22 ส.ค.62-นายไกรยส ภัทราวาท รองผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) และผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนพร้อมด้วยคุณครูสังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (บก.ตชด.) ได้ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านนักเรียน ตชด. เพื่อบันทึกข้อมูลมาสนับสนุนการคัดกรองผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ด้วยวิธีวัดรายได้ทางอ้อม (Proxy Means Test: PMT) โดยการเดินทางเยี่ยมบ้านนักเรียนถือเป็นการเดินทางที่ยากลำบากมาก เนื่องจาก สภาพเส้นทางระหว่างโรงเรียน และบ้านของเด็กนักเรียน ตชด. ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่สูงที่มีความทุรกันดาร โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนนี้ แต่ครู ตชด. ทุกคนก็มีความมุ่งมั่นและสามารถเก็บข้อมูลนักเรียนเข้ามาได้ครบถ้วนภายในเวลาที่กำหนด ซึ่งล่าสุดมีนักเรียนยากจนพิเศษในโรงเรียนสังกัด บก.ตชด. ที่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการสถานศึกษาแล้วราว 10,000 คน โดยทั้งหมดนี้จะได้รับการจัดสรรทุนเสมอภาคจาก กสศ. ซึ่งประกอบด้วยเงินอุดหนุนปัจจัยพื้นฐานเพื่อนักเรียนยากจนที่นักเรียนกลุ่มนี้ยังไม่เคยได้รับการสนับสนุนมาก่อน จำนวน 500 บาท สำหรับเด็กอนุบาล-ประถมศึกษา และ 1,500 บาท สำหรับเด็กมัธยมศึกษาต่อเทอม และเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษอย่างมีเงื่อนไขอีกจำนวน 1,000 บาทต่อเทอม รวมแล้วนักเรียน ตชด. จะได้รับทุนเสมอภาคคนละ 1,500-2,500 บาทต่อคนต่อเทอม ขึ้นอยู่กับระดับการศึกษา เพื่อใช้แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของครอบครัวในรายการสำคัญ เช่น ค่าหนังสือเรียนและอุปกรณ์การเรียน ค่าเสื้อผ้าและวัสดุเครื่องแต่งกายนักเรียน ค่าอาหาร ค่าครองชีพ ค่าพาหนะในการเดินทาง หรือจ้างเหมารถรับ-ส่งนักเรียน รวมทั้งกิจกรรมสร้างเสริมความเสมอภาคทางการศึกษาในโรงเรียน เป็นต้น โดย กสศ. ได้เตรียมงบประมาณไว้ราว 20 ล้านบาท เพื่อนักเรียน ตชด. ในภาคเรียนที่ 1/2562 นี้
"กสศ.และคณะวิจัย ได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลโรงเรียนสังกัด บก.ตชด. พบว่านักเรียนในโรงเรียนสังกัด ตชด. ส่วนใหญ่มีฐานะยากจนพิเศษ ครัวเรือนมีรายได้ไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับฤดูกาลและหลายครอบครัวได้รับเพียงค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำหรือน้อยกว่า เด็กนักเรียนส่วนใหญ่อายุไม่ตรงตามเกณฑ์ เพราะครอบครัวโยกย้ายถิ่นฐานบ่อยตามแหล่งการจ้างงานของผู้ปกครอง นักเรียนบางส่วนขาดเรียนบ่อย เพื่อไปช่วยผู้ปกครองประกอบอาชีพหารายได้ บางครอบครัวนักเรียนที่เป็นพี่น้องก็สลับกันมาโรงเรียน ด้วยสภาพการณ์เช่นนี้ ทาง กสศ. และ บก.ตชด. ได้ร่วมกันสนับสนุนมาตรการสร้างเสริมความเสมอภาคทางการศึกษาที่ยั่งยืนผ่านการส่งเสริมการเยี่ยมบ้าน เพื่อให้ครูได้รู้จักสภาพความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาของเด็กและครอบครัวอย่างใกล้ชิดเป็นรายบุคคล และยังสามารถให้ครูและโรงเรียนนำข้อมูลเหล่านี้มาวางแผนสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาได้ด้วย อีกทั้งการที่ครูได้ลงพื้นที่ไปเยี่ยมบ้าน พบสภาพความเป็นอยู่จริง เป็นกระบวนการที่ทำให้ครูได้ข้อมูลที่ทำให้เข้าใจปัญหาของเด็กแต่ละคนมากขึ้น ความเข้าใจนี้มีผลกระทบโดยตรงต่อการเรียนการสอน ซึ่งมีงานวิจัยระบุว่า ถ้าครูมีความเข้าใจเด็กมากขึ้นเท่าใด คุณภาพการเรียนการสอนก็จะดีขึ้นเท่านั้น เพราะครูจะสามารถสอนเด็กได้เป็นรายบุคคล อย่างเต็มศักยภาพ โดยโรงเรียนสามารถใช้งบประมาณจากทุนเสมอภาคในการสนับสนุนการดำเนินงานดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับบริบทของแต่ละท้องถิ่น"รองผู้จัดการ กสศ.กล่าว
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |