ฮ่องกงโมเดล 1 ประเทศ 2 ระบบที่ผันผวน


เพิ่มเพื่อน    

 

ชาวฮ่องกงนับแสนชุมนุมประท้วงต่อต้านกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างฮ่องกงกับจีน เพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความคุ้มครองที่ดีพอหากถูกส่งตัวไปจีน ผู้เข้าร่วมชุมนุมประกอบด้วยทุกเพศทุกวัย ทุกสาขาอาชีพ บางคนใช้สัญลักษณ์ร่มสีเหลืองซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการชุมนุมในอดีต

                การชุมนุมที่เต็มไปด้วยพลังเปลี่ยนจากต่อต้านกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนเป็นข้อเรียกร้องอื่นๆ บางคนเรียกร้อง “ปลดปล่อยฮ่องกงจากการเป็นอาณานิคมจีน” รวมความแล้วต้องการขยายความเป็นประชาธิปไตยและการปกครองตนเอง เป็นอิสระจากรัฐบาลปักกิ่งมากขึ้น บนความเชื่อว่าเช่นนี้แล้วคนฮ่องกงจะได้สิ่งดีที่สุด

ชีวิตที่ปกติสุขหรือประชาธิปไตย :

                ประเด็นที่ถกกันมากคือบางคนให้ความสำคัญกับรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตย บริหารประเทศอย่างเป็นประชาธิปไตย กับกลุ่มที่ให้ความสำคัญกับ “ผลลัพธ์การปกครอง” ต้องการสังคมที่สงบสุข ทุกคนดำเนินชีวิตตามปกติสุข

                พวกที่ให้ความสำคัญกับประชาธิปไตยจะตั้งข้อสรุปว่าถ้าไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตยถือว่าผิด ต้องทำทุกทางเพื่อมุ่งสู่ประชาธิปไตยแท้ แต่ระหว่างทางสู่ประชาธิปไตยอันสมบูรณ์ ประสบการณ์ของหลายประเทศพบว่าประชาชนส่วนใหญ่ยากจนลง ลำบากมากขึ้น รัฐบาลภายใต้ประชาธิปไตยที่กำลังเติบโตไม่ได้บริหารประเทศเพื่อประชาชนจริง

                พวกที่ให้ความสำคัญกับชีวิตปกติสุข เห็นว่าสิ่งที่ตนต้องการคือสังคมที่ไม่วุ่นวาย เศรษฐกิจเดินหน้า ทุกคนมีหน้าที่การงาน ระบอบการปกครองจะเป็นประชาธิปไตย กึ่งประชาธิปไตย หรือค่อนไปทางอำนาจนิยมก็ได้ ระบอบประชาธิปไตยไม่เป็นประโยชน์อันใดหากตอบสนองความต้องการของคนส่วนใหญ่แต่นำสู่การทำลายตนเอง การมุ่งให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยกลายเป็น “กับดักประชาธิปไตย” สังคมถดถอย วุ่นวายไม่รู้จบ แต่กลับสู่ข้อโต้แย้งว่าเพราะไม่เป็นประชาธิปไตย สังคมจึงตกต่ำดังที่เป็นอยู่

                ประเด็นสำคัญคือคำถามที่ว่า ทำไมต้องมีระบอบการปกครอง ในยุคปัจจุบันการปกครองควรมีเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใด อะไรที่ชาวบ้านคนธรรมดาต้องการและสิ่งเหล่านั้นคือความผาสุกยั่งยืนหรือไม่

ผู้ประท้วงมองฮ่องกง รัฐบาลมองประเทศ :

                ผู้ประท้วงจะคิดอย่างไรก็ได้ แต่รัฐบาลจีนมีหลักยึดของตนเอง เช่น อธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน ปกป้องความมั่นคงทางการเมืองและสังคม ต่อต้านการประกาศอิสรภาพของไต้หวันและกลุ่มแบ่งแยกดินแดนต่างๆ ปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ทางทะเล ในอวกาศ ระบบไซเบอร์ ผลประโยชน์จีนในต่างแดน

                จีนถือว่าปัจจุบันปกครองแบบ สังคมนิยมประชาธิปไตย (socialist democracy) หมายถึงการปกครองที่ให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการดำเนินชีวิตประจำวันตามสมควร สามารถเลือกเรียน เลือกงานทำ เลือกคู่ครอง เป็นเจ้าของทรัพย์สิน ประกอบธุรกิจส่วนตัวตามกรอบกฎหมาย แต่อำนาจการปกครองอยู่ภายใต้พรรคคอมมิวนิสต์ คอยกำกับควบคุมชี้นำการเมืองเศรษฐกิจสังคม ฯลฯ

                มีข้อมูลว่าชาวจีนส่วนใหญ่ไม่สนับสนุนการเคลื่อนไหวทางการเมืองสู่ประชาธิปไตย หากการเคลื่อนไหวเป็นเหตุให้สังคมวุ่นวาย ขาดเสถียรภาพ แต่เห็นด้วยกับระบบการเลือกตั้งผู้ปกครอง ให้เกิดการแข่งขันภายใต้ระบอบที่เป็นอยู่

ฮ่องกงโมเดลตัวอย่างแก่ส่วนอื่นๆ ของจีน :

                ถ้าอยากเข้าใจนโยบายจีนต่อฮ่องกงจะต้องมองกรอบกว้างด้วย

                คน 3 จำพวกที่รัฐบาลจีนเห็นว่าเป็นภัยคือพวกผู้ก่อการร้าย พวกแบ่งแยกดินแดนและพวกสุดโต่ง (extremism) พื้นที่สำคัญคือเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ (Xinjiang Uighur Autonomous Region) ที่คนอุยกูร์กับชาติพันธุ์มุสลิมอื่นๆ มักเคลื่อนไหวเป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐบาล ร่วมมือกับกลุ่มมุสลิมนอกประเทศ บางคนเข้าพวกกับ ISIS และผู้ก่อการร้ายหลากหลายกลุ่มในตะวันออกกลางและภูมิภาคอื่นๆ โดยเฉพาะพวกสุดโต่งที่เรียกว่า East Turkistan Islamic Movement (ETIM) มีแนวคิดจัดตั้งเป็นรัฐอิสลาม (Islamic state of East Turkestan) แยกตัวออกจากจีน ทางการจีนตรวจสอบติดตามความเคลื่อนไหวของสมาชิกกลุ่มอย่างใกล้ชิด จำกัดการเดินทาง การปฏิบัติศาสนกิจ

                ถ้าเทียบฮ่องกงกับเขตปกครองตนเองอุยกูย์ สถานการณ์อุยกูย์น่าเป็นห่วงมากกว่า มีเหตุใช้ความรุนแรงเป็นระยะ

                ธิเบตเป็นอีกพื้นที่อันตราย ชาวธิเบตจำนวนหนึ่งยังคงต่อต้านการปกครองโดยรัฐบาลจีน หลายคนจุดไฟเผาตัวเองเพื่อประท้วงรัฐบาล เป็นพื้นที่ตัวอย่างที่แม้ผ่านมากว่า 50 ปีแต่ยังมีเหตุความไม่สงบเกิดขึ้น

                ไต้หวันเป็นอีกส่วนที่รัฐบาลจีนต้องการนำเข้าสู่ 1 ประเทศ 2 ระบบ หลายสิบปีที่ผ่านมาฝ่ายการเมืองและคนไต้หวันแบ่งออกเป็น 2 พวก คือพวกที่ไม่เห็นด้วยกับการอยู่ใต้จีน กับพวกที่เห็นตรงข้าม ในระยะหลังคนไต้หวันที่ไม่เห็นด้วยกับ “หลักการจีนเดียว” (one-China principle - จีนกับไต้หวันเป็นหนึ่งเดียว) เพิ่มมากขึ้น

                เมื่อคนฮ่องกงประท้วง คนไต้หวันเคลื่อนไหวสนับสนุนอย่างออกหน้าออกตา

                นักวิชาการเริ่มเอ่ยถึงประวัติศาสตร์เทียนอันเหมิน พยายามคาดการณ์ว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยหรือไม่ แน่นอนว่ารัฐบาลจีนจะไม่ลังเลหากมี “ความจำเป็น” แต่บริบทฮ่องกงต่างจากสมัยนั้นมาก หากการชุมนุมโดยรวมยังสงบก็ไม่มีเหตุที่รัฐบาลจีนจะปราบปราบเด็ดขาด

                บางคนอาจสำคัญผิดคิดว่าฮ่องกงสำคัญยิ่งในสายตารัฐบาลจีน เป็นศูนย์การเงินนานาชาติแห่งหนึ่ง ฮ่องกงมีความสำคัญในฐานะเขตปกครองพิเศษภายใต้แนวทาง 1 ประเทศ 2 ระบบ รัฐบาลจีนจะพยายามรักษาไว้ แสดงให้เห็นเป็นแบบอย่างแก่ไต้หวัน นานาชาติ

                แต่รัฐบาลจีนมีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลกว่านั้น มีประชากรอีกราว 1,400 ล้านคนที่ต้องดูแล

                ที่สุดแล้วขึ้นกับการตัดสินใจของผู้ชุมนุมประท้วงว่าต้องการให้จบด้วยความรุนแรงหรือไม่

ความเป็นอยู่ของประชาชนคือภัยคุกคามสำคัญ :

                มองให้ไกลกว่าความเป็นประชาธิปไตยหรือสังคมนิยมคือชีวิตความเป็นอยู่

                ภัยคุกคามต่อจีนคือการที่รัฐบาลไม่สามารถทำให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี และต้องเปรียบเทียบกับประเทศทุนนิยมด้วย เพื่อให้ประชาชนเห็นว่าสังคมนิยมยังดีสำหรับตน ปัจจุบันคนจีนมีโลกทัศน์กว้างขึ้นและถูกต้องชัดเจนมากขึ้น แต่ละปีคนจีนนับล้านได้ท่องเที่ยวต่างประเทศ รับข้อมูลจากประชาคมโลก รัฐไม่อาจห้ามการพูดแบบปากต่อปากหรือการสื่อสารส่วนตัว

                ตั้งแต่เศรษฐกิจจีนพัฒนาเติบโตอย่างรวดเร็วก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ชาวชนบทแม้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น แต่พวกที่อยู่ในเมืองจะมีรายได้สูงกว่า พวกที่อยู่ในเมืองยังแบ่งเป็นพวกที่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี กับพวกแรงงานกรรมกรที่มีคุณภาพชีวิตต่ำกว่า สภาพเช่นนี้เป็นแรงกดดันทางการเมืองที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น

                ฮ่องกงคืออีกภาพสะท้อน ชาวฮ่องกงบางส่วนไม่พอใจกับสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของตน พาลคิดว่าถ้าได้ปกครองตนเอง ตัดสินอนาคตตนเองน่าจะดีกว่านี้ การชุมนุมรอบนี้เป็นเพียงการชุมนุมของอีกปีหนึ่งเท่านั้น

                ปี 1997 ฮ่องกงกลับคืนสู่อธิปไตยจีน กำหนด 50 ปีที่รัฐบาลจีนให้เสรีภาพภายใต้การปกครองของรัฐบาลจีน เป็นการมองที่ยาวไกลมากหากคิดว่าเมื่อครบ 50 ปีฮ่องกงจะสูญเสียอิสรภาพ เสรีภาพ เพราะกว่าจะถึงวันนั้นภายในประเทศจีนน่าจะเปลี่ยนไปเช่นกัน อาจดีขึ้นหรือแย่ลง เป็นไปได้ทุกอย่าง

                สิ่งสำคัญที่คนฮ่องกงควรทำ คือ ถืออดีตเป็นบทเรียน ทำวันนี้ให้ดีที่สุด และมุ่งเป้าสู่อนาคตที่ดีกว่า ยั่งยืนกว่า เช่น พัฒนาตัวเองเป็นประชากรโลก (มากกว่าคำว่าเป็นคนฮ่องกง)  เป็นประชากรคุณภาพสูง สามารถแข่งขันและอยู่ในโลกวันนี้และอนาคตอย่างเป็นสุข เชื่อว่ารัฐบาลจีนพร้อมจะสนับสนุนหากคนฮ่องกงมุ่งหน้าสู่ทางนี้ภายใต้ระบอบสังคมนิยมแบบจีน เป็นฮ่องกงโมเดลที่ควรสนับสนุน.

----------------------------

ภาพ : กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาล

ที่มา : http://www.chinadaily.com.cn/a/201908/13/WS5d521303a310cf3e3556566e.html

----------------------------

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"