'โจรสายชิล' บุกปล้นธนาคารเสร็จเข้าห้างเดินกินไอศกรีมก่อนโดนรวบทันควัน


เพิ่มเพื่อน    

"โจรสายชิล" จี้เงินธนาคารกลางเมืองชัยนาท ยังใจเย็นไปเดินห้างสรรพสินค้า กินไอศกรีม ซื้อล็อตเตอรี่ เดินสบายอารมณ์ แต่สุดท้ายเจอตำรวจตามจับทันควัน สารภาพเป็นหนี้พนันบอล

27 ส.ค.62 - ตำรวจ สภ.เมืองชัยนาท ได้รับแจ้งสัญญาณฉุกเฉินจากธนาคารออมสิน สาขาสะพานใหม่ชัยนาท ทราบว่าคนร้ายเป็นชายสวมเสื้อเชิ้ตสีเทาแขนยาว อายุประมาณ 26 ปี สวมหน้ากากอนามัยปิดปาก เข้าไปจี้ชิงเงินในธนาคาร โดยสั่งให้พนักงานหน้าเคาน์เตอร์ ส่งเงินให้และทำทีว่ามีอาวุธซ่อนอยู่ด้านหลัง

พนักงานจึงเดินไปแจ้งให้ผู้จัดการธนาคารทราบ และถือโอกาสขณะคนร้ายเดินตาม กดสวิตซ์ส่งสัญญาณฉุกเฉินแจ้งตำรวจ เมื่อคนร้ายเห็นพนักงานกดสวิตซ์ฉุกเฉิน จึงตะคอกใส่ว่า ทำแบบนี้ทำไม และสั่งพนักงานเร่งส่งเงิน ด้วยความกลัวว่าคนร้ายจะมีอาวุธ พนักงานจึงส่งเงินสดจำนวน 20,800 บาท ให้กับคนร้ายไป จากนั้นคนร้ายก็เดินออกไปจากธนาคาร

หลังเกิดเหตุ ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อดูลักษณะรูปพรรณคนร้ายและติดตามหาตัว จนพบว่าคนร้ายเข้าไปในห้างโลตัส ซึ่งอยู่ห่างธนาคารประมาณ 200 เมตร เมื่อคนร้ายเห็นตำรวจจึงรีบวิ่งหนีไปยังตึกสำนักงานลิชซิง ทำทีขอเข้าห้องน้ำจากนั้นก็วิ่งขึ้นไปชั้นบนจนตำรวจตามมาจับกุมตัวได้ พร้อมเงินของกลางจำนวน 20,600 บาท

จากการสอบสวน ทราบชื่อคนร้าย นายภาคภูมิ ทับเงิน อายุ 26 ปี เป็นชาวจังหวัดสิงห์บุรี สารภาพว่า ขับรถกระบะสีเทา ทะเบียน บจ 7396 สิงห์บุรี  มาจอดหน้าธนาคาร เห็นไม่มี รปภ. จึงตัดสินใจเดินเข้าไปก่อเหตุ โดยทำทีมีอาวุธปืนซ่อนอยู่ข้างหลังและข่มขู่พนักงานให้ส่งเงินให้ เมื่อได้เงินแล้วก็ไปที่ห้างโลตัสไปซื้อไอติมกินเพื่อคลายร้อน แล้วซื้อล็อตเตอรี่ 1 คู่ ใช้เงินไป 200 บาท เมื่อเห็นตำรวจจึงวิ่งหนีไปที่ตึกดังกล่าว

นายภาคภูมิ บอกว่าตนเป็นหนี้พนันฟุตบอล 400,000 บาท  คิดไม่ตกว่าจะหาเงินไปใช้หนี้ได้อย่างไร เมื่อเห็นโอกาส จึงก่อเหตุขึ้นทันที โดยไม่ได้วางแผนมาก่อน

น.ส.ศิวพร เคารพธรรม พนักงานธนาคารออมสิน เล่าว่าขณะกำลังให้บริการลูกค้า เป็นจังหวะที่ รปภ.ของธนาคารออกไปหาหมอ คนร้ายได้เดินเข้ามาโดยเอามือข้างหนึ่งซ่อนไว้ข้างหลังทำท่าเหมือนมีอาวุธ จากนั้นก็บอกให้ตนส่งเงินมา บอกว่าไม่มีทางเลือก จำเป็นจริงๆต้องทำแบบนี้ แม้ตนจะเกิดความกลัว แต่ก็พยามยามตั้งสติแล้วเดินไปหาผู้จัดการ ระหว่างนั้นคนร้ายก็เดินตามจะไปหาผู้จัดการด้วย พนักงานอีกคนจึงรีบกดสัญญาณฉุกเฉิน เมื่อคนร้ายรู้ว่ากดสัญญาณฉุกเฉินก็ตะคอกว่า ทำแบบนี้ทำไม ตนจึงกลัวว่าคนร้ายจะมีอาวุธ จึงได้ส่งเงิน 20,800 บาทให้ไปฃ

เบื้องต้น ตำรวจได้นำตัวนายภาคภูมิไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จากนั้นได้นำไปควบคุมไว้ในห้องขัง รอส่งฝากขังศาลจังหวัดชัยนาทในวันพรุ่งนี้ (28 ส.ค.) โดยตั้งข้อหาชิงทรัพย์ ส่วนเงินสดที่ถูกชิงไปได้กลับคืนมาจำนวน 20,600 บาท


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"