นายกฯ ยืนยัน "อับดุลเลาะ" ไม่ได้เสียชีวิตเพราะถูกซ้อม ลั่นจากนี้ไปจะให้ถ่ายวิดีโอไว้ขณะจนท.คุมตัวผู้ต้องสงสัยทุกครั้ง โวยสื่อต้องเสนอข่าวให้ครบถ้วนตามที่ กอ.รมน.ภาค 4 แถลง 
    พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา ถึงกรณีกลุ่มเยาวชนชายแดนใต้ เปอร์มาส เตรียมเดินทางมาสอบถามรัฐบาลถึงกรณีการเสียชีวิตของนายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ ว่าตนได้สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคงประชาสัมพันธ์กรณีดังกล่าวเพิ่มเติม ซึ่งเราพร้อมที่จะให้ข้อมูลอยู่แล้ว 
    ทั้งนี้ เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ตนจำได้ว่ามีการชี้แจงจากโรงพยาบาลทั้ง 3 แห่ง ประกอบด้วย โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร, โรงพยาบาลปัตตานี และโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ซึ่งได้รับรายงานตรงกันว่าผลการตรวจร่างกายของนายอับดุลเลาะนั้นปกติ ไม่มีร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกายจากทั้งภายในและภายนอก ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต ทางโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ชี้แจงว่าเกิดจากสาเหตุปอดอักเสบและติดเชื้ออย่างรุนแรง ซึ่งกรณีดังกล่าวคงไม่ได้เกิดจากการซ้อมทรมาน
    "ผมยินดีที่จะให้มีการตรวจสอบต่างๆ ให้เกิดความชัดเจนยิ่งขึ้น รัฐบาลบอกมาโดยตลอดว่าเราไม่มีนโยบายใช้ความรุนแรงกับผู้ต้องสงสัย หรือผู้ต้องหา คงต้องให้มีการถ่ายเทปถ่ายวิดีโอไว้ทุกครั้ง เพื่อไม่ให้มีปัญหาอีกต่อไป และขอให้ทุกฝ่ายฟังคำชี้แจงผลการตรวจจากโรงพยาบาลและผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย" พล.อ.ประยุทธ์ระบุ
    ผู้สื่อข่าวถามถึงมาตรฐานการประชาสัมพันธ์ ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "ผมได้กำชับให้มีการชี้แจงในทุกประเด็นของเหตุการณ์เกิดขึ้นมาโดยตลอด แต่ข้อความบางข้อความที่สื่อนำเสนอมันถูกตัดหายไป ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุผลประการใด เพราะฉะนั้นขอให้สื่อช่วยเสนอข่าวให้ครบด้วย ประชาชนหรือผู้ต้องสงสัยทุกคนสามารถสอบถามข้อเท็จจริงได้โดยตลอดจาก กอ.รมน.ภาค 4 ซึ่งพวกเขาพร้อมจะชี้แจงอยู่แล้ว"
    นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า กอ.รมน.ภาค 4 ไม่ใช่กองทัพภาค 4 แต่เป็นหน่วยงานที่รวมกันทั้งพลเรือน และทหารสำหรับการทำงานในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นพื้นที่พิเศษ ซึ่งมีหลายคนหลายกลุ่มพยายามบิดเบือนข้อมูลข่าวสารต่างๆ ให้เกิดความคลาดเคลื่อนมาโดยตลอดในเกือบทุกเรื่อง จึงขอให้ทุกคนมีสติในการรับข่าวสารและมีภูมิต้านทานที่ดี
    เมื่อถามถึงกรณีแนวคิดการสร้างรั้วกั้นแนวชายแดนตลอดแนวแม่น้ำโก-ลก จ.นราธิวาส พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า แนวคิดดังกล่าวเป็นแนวคิดเสริมสร้างความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน ซึ่งเราต้องมองเป็น 2 มิติ แต่มิติที่สำคัญที่สุดคือความมั่นคง เพราะตอนนี้ การข้ามไปมาระหว่างชายแดนเพื่อก่อเหตุความรุนแรงนั้นยังคงมีอยู่ อย่างไรก็ตาม แนวคิดดังกล่าว ต้องเป็นความตกลงระหว่างรัฐบาลของประเทศไทย และมาเลเซีย แต่ตอนนี้คงยังไม่สร้าง
    "ท่านต้องเข้าใจว่าสถานการณ์ตรงนั้นมันมีความแตกต่าง เพราะมีแม่น้ำโก-ลก ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ไม่ลึกมากนัก และแคบ จึงมีการเล็ดลอดต่างๆ ได้ ส่วนการจะสร้างอย่างไร เมื่อไร ต้องมีการหารือกันอีกครั้ง ทั้งในส่วนของฝ่ายความมั่นคงและประเทศมาเลเซีย โดยต้องดูทั้งสภาพภูมิประเทศ งบประมาณ สภาพความเป็นอยู่ของประชาชนทั้ง 2 ฝั่ง ญาติพี่น้อง ซึ่งเรื่องนี้มีช่องทางที่ถูกต้องตามกฎหมายอยู่แล้ว" นายกฯ และรมว.กลาโหมระบุ.