“สลากกินแบ่งรัฐบาล” หรือที่เรียกติดปากชาวบ้านทั่วไปว่า “ลอตเตอรี่” นั้น คำนี้เรียกว่าอยู่คู่กับคนไทยมานาน และเชื่อว่าน้อยคนนักที่จะไม่เคยสัมผัสกับกิจกรรมแห่งความหวังที่ในหนึ่งเดือนจะมาให้ลุ้นอยู่ 2 ครั้ง คือวันที่ 1 และวันที่ 16 นั่นเอง ในช่วงที่ผ่านมา อาจจะได้ยินข่าวคราวความอลเวงเรื่องลอตเตอรี่ 30 ล้าน ที่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าใครคือเจ้าของลอตเตอรี่มหาเฮงที่แท้จริง และประเด็นนี้ก็กินเวลาลากยาวมานานพอสมควรแล้ว จนบางคนถึงกับออกปากว่า “เอียน” กับข่าวนี้กันไปเลย

        เรื่องความอลเวงของลอตเตอรี่ 30 ล้านบาทก็เรื่องหนึ่ง แต่อีกเรื่องหนึ่งที่ก็อยู่คู่กับวงการลอตเตอรี่ของประเทศไทย คงหนีไม่พ้น “สลากฯ ปลอม” ไปจนถึง “แก๊งมิจฉาชีพออกมาอวดอ้างสรรพคุณเลขล็อก เลขกั๊ก แม่นอย่างนั้น อย่างนี้” ซึ่งก็ยังมีข่าวให้เห็นกันอยู่เนืองๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงอย่าง สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเองก็ออกมาเตือนอยู่ตลอด แต่ก็ยังมีประชาชนถูกหลอกให้เห็นไม่ได้หยุดหย่อนเช่นกัน

        เช่นกรณีเมื่อไม่นานมานี้ที่มีผู้นำลอตเตอรี่ปลอมมาขึ้นรางวัลที่ จ.สมุทรสาคร จนทำให้มีผู้เสียหายเรื่องนี้แว่วว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง และจากการสันนิษฐานเบื้องต้นของสำนักงานสลากฯ คาดว่าจะเป็นการนำลอตเตอรี่ที่ตัดแปะแก้ไขตัวเลขและคิวอาร์โค้ดมาขึ้นเงินรางวัล และเมื่อมีการนำมาขึ้นรางวัลหลายใบพร้อมกัน ทำให้ผู้รับซื้อรางวัลอาจไม่ได้ตรวจสอบลอตเตอรี่ทุกใบอย่างละเอียด ตรงนี้เป็นจุดที่ทำให้ผู้มีอาชีพรับซื้อรางวัลต้องใช้วิจารณญาณและความระมัดระวัง รอบคอบมากเป็นพิเศษ

        ธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคระกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ออกมาเตือนเรื่องนี้ว่า ขอให้ผู้ประกอบอาชีพรับซื้อรางวัลใช้ความระมัดระวังตรวจสอบอย่างละเอียดมากขึ้น โดยอาจใช้วิธีการเปรียบเทียบกับลอตเตอรี่ของจริงในงวดนั้นๆ เพื่อหาความแตกต่างระหว่างกัน เช่น การตรวจดูลักษณะทั่วไปของลอตเตอรี่ ความหนาบางของกระดาษ รูปภาพลอตเตอรี่ ขนาดตัวอักษร ขนาดตัวเลข และตรวจสอบคุณลักษณะพิเศษของลอตเตอรี่ด้วย เช่น สังเกตว่ากระดาษที่ใช้พิมพ์จะมีลายน้ำในเนื้อกระดาษเมื่อส่องกับแสงไฟสีขาว หรือแสงสว่างจะมองเห็นลายน้ำรูปนกวายุภักษ์ในเนื้อกระดาษ หรือเมื่อส่องกับแสงไฟสีม่วง (แสงยูวี) จะมองเห็นเส้นไหม และเส้นที่พาดผ่านตัวเลขมีลักษณะเรืองแสง หรืออาจใช้น้ำสะอาดมาถูบนลอตเตอรี่ ซึ่งหมึกที่ใช้พิมพ์ตัวเลขของจริงเมื่อถูกน้ำจะไม่ละลาย

        อันนี้ยังไม่รวมมิจฉาชีพในรูปแบบการหลอกลวงลอตเตอรี่ปลอม ที่ก็มีเป็นแก๊งระบาดอยู่ทั่วประเทศ เหล่านี้ผลกระทบมักเกิดอยู่กับนักเสี่ยงโชค ผู้ที่รักการเสี่ยงดวง ชอบความเสี่ยง หลายคนช้ำหนัก โดนแก๊งมิจฉาชีพหลอกไปเยอะก็มีให้เห็นตามข่าวอยู่เรื่อยๆ แม้ว่าที่ผ่านมาสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจะออกโรงเตือนผ่านสื่อแขนงต่างๆ อย่างต่อเนื่องแล้ว แต่ก็ยังได้เห็นข่าวคราวชาวบ้านถูกหลอกด้วยกลโกงของแก๊งมิจฉาชีพอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

        มากกว่าการออกโรงเตือนผ่านสื่อต่างๆ สำนักงานสลากฯ  เองก็ได้พยายามพัฒนารูปแบบการผลิตสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือลอตเตอรี่ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้ “ยาก” ต่อการปลอมแปลง หรือนำไปเป็นกลวิธีในการหลอกลวงชาวบ้าน อย่างก่อนหน้านี้ ก็มีแผนจะนำเทคโนโลยีคิวอาร์โค้ดเข้ามาแก้ปัญหาสลากปลอม ซึ่งสำนักงานสลากฯ เคยคาดการณ์ว่าวิธีการนี้จะช่วยลดปัญหาสลากปลอมให้น้อยลงได้

        ไม่เพียงเท่านี้ ยังได้ออกชี้แจงวิธีการเฝ้าระวังในรูปแบบต่างๆ ที่จะมาจากกลโกงของแก๊งมิจจฉาชีพ เช่น ในมุมของผู้รับซื้อรางวัล ก็แนะนำให้ผู้มาขึ้นเงินรางวัลแสดงบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อตรวจดูว่าเป็นบุคคลเดียวกันหรือไม่ พร้อมถ่ายสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน รวมทั้งหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อไว้ด้านหลังของสลากฯ ด้วย โดยให้ผู้รับรางวัลลงลายมือชื่อไว้ หรือหากไม่สามารถเขียนหนังสือได้ให้พิมพ์ลายนิ้วมือ  หรือถ่ายภาพผู้นำสลากมาขึ้นรางวัลคู่กับตัวสลาก

      รวมถึงถ่ายเอกสารสำเนาบัตรประชาชน รวมทั้งติดกล้องวงจรปิดในบริเวณที่รับซื้อรางวัล การดำเนินการต่างๆ  เหล่านี้ คาดว่าจะช่วยคัดกรอง ป้องกันผู้ที่คิดจะนำสลากปลอมหรือสลากแก้ไขตัวเลขไม่ให้มาหลอกขึ้นเงินรางวัลได้ ส่วนผู้กระทำหรือผู้นำสลากฯ ปลอมมาขึ้นรางวัล ตรงนี้แน่นอน! มีความผิดชัดเจน จะถูกดำเนินคดีอาญา มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 1 หมื่นบาท - 1 แสนบาท.

ครองขวัญ รอดหมวน