อิหร่านเปิดตัวระบบป้องกันมิสไซล์ที่ผลิตเองในประเทศ หวังเทียบชั้นระบบเอส-400 ของรัสเซียและแพทริออตของสหรัฐ ในช่วงยามที่ความสัมพันธ์กับสหรัฐกำลังตึงเครียด

ภาพจากสำนักงานประธานาธิบดีอิหร่าน เผยโฉมหน้าของระบบป้องกันมิสไซล์ บาวาร์ 373 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2562 / AFP

    รายงานเอเอฟพีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม 2562 กล่าวว่า รัฐบาลอิหร่านเปิดตัวระบบป้องกันมิสไซล์พิสัยไกลวันเดียวกันนี้ ซึ่งตรงกับวันอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศแห่งชาติของอิหร่าน ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่อิหร่านเคยเรียกระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ผลิตเองครั้งแรกในประเทศรุ่นนี้ด้วยชื่อ บาวาร์-373

    อิหร่านเริ่มสร้างระบบบาวาร์ ซึ่งมีความหมายว่า "ความเชื่อ" ภายหลังการซื้อระบบเอส-300 ของรัสเซีย ถูกระงับเมื่อปี 2553 เนื่องจากการคว่ำบาตรของนานาชาติ

    สำนักข่าวไออาร์เอ็นเอของทางการอิหร่านรายงานว่า ประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานี มีคำสั่งระหว่างร่วมพิธีเปิดตัวระบบป้องกันมิสไซล์เคลื่อนที่ชนิดยิงจากภาคพื้นดินสู่อากาศ ให้กองทัพอิหร่านนำระบบนี้เสริมเข้าไปในเครือข่ายการป้องกันมิสไซล์ของประเทศ

    "ระบบมิสไซล์พิสัยไกล บาวาร์-373 เหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศของอิหร่าน ด้วยพิสัยไกลกว่า 200 กิโลเมตร และแข่งขันกับระบบของรัสเซียและอเมริกา เช่น เอส-300 และแพทริออตได้" ไออาร์เอ็นเอกล่าว

    ในคำกล่าวที่ถ่ายทอดผ่านโทรทัศน์หลังพิธีที่กรุงเตหะราน ประธานาธิบดีโรฮานีคุยด้วยว่า ระบบของอิหร่านนั้น "ดีกว่าเอส-300 และใกล้เคียงกับเอส-400" สำนักงานของเขายังได้เผยแพร่ภาพถ่ายหลายภาพของระบบอาวุธนี้ที่ติดตั้งบนรถบรรทุกทหาร

    ด้านอามีร์ ฮาตามี รัฐมนตรีกลาโหมอิหร่าน กล่าวกับโทรทัศน์ของอิหร่านว่า ด้วยระบบป้องกันภัยทางอากาศพิสัยไกลนี้ อิหร่านสามารถตรวจจับเป้าหมายหรือเครื่องบินในระยะไกลกว่า 300 กิโลเมตร และล็อกเป้าหมายที่ระยะประมาณ 250 กิโลเมตร และทำลายเป้าหมายได้ในระยะ 200 กิโลเมตร

    เมื่อเดือนมิถุนายน ระบบมิสไซล์ชนิดยิงจากภาคพื้นดินสู่อากาศของอิหร่านเคยยิงโดรนสอดแนมโกลบอลฮอว์กของสหรัฐตกในอ่าวเปอร์เซีย อิหร่านอ้างว่าโดรนของสหรัฐรุกล้ำน่านฟ้าอิหร่าน แต่สหรัฐยืนกรานว่าโดรนลำนี้บินอยู่ในน่านฟ้าสากล.