เมื่อเวลา 14.30น. ที่พรรคเพื่อไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานของพรรคเพื่อไทยว่า หลังจากนี้เราจะทำงานตรวจสอบในเชิงรุก เป็นพรรคฝ่ายค้านที่ทำงานยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง อะไรเป็นมาตรการที่เป็นประโยชน์เราจะสนับสนุน เช่น การฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีนและอินเดีย แต่มาตรการนี้มีออกมาได้แค่ไม่กี่วัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ก็ตีตกด้วยความคิดเหมือนคนในอดีตเหตุผลเรื่องความมั่นคงซึ่งทุกคนก็เป็นห่วง แต่วันนี้เขาจะรบกันเขาใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ มาตรการดังกล่าวจะเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวที่จะทำให้ประเทศได้รับเม็ดเงินด่วนเข้ามาจำนวนมาก จึงอยากให้รัฐบาลรับฟังเหตุผลของพรรคฝ่ายค้าน ส่วนการแจกเงินที่ให้คนรายได้น้อยนั้นต้องทำให้มีประสิทธิภาพ ไม่ใช่ผ่านมือคนจนไปสู่เจ้าสัว 

เมื่อถามถึงกรณีพรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายโดยไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 กรณีการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนถ้าได้เวลาเพียง 1 วันจะเพียงพอหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ ตอบว่าเราอยากให้ดูที่เนื้อหา อย่าเอาเวลาเป็นตัวกำหนด ประเด็นนี้เราจะหาทางออกให้กับรัฐบาลในการแก้ปัญหาการถวายสัตย์ไม่ครบของรัฐบาล ไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะไปไล่เขา จึงตอบไม่ได้ว่าเวลา 1 วันจะเพียงพอหรือไม่ ถ้าหารือกันแล้วเห็นทางออกร่วมกันครึ่งวันก็เพียงพอ ซึ่งเลขาพรรคเพื่อไทย จะไปหารือกับวิปรัฐบาล คือการหาทางออกด้วยวิธีทางสภาฯ พล.อ.ประยุทธ์ อาจจะไม่ชิน เพราะก่อนหน้านี้เมื่อทำผิดรัฐธรรมนูญก็ใช้มาตรา 44 ในการแก้ไขปัญหา แต่วันนี้จะต้องใช้สภาแก้แทน

เมื่อถามถึงกระแสข่าวส.ส.พรรคเพื่อไทยในภาคอีสานจะเป็นงูเห่า คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พูดกันมาตลอด เป็นการเมืองแบบเก่าที่น่ารังเกลียด เพราะพรรครัฐบาลแพ้เลือกตั้งแล้วใช้อภินิหารจนได้เป็นรัฐบาล ตอนนี้เมื่อเสียงปริ่มน้ำก็ใช้ผลประโยชน์ทางงบประมาณมาตกปลาในบ่อเพื่อน ได้ยินมาทุกสัปดาห์ แต่ทุกครั้งที่มีการโหวตเสียงพรรคร่วมฝ่ายค้านที่มี 246 ก็ครบทุกครั้ง บางครั้งก็เกิน หากจะมีงูเง่าก็ขอฝากไปผัดเผ็ดด้วยแล้วกัน ส่วนกระแสข่าวที่เขาอยากได้เสียงส.ส. 270 เสียงนั้น

วันนี้เขาคิดอย่างเดียวคือคิดอยากจะอยู่ยาว กวาดส.ส.ไปให้ได้มากที่สุดเพื่อความมั่นคงของรัฐบาล ด้วยการใช้งบประมาณรัฐบาลรวมถึงบางองค์กรอิสระในการบีบ หากประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ จะควักเงินตัวเอง ร้อยล้าน พันล้านก็ไม่เป็นอะไร แต่อย่ามาใช้งบประมาณของแผ่นดิน เพราะงบประมาณแผ่นดินต้องตรวจสอบได้ ตนจึงอยากเตือนสติว่าสิ่งที่จะทำให้รัฐบาลอยู่นานไม่ใช่แค่จำนวนส.ส.ที่ยกมือให้ แต่ขึ้นอยู่กับศรัทธาของประชาชนว่าช่วยแก้ปัญหาให้เขาได้หรือไม่ ส่วนกรณีที่มีการยื่นสอบนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์พรรคเพื่อไทย ไปให้การต้อนรับนายกฯ นั้น ได้มีการพูดคุยกันแล้ว เป็นเพียงการไปสะท้อนปัญหาในพื้นที่ และอาจจะเป็นกลอนพาไป