26ส.ค.62-" สุวิทย์" เตรียมจัดเรตติ้งมหาวิทยาลัย ในประเทศ 10อันดับ โดย 20 อันดับ จะต้องทำตามแผนยกระดับคุณภาพ พร้อมกับมอบ นโยบาย ทปอ. สร้างให้ อว.เป็นกระทรวงแห่งปัญญา และเป็นอนาคตของประเทศ
ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) - นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุมศึกษา วิทยาศาตร์ วิจัยและนวัตกรรม (รมว.อว.) กล่าวตอนหนึ่งในการมอบนโยบายให้แก่ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ว่า ขณะนีประเทศไทยมีเวลาไม่มากในการทำงาน ดังนั้นตนจึงขอให้ทำงานแข่งกับเวลาและเน้นการลงมือปฏิบัติจริงในการขับเคลื่อนงานอุดมศึกษาให้มีคุณภาพ โดยขอพลังจากทุกคนได้ช่วยกันสร้างให้ อว.เป็นกระทรวงแห่งปัญญา และเป็นกระทรวงแห่งอนาคตของประเทศให้ได้ภายใต้การดำเนินงาน 3 ส่วน คือ 1.การสร้างคน 2.สร้างองค์ความรู้ และ 3.สร้างนวัตกรรม และมหาวิทยาลัยต้องดูแลการศึกษาทุกช่วงอายุโดยเฉพาะการดูแลการศึกษาในสังคมผู้สูงอายุ ไม่ใช่แค่รับผิดชอบการศึกษาของเด็กอายุ 18-22 เท่านั้น ซึ่งมหาวิทยาลัยเองจะต้องออกจากระบบที่อุ้ยอ้ายต้องมีการเปลี่ยนแปลงออกจากยุคเดิมๆ ไม่ใช่ตั้งรับอย่างเดียว ต้องมองถึงอนาคตเป็นมหาวิทยาลัยที่จะเปิดรับสิ่งต่างๆมากขึ้น โดยในช่วง 3-6 เดือนต่อจากนี้ ตนจะปลดล็อคมหาวิทยาลัยไม่ให้ติดกับดักรูปแบบเดิมด้วยการสร้างทางเดินให้แก่มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งไปพร้อมกับการเติมคุณภาพและมาตรฐาน เช่น การจะเป็นมหาวิทยาลัยแห่งเทคโนโลยี หรือการเป็นมหาวิทยาลัยเพื่อท้องถิ่น เป็นต้น อีกทั้งตนไม่อยากเห็นมหาวิทยาลัยแข่งขันแย่งกันที่เป็นมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่ง แต่ตนต้องการเห็นมหาวิทยาลัยยกระดับคุณภาพตัวเองจากลำดับรั้งท้ายขึ้นสู่การเป็นมหาวิทยาลัยท็อปไฟว์หรือท็อปเท็นให้ได้ นอกจากนี้การผลิตบัณฑิตพันธุ์ใหม่จะต้องตอบโจทย์พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ (อีอีซี) ด้วย
นายสุวิทย์ กล่าวต่อว่า สำหรับแผนนโยบายด้านอุดมศึกษาที่จะขับเคลื่อน นั้น จะต้องยกระดับคุณภาพอุดมศึกษาที่เน้นผลสัมฤทธิ์การปฏิบัติงานของสถาบันอุดมศึกษาตามศักยภาพและตามความสามารถและศักยภาพของแต่ละสถาบัน ประกอบด้วย การสร้างเครื่องมือประเมินศักยภาพและความสามารถของสถาบันอุดมศึกษาตามกลุ่มยุทธศาสตร์ จัดทวิธีการกำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของการทำงาน หรือ OKRs ของกระทรวงและกลุ่มสถาบันอุดมศึกษา ต่อจากนั้น 6 เดือน จะประเมินศักยภาพและความสามารถของสถาบันอุดมศึกษาตามกลุ่มยุทธศาสตร์ เช่น การโชว์ตัวอย่างผลงานของมหาวิทยาลัยตามกลุ่มเป้าหมาย และ 20 มหาวิทยาลัยต้องจัดทำแผนเป้าหมายยกระดับคุณภาพมหาวิทยาลัย จากนั้น 10 มหาวิทยาลัยได้รับการประเมินจัดอันดับ
"อย่างไรก็ตาม ความเหลื่อมล้ำไม่ใช่วาทกรรม แต่เป็นของจริง การลดความเหลื่อมล้ำต้องอาศัยพลังที่แท้จริงจากชุมชน ต้องการชุมชนนวัตกรรมที่ชุมชนเป็นผู้คิดค้น สร้างนวัตกรรมให้เกิดขึ้น เพราะประเทศที่พัฒนาแล้วต้องมาจากชุมชนที่พัฒนาแล้ว และไม่ใช่เพียงโชว์ว่าชุมชนทำอะไร แต่ต้องเอาพลังความรู้จากชุมชน ดังนั้น อยากฝากมหาวิทยาลัยให้ร่วมกันตั้งวง เพื่อแก้ปัญหาใน 2 เรื่องสำคัญ คือ 1.ลดความเหลื่อมล้ำ ทำอย่างไรให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น และควรสร้างแพลตฟอร์มกลางในการบริหารจัดการ เพื่อให้เกิดการยกระดับ และ 2.การขจัดความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำ ต้องการให้แก้ไขความยากจนโดยใช้บิ๊กดาต้า ข้อมูลที่มีอยู่ ไม่ใช่เพียงการเพิ่มสวัสดิการ แต่มหาวิทยาลัยต้องทำให้เกิดการซ่อมปัญหา อว.จะทำงานร่วมกับคณะทำงานของนายกฯ อยากให้มหาวิทยาลัยช่วยว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง และโจทย์จากข้อมูลจะเอาไปทำอะไรได้บ้าง"รมว.อว. กล่าว