ และเร่าร้อนร่างรัฐธรรมนูญฉบับทรราชแซ็ง-ฌุสต์
ดึงดันจะเปิดอภิปรายทั่วไป.....
ก็เอาตามที่ชอบละกันนะ...สุดกร่าง!
พรรคแกนนำฝ่ายค้าน พร้อมเป็นขนมจีนผสมน้ำยาบูดอยู่แล้วมิใช่หรือ?
กลับมาพูดถึงนายกฯ ต่อ เรื่องถวายสัตย์ปฏิญาณ จบไปขั้นตอนหนึ่ง ยังต้องติดอีกขั้นตอนหนึ่ง
คือขั้นตอน "ผู้ตรวจการแผ่นดิน"
มีคนไปร้องให้ส่งเรื่องสู่ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยไว้ ๔ ราย
คือ พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส, นายศรีสุวรรณ จรรยา และนายอัยย์ เพชรทอง
คำร้อง ๓ รายนี้ ผู้ตรวจการพิจารณาแล้ว เห็นว่า
กรณีการถวายสัตย์ไม่ครบเป็นเรื่องของการกระทำ ไม่ใช่บทบัญญัติกฎหมาย
จึงไม่ได้เป็นประเด็นว่า ข้อความหรือถ้อยคำในการกล่าวถวายสัตย์มีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญที่ต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญ
ทั้งเมื่อเป็นการกระทำ ก็เห็นว่า....
ไม่ใช่การกระทำทางปกครอง ที่อยู่ในอำนาจพิจารณาของศาลปกครอง
จึงมีมติให้ "ยุติเรื่อง"
ส่วนราย "นายภาณุพงศ์ ชูรักษ์" ร้องว่า..........
พลเอกประยุทธ์ และคณะรัฐมนตรี ถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ ไม่เป็นไปตามบทบัญญัติมาตรา ๑๖๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ เป็นการกระทำที่ละเมิดต่อสิทธิและเสรีภาพของผู้ร้องเรียน
ผู้ตรวจการแผ่นดิน เห็นว่า.....
การกระทำของผู้ถูกร้องเรียน เป็นการกระทำที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ การกระทำนั้นเป็นอันใช้บังคับมิได้ ตามมาตรา ๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐
อันเป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของผู้ร้องเรียน ที่รัฐธรรมนูญให้การรับรองและคุ้มครองไว้
จึงยื่นคำร้อง พร้อมความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัย
สรุป คือ......
เรื่องถวายสัตย์ปฏิญาณของนายกฯ ในประเด็น "สิทธิเสรีภาพ" ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ
คนละประเด็นกับ "ถวายสัตย์ปฏิญาณ" ด้วยข้อความ "ครบ-ไม่ครบ" ซึ่งประเด็นนั้น ยุติไปแล้ว
เรียกว่านายกฯ ยังอยู่ในพงหนาม แต่ก็ดี คาใจในความชอบด้วยรัฐธรรมนูญตรงไหน ก็ให้สะเด็ดน้ำซะที่ศาลฯ
ก็บอกแล้ว นายกฯ อยู่ในช่วงถูกราหูอม.........
จำกันได้มั้ย ประเด็นตำแหน่งหัวหน้า คสช.ถือเป็น "เจ้าหน้าที่อื่น" ของรัฐ ต้องห้ามถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ หรือไม่?
ที่ฝ่ายค้านยื่นให้ประธานสภาส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เดือนก่อนโน้น
เมื่อวาน ถึงคิวศาลรัฐธรรมนูญอภิปรายในประเด็นนี้ และศาลฯ ก็มีความเห็นว่า
ประเด็นแห่งคดี "เป็นปัญหาข้อกฎหมาย"
จึงไม่ไต่สวนตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญมาตรา ๕๘ วรรคหนึ่ง
นัดอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟัง พุธที่ ๑๘ ก.ย. ๑๔.๐๐ น.
มาตรา ๕๘ ว่าอย่างไร........
ในประเด็นปัญหาข้อกฎหมาย มีว่าอย่างนี้
"หากศาลเห็นว่าคดีใดเป็นปัญหาข้อกฎหมาย หรือมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้
ศาลอาจประชุมปรึกษาเพื่อพิจารณาและวินิจฉัยโดยไม่ทําการไต่สวนหรือยุติการไต่สวนก็ได้....ฯลฯ...."
ก็มีความน่าจะเป็นว่า ในเมื่อเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ก็ไม่อยู่ในกรอบอำนาจหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา ๗ ที่จะวินิจฉัย
สรุป ๑๘ กันยา ประเด็นนี้ "มีคำตอบ" จากศาลฯ
หมดคิวจันทร์ ก็ถึงคิวราหูบ้างละ!
เมื่อวาน ศาลรัฐธรรมนูญ นอกจากอภิปรายคดี "หัวหน้า คสช.เป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่" แล้ว
ยังได้อภิปรายคำร้องที่ กกต.ขอให้พิจารณาวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพการเป็น ส.ส.ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ จากการถือครองหุ้นสื่อบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด?
ศาลฯ นัดอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยต่อ ในคราวประชุมถัดไป
สรุป คือ....
ประชุมนัดหน้า ธนาธร "หมู่หรือจ่า" รู้กัน!
ประเด็นนี้ เข้าตามมาตรา ๗ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.๒๕๖๑
(๕) คดีเกี่ยวกับการสิ้นสุดสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภา
ดังนั้น มี ๒ สถาน สำหรับธร ไม่เข้าสภา ก็พ้นสภา ฉะนั้น เดินสายปลุกระดมอภิวัฒน์คณะราษฎรล้มอำนาจกษัตริย์ค้างอยู่ที่ไหน
รีบๆ สุมฟืน-สุมไฟสานต่อ หน่อยนะ..ธร
เพราะจบจากนี้.........
ยังมีคดี "ปล่อยเงินกู้พรรค" ใช้หาเสียงเลือกตั้งอยู่อีก
ถึงคุก-ถึงยุบ เชียวนะ..ธร!
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |