"ปิยบุตร" ซัด "ไพบูลย์โมเดล" ใช้ช่องบิดเบือน กม. ยันเลิกพรรคตัวเองไม่สามารถทำได้ หวั่นทำลายระบบพรรคการเมือง สร้างบรรทัดฐานพรรคเล็กทำตาม มั่นใจ 3 คดีใหญ่ไม่ส่งผลถึงขั้นยุบพรรค โวย "พท." พาดพิงยุบส้มหวาน บอกถ้าหวังดีต้องมาคุยกัน "ชลน่าน-สุทิน" โร่ขอโทษ อ้างพูดดักคอตีกันไว้ก่อน "บิ๊กตู่" ลุ้นศาล รธน.นัดชี้สถานะหัวหน้า คสช. 18 ก.ย.นี้
ที่พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) วันที่ 27 ส.ค. นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค อนค. กล่าวถึงการยุบพรรคประชาชนปฏิรูป ของนายไพบูลย์ นิติตะวันว่า ประเด็นการยุบพรรคประชาชนปฏิรูป ตาม พ.ร.บ.การเมือง 2560 มีเจตนารมณ์ที่จะไม่ควบรวมพรรคการเมือง ผู้ร่างมีบทเรียนจากกรณีที่พรรคไทยรักไทย เมื่อเข้าสู่สภาก็ไปควบรวมพรรคความหวังใหม่ พรรคเสรีธรรม พรรคชาติพัฒนา เพื่อให้ได้เสียงส่วนใหญ่เกิน 300 เสียง ในกฎหมายฉบับนี้จึงเขียนไว้ในหมวด 9 ว่าหากจะควบรวมพรรคการเมืองแบบไม่มีเงื่อนไขไม่ได้ การควบรวมพรรคตามกฎหมายในปัจจุบันจะเกิดได้ในเงื่อนไขดังนี้คือ ถ้าอยู่ในสมัยประชุมสภาฯ ห้ามควบรวมพรรคการเมืองเด็ดขาด เพราะป้องกันการควบรวมหลังเลือกตั้งเสร็จ อาจเกิดการส่งพรรคนอมินีลงแข่ง เสร็จแล้วมาควบรวม และการควบพรรคเล็กไปอยู่กับพรรคใหญ่ ก็ห้ามทำ แต่หากจะรวมพรรคกัน ต้องให้กำเนิดพรรคใหม่ สุดท้ายเมื่อรวมพรรคกันแล้วต้องมีการประชุมใหญ่เพื่อมีมติออกมาว่าจะรวมพรรคกัน เจตนารมณ์ชัดเจนอยู่แล้วว่าไม่ต้องการให้เกิดการควบรวมพรรค
นายปิยบุตรกล่าวว่า กฎหมายมีช่องไว้สำหรับพรรคการเมืองที่ไปต่อไม่ได้ และอยากจะเลิกกิจการ ซึ่งมีเขียนไว้ในมาตรา 91 (7) ว่าหากพรรคมีอยากจะเลิกกิจการตามมติที่เขียนไว้ สามารถเลิกกิจกรรมพรรคได้ เพื่อคุ้มครอง ส.ส.ที่อยู่ในสังกัด หากมีการเลิกพรรค ก็ให้ปฏิบัติเหมือนถูกยุบพรรค และต้องหาพรรคใหม่อยู่ภายใน 60 วัน ปัญหาคือ การยกเลิกพรรคต้องไม่กระทบกระเทือนกับการควบรวมพรรค ต้องไม่ใช้ช่องทางบิดเบือนไปเป็นการควบรวมพรรค
“กรณีของพรรคประชาชนปฏิรูป ตามที่ กกต.ประกาศให้สิ้นสภาพ ด้วยเหตุที่มีการเลิกพรรคตามข้อบังคับ ในความเห็นของผม จากการพิจารณากฎหมายทั้งระบบ คือการเลิกพรรคแบบนี้ไม่สามารถทำได้ เพราะเป็นการใช้บทบัญญัติเลิกพรรคแบบบิดผัน ที่ไม่สอดคล้องกับ พ.ร.บ.พรรคการเมือง เพราะรู้ว่าเลิกตรงๆ ไม่ได้ จึงหนีไปใช้ช่องเลิกพรรค เพื่อควบรวมพรรค” นายปิยบุตรกล่าว
เลขาฯ พรรค อนค.กล่าวว่า ต่อจากนี้จะเกิดผลเสียเป็นลูกระนาด เพราะพรรคเล็กจะใช้ช่องทางนี้ในการควบรวมกับพรรคใหญ่ ส่งผลการคำนวณคะแนนแบบบัญชีรายชื่อใหม่ทั้งหมด หากมีการเลือกตั้งใหม่ พรรคที่เลิกกิจการไป จะนำคะแนนมารวมที่พรรคไหนหรือทิ้งน้ำไป และจะส่งผลให้ ส.ส.พรรคเล็กที่ย้ายพรรคใหญ่ คือจะกลายเป็น ส.ส.ที่ไม่มีวันหลุดอีกเลย
“ตัวอย่างหากนายไพบูลย์ไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ แล้วเกิดการเลือกตั้งซ่อมใหม่ในเขตหนึ่ง จนคะแนนดิบเปลี่ยน ก็ต้องนำคะแนนมาคำนวณใหม่ เดิมนายไพบูลย์อยู่พรรคประชาชนปฏิรูป ก็ต้องหวังว่าคะแนนตัวเองจะไม่ถึง แต่เมื่อย้ายไปพรรคพลังประชารัฐ จะไม่มีวันหลุดจากการเป็น ส.ส. แต่คนที่จะหลุดคือ ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับสุดท้ายของพรรคพลังประชารัฐ ถ้าผมเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับสุดท้ายของพรรคนั้น ก็คงไม่อยากรับนายไพบูลย์เข้ามา ส่วนผลเสียอีกอย่างคือ เป็นการทำลายระบบพรรคการเมือง และทำลายเจตจำนงที่ประชาชนเลือกนายไพบูลย์ แต่นายไพบูลย์ทิ้งคะแนนกว่า 4 หมื่นคะแนน ดังนั้นการตีความของ กกต.ต้องตีทั้งระบบ ไม่ใช่ตีความตามแค่ตัวอักษร ไม่เช่นนั้นจะเกิดการนำเอาตัวอักษรมาเล่นแร่แปรธาตุ หลบช่องกฎหมายตลอดเวลา” เลขาฯ พรรค อนค.กล่าว
'อนค.'มั่นใจไม่โดนยุบ
นายปิยบุตรยังกล่าวถึงคดีความของพรรคและข่าวลือการยุบพรรค อนค.ว่า วันนี้คดีความพรรคมียอดรวบคดีทั้งหมด 22 รายการที่เข้าสู่องค์กรต่างๆ ทั้งรายบุคคลและทั้งพรรค เรื่องที่ถูกจับตาคือเรื่องหุ้นวี-ลัค ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค วันนี้สถานะล่าสุดศาลรัฐธรรมนูญจะมีการจัดประชุมว่าจะมีมติเปิดการจัดการไต่สวนพิจารณาหรือไม่ หากมีมติให้มีการไต่สวน ศาลจะนัดคู่ความและพยานมาและนัดวันไต่สวน แต่หากไม่มีการไต่สวน ศาลก็จะนัดวันวินิจฉัย คาดว่าประมาณ 1 เดือนก็จะมีคำวินิจฉัย
เลขาฯ พรรค อนค.กล่าวว่า คดีอิลลูมินาติที่มีชายนายหนึ่งไปร้องศาลรัฐธรรมนูญ ที่อ้างว่านายธนาธร และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคใช้เสรีภาพในการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข คดีนี้เราจะหมดเวลาที่เราจะยื่นคำให้การต่อศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 5 ก.ย. ตอนนี้ยังอยู่ในชั้นคำให้การอยู่ และคดีที่นายธนาธรให้พรรคกู้เงิน อยู่ในชั้นของ กกต. การสืบสวน สอบสวน และไต่สวน
“ทั้งสามคดีหากมองอย่างเลวร้ายที่สุด เรื่องหุ้นวี-ลัคของนายธนาธรไปได้ไกลแค่การหลุดจากการเป็น ส.ส. คดีอิลลูมินาติไปได้ไกลแค่ศาลสั่งให้งดใช้เสรีภาพที่เป็นการกระทำในการล้มล้างระบอบประชาธิปไตย และคดีเรื่องนายธนาธรให้พรรคกู้เงินไปได้ไกลแค่ต้องนำเงินไปคืน สรุปคือทั้งสามคดีไม่เกี่ยวกับการยุบพรรคเลย และเราจะสู้คดีอย่างถึงที่สุด” เลขาฯ พรรค อนค.กล่าว
นายปิยบุตรกล่าวว่า ข่าวลือมาดังกระหึ่มอีกจากการวิเคราะห์ของพรรคเพื่อไทย (พท.) เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่ากิจกรรมเจอดาวสภาที่จัดนั้นไม่เป็นข่าว มีแต่ข่าวการยุบพรรค อนค.กลับดังขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ ตนก็ขอบคุณในความห่วงใย แต่ยืนยันว่าพรรคอนาคตใหม่เรามีแนวทางของเรา ส่วนตัวเวลาเจอนายสุทิน คลังแสง และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.พรรค พท.ก็ไม่เคยพูดคุยกันเรื่องนี้ ถ้ามาบอกตรงๆ ก็จะเข้าใจว่าท่านหวังดี
"หากผมเป็นท่าน เมื่อได้ทราบข่าวแบบนี้เกิดขึ้นกับพรรคเพื่อนบ้าน ผมจะเข้าไปบอกตรงๆ ไม่ใช้กิจกรรมแบบนี้ แถลงข่าวลือสมาชิกพรรคผมก็จะเสียความเชื่อมั่น แล้วก็ต้องมาแก้ปัญหาทั้งวัน การสื่อสารความหวังดี ให้มาบอกตนตรงๆ เพราะเราเป็นเพื่อนบ้านกัน ไม่ทราบว่าความหวังดีนั้นคุณต้องการพูดกับใคร คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ผมไม่เคยวิเคราะห์สถานการณ์ของพรรค พท.แบบที่พรรค พท.ทำกับพรรค อนค.อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ของพรรคร่วมฝ่ายค้านยังเหนียวแน่นอยู่" นายปิยบุตรกล่าว
ที่พรรคเพื่อไทย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรค พท. พร้อมด้วยนายโภคิน พลกุล คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค, นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน และ ส.ส.มหาสารคาม, นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ร่วมกันแถลงข่าว
นพ.ชลน่านกล่าวว่า ที่พูดกันในวันนั้นเป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้าเวทีช่วงที่กำลังพูดถึงการจะขอเลิกพรรคการเมืองประชาชนปฏิรูปของนายไพบูลย์อาจจะส่งผลกระทบอะไรตามมาหรือไม่ เราก็มีความหวั่นวิตกว่าอาจกระทบมาถึงพรรคฝ่ายประชาธิปไตยที่จะถูกทำลาย โดยใช้ไพบูลย์โมเดลมาทำลาย เราไม่ได้เปิดประเด็นที่เชื่อว่าพรรค อนค.จะถูกยุบ
"นายปิยบุตรสะท้อนมาว่าการพูดเช่นนี้อาจทำให้สมาชิกพรรค อนค.หวั่นไหวได้ ผมต้องขอกราบขออภัยที่ทำให้เกิดความหวั่นไหว ที่พูดไปด้วยความหวังดี เราไม่อยากให้พรรค อนค.ถูกทำลายด้วยอภินิหารกฎหมาย แต่ที่พูดไปเพียงจะดักคอ ตีปลาหน้าไซเอาไว้ ต้องการชี้ให้เห็นว่าเราไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ พรรค พท.ไม่เคยไปวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองแต่ละพรรค แต่ที่พูดไปวันนั้นเกิดจากอารมณ์ตัวผู้พูด คือตัวผมเอง และส่วนตัวไม่เชื่อด้วยว่าพรรค อนค.จะไม่ถูกยุบพรรค" นพ.ชลน่านกล่าว
นายสุทินเสริมว่า เมื่อเกิดเรื่องแล้วเพื่อนไม่ค่อยสบายใจ เราก็เสียใจและกังวลอยู่ เมื่อวันที่ 26 ส.ค.พยายามโทร.หา แต่อาจจะติดต่อไม่ได้ ตนต้องขอโทษด้วยที่พูดไป เห็นว่าถ้าเราไม่ใช้สังคมมวลชนมาช่วยกัน อาจจะเอาไม่อยู่ ยืนยันว่าเรายังรักพันธมิตร หากเกิดอะไรกับพรรค อนค. อะไรที่เราจะช่วยได้ก็จะช่วยเต็มที่
ศาลนัดชี้สถานะบิ๊กตู่
ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีนายไพบูลย์เตรียมสมัครเป็นสมาชิกพรรค พปชร.ว่า การจะมาสมัครพรรคการเมืองอื่น และจะเข้ามาเป็น ส.ส.ในลำดับใดนั้น เป็นขั้นตอนของ กกต.ที่จะต้องชี้แจงในรายละเอียดให้ชัดเจน
ส่วน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ภาคเหนือ พรรค พปชร. กล่าวว่า ตอนแรกที่ได้มีการพูดคุยกันดูเหมือนว่านายไพบูลย์จะมาร่วมกับพรรค พปชร. แต่ขณะนี้มีประเด็นเรื่องของข้อกฎหมายเกิดขึ้น ซึ่งตนยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน แล้วตัวนายไพบูลย์เองก็ยังไม่ได้มากรอกใบสมัครเป็นสมาชิกของพรรค พปชร.
วันเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการอภิปรายกรณีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (6) และมาตรา 98 (15) หรือไม่ จากเหตุดำรงตำแหน่งหัวหน้า คสช. ถือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐหรือไม่ โดยเห็นว่าประเด็นแห่งคดีตามคำร้องเป็นปัญหาข้อกฎหมาย จึงไม่ทำการไต่สวนตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญมาตรา 58 วรรคหนึ่ง จึงนัดอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟังในวันพุธที่ 18 ก.ย.62 เวลา 14.00 น.
นอกจากนี้ ยังได้มีการอภิปรายในคำร้องที่ กกต.ขอให้พิจารณาวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพการเป็น ส.ส.ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98(3) หรือไม่ จากการถือครองหุ้นสื่อบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด โดยได้นัดอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยต่อในคราวประชุมถัดไป.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |