พิพิธภัณธ์..เล่าความหลัง


เพิ่มเพื่อน    

      มีโอกาสไปร่วมงานประกาศเกียรติคุณบุคคลสำคัญของโลก นายกำพล วัชรพล และเปิดพิพิธภัณฑ์กำพล วัชรพล ณ สำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ถนนวิภาวดีรังสิต เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

      ซาบซึ้งอบอุ่นใจแทนครอบครัวของ "ป๊ะกำพล" เพราะการจะได้รางวัลจากยูเนสโกในการเป็นบุคคลสำคัญของโลกซึ่งเป็นคนที่ 28 ของประเทศไทยนั้นไม่ใช่เรื่องสิวๆ ที่น่าประทับใจคือ ท่านเป็นชาวไทยเพียงคนเดียวที่ได้รับการสดุดีจากยูเนสโกเป็นบุคคลสำคัญของโลก ในการประชุมใหญ่ของยูเนสโกเมื่อปี 2560 ในฐานะเป็นผู้อุทิศตนสนับสนุนด้านการศึกษาและด้านการสื่อสารมวลชน ด้วยปกติแต่ละปีนั้นจะมีการเสนอชื่อเพื่อพิจารณากัน 2-3 ราย

      ความดีความงามที่ถูกจารึกยกย่องวันนี้ ในอดีต "ป๊ะกำพล" คงไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เหรียญกล้าหาญหรือโล่อะไรกับใครเขา นอกจากรู้สึกว่า เมื่อตัวเองมีโอกาสแล้วก็อยากให้คนอื่นมีโอกาสบ้าง โดยเฉพาะคนยากจนที่ไม่มีโอกาสเรียน..ปรบมือรัวๆ กับการสนับสนุนการศึกษาไทยอย่างจริงจังค่ะ

      การเหมือนกลับไปบ้านเดิมที่เคยนั่งทำงานนั้น มีสิ่งที่สะท้อนใจจนมนุษย์ป้าต้องเอามาเล่า ก็ตอนเดินดูพิพิธภัณฑ์กำพล วัชรพล ที่ชั้น 3 ของอาคารสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐนี่แหละ

      อาคารนี้เคยเป็นที่ทำงานของกองบรรณาธิการในชั้นสอง ส่วนชั้นล่างก็เป็นฝ่ายเรียงพิมพ์ ซึ่งเมื่อก่อนนั้นใช้มือมนุษย์นี่แหละจับตัวอักษรที่เป็นตะกั่วตัวเล็กๆ มาเรียงเป็นข้อความที่กอง บ.ก.ส่งข่าวลงมาให้

      มนุษย์ลูกหลานยุคดิจิตอลคงนึกภาพไม่ออกว่า แผนกเรียงพิมพ์นี้มีความสามารถที่มหัศจรรย์!! จริงๆ เพราะเขาจะต้องเรียงตัวตะกั่วกลับหัวกลับหางนะคะ จึงจะเอาไปพิมพ์ออกมาเป็น นสพ.ที่เราอ่านเอาเรื่องได้

      บรรยากาศของการทำ นสพ.ในยุคเรียงพิมพ์ ไม่มีคอมพิวเตอร์ จะแตกต่างโดยสิ้นเชิงกับยุคนี้ ทั้งกลิ่นหมึก เสียงเคาะพิมพ์ดีด และเสียงโหวกเหวกตะโกนกันไปมา พอเดินเข้าไปในพิพิธภัณฑ์แล้วเห็นเครื่องมือเครื่องไม้เก่าๆ แต่อดีตที่เราเคยใช้ทำงานมาก่อน ก็ให้รู้สึกคิดถึงเหมือนกันนะคะ

      แต่เด็กสมัยนี้คงไม่รู้จัก หรือไม่ก็ลืมไปแล้ว เพราะข้อมูลข่าวสารที่เขารับหรือเสพทุกวันนี้อยู่บนจอพีซี หรือไม่ก็มือถือ ซ้ำยังแสดงออกอย่างน่ารำคาญใจว่า คนถือ นสพ.อ่านนั้นช่างโบ...(ราณ) เหลือเกิน

      ก็ให้สงสัยเหมือนกันนะคะว่า หากวันไหนไฟดับ ระบบการสื่อสารล่ม เด็กสมัยนี้จะรู้จักการเอาตัวรอดด้วยเครื่องมือพื้นบ้านหรือไม่.   

 

                                                              "ป้าเอง"


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"