ศาลฎีกาสั่ง "จตุพร-ณัฐวุฒิ-อริสมันต์" ร่วมชดใช้ให้จำเลย 4 ราย รวม 19.3 ล้านบาท เหตุปราศรัยปลุกเร้าให้เกิดการเผาอาคารแถวราชปรารภ “ราเมศ” แนะควรใช้คำพิพากษาฎีกานี้เป็นบรรทัดฐานในคดีที่คั่งค้าง!
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ในฐานะทีมกฎหมายพรรค ปชป. แถลงเมื่อวันอาทิตย์ ว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคได้มอบให้ไปฟังคำพิพากษาศาลฎีกาแทนเมื่อวันที่ 22 ส.ค. ในคดีแพ่งตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6646-6647/2561 ซึ่งเป็นคดีฟ้องเรียกค่าเสียหายในกรณีการวางเพลิงเผาทรัพย์ช่วงระหว่างการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อปี 2553
ทั้งนี้ คดีดังกล่าวมีนางนุชทิพย์ บรรจงศิลป์ โจทก์ที่ 1, นายสิริเชษฐ์ สุขประสงค์ดี โจทก์ที่ 2, นางมนัสนันท์ สุขประสงค์ดี โจทก์ที่ 3 และบริษัท ยูแอลซี ซอฟแวร์ เป็นโจทก์ที่ 4 ฟ้องจำเลย 11 คน ประกอบด้วย นายอภิสิทธิ์, นายสุเทพ เทือกสุบรรณ, กระทรวงการคลัง, กระทรวงกลาโหม, กองทัพบก, นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง, นายทักษิณ ชินวัตร, กรุงเทพมหานคร และ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร
นายราเมศกล่าวต่อว่า โจทก์ฟ้องสรุปว่าได้รับความเสียหายจากการวางเพลิงเผาอาคาร 3 คูหา ตั้งอยู่ที่บริเวณถนนราชปรารถ กทม. ในช่วงการชุมนุมของกลุ่ม นปช. จึงฟ้องเรียกค่าเสียหายทั้งสิ้น 385,920,800 บาท ซึ่งศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฟ้องนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ และ กทม. ส่วนจำเลยคนอื่นยกฟ้อง ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น แต่ศาลฎีกาพิพากษากลับให้นายจตุพร, นายณัฐวุฒิ และนายอริสมันต์ ร่วมกันรับผิดชอบใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ที่ 1 เป็นเงิน 1,347,000 บาท นอกจากนี้ยังให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ที่ 2 และ 3 เป็นเงิน 12,000,000 บาท และร่วมรับผิดชอบใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ที่ 4 เป็นเงิน 6,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี
“จากคำพิพากษาพบว่าศาลฎีกาให้เหตุผลสรุปสาระสำคัญว่าคำพูดของนายจตุพร, นายณัฐวุฒิ และนายอริสมันต์ ล้วนเป็นการปราศรัยที่ยุยงส่งเสริมหรือสนับสนุนให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมร่วมกันแสดงปฏิกิริยาตอบโต้ต่อการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ ซึ่งในคำพิพากษายังระบุอีกว่าตามพฤติการณ์แห่งคดีมีเหตุให้เชื่อได้ว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่อาคารและทรัพย์สินที่ถูกบุคคลผู้ชุมนุมในกลุ่ม นปช.วางเพลิงเผาทำลายนั้น เป็นผลที่เกิดขึ้นจากคำกล่าวปราศรัยของนายจตุพร นายณัฐวุฒิ และนายอริสมันต์ด้วย ซึ่งเป็นเหตุผลที่ศาลฎีกาได้พิพากษาให้มีการชดใช้ค่าเสียหาย ขณะที่จำเลยคนอื่นๆ ศาลยกฟ้อง ทั้งนี้ คำพิพากษาศาลฎีกาต้องถือว่าเป็นที่สุด ส่วนคดีอื่นๆ ที่ยังค้างการพิจารณาอยู่ในหลายคดีก็เชื่อว่าจะมีการนำคำพิพากษาศาลฎีกาฉบับนี้ไปประกอบด้วย เพราะมีรายละเอียดที่น่าสนใจ” นายราเมศระบุ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |