21 ส.ค. 62 - นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีผู้ตรวจการแผ่นดินส่งหนังสือให้นายกรัฐมนตรีชี้แจงเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณ ว่า นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เคยมาคุยกับตนเรื่องนี้ แต่ไม่รู้ว่าเขาจะเอาแนวทางที่ตนให้มุมมองหรือไม่ และไม่รู้ว่าเลขาธิการนายกฯจะไปทำอย่างไร เพราะเขามาคุยและกลับไปเขียนคำชี้แจงกันเอง อีกทั้งเขาได้ไปถามมุมมองคนอื่นๆ มาด้วย 8-9 คน เพื่อมาดูว่าจะมีมุมมองอะไรหรือไม่ นอกจากนี้ ไม่รู้ด้วยว่าได้ชี้แจงกลับไปยังผู้ตรวจการแผ่นดินแล้วหรือยัง อย่างไรก็ตาม ไม่ขอบอกว่าให้มุมมอง เลขาฯ นายกฯอย่างไร
                
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากชี้แจงให้ผู้ตรวจการแผ่นดินแล้ว ในส่วนของนายกฯ ถือว่าจบแล้วหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า จบหรือไม่จบ ตนไม่รู้ และไม่เคยบอกว่าจบแล้ว ส่วนผลการวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน สามารถนำไปชี้แจงในสภาได้หรือไม่นั้น ตนไม่รู้ว่านายกฯ จะชี้แจงอย่างไร ไม่ทราบว่าเขาตีเป็นเอกสารลับไปหรือไม่ หากตีเป็นเอกสารลับก็ไม่สามารถนำไปชี้แจงได้ เรื่องนี้ต้องเลขาฯนายกฯ
                
เมื่อถามว่า สภาบรรจุญัตติที่ฝ่ายค้านขออภิปรายตามมาตรา 152 แล้ว นายกฯ ต้องไปตอบเองหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ต้องห่วงว่านายกฯ จะไปหรือไม่ไป เมื่อยื่นมาต้องไปอยู่แล้ว ไม่ได้มีปัญหาอะไร ส่วนที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ระบุ ส.ส.จะช่วยเท่าที่ช่วยได้นั้น ไม่ทราบ ถือเป็นธรรมดา ซึ่งตามข้อบังคับการประชุมสภา ทั้งฉบับเก่าและใหม่ มีข้อความตรงกันว่า เมื่อมีการอภิปรายตามมาตรา 152 นั้น ให้คณะรัฐมนตรีไปชี้แจง ในการนี้จะให้ผู้ใดเป็นผู้ช่วยชี้แจงก็ได้ จึงไม่ต้องมาถามว่าได้หรือไม่ได้ 

“อยู่ที่ว่าถึงเวลาใครเป็นผู้รู้เรื่องนี้ นายกฯรู้ก็เป็นคนตอบ คนอื่นไม่รู้จะไปตอบอะไร แต่ถ้าคำถามเข้าทาง คนอื่นเขารู้และนายกฯ ไม่รู้ คนอื่นก็ต้องตอบ ส่วนจะมีหรือไม่นั้น ผมไม่ทราบ เพราะยังไม่รู้เขาจะถามอะไร และมาตรา 152 เป็นคนละอย่างกับญัตติไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 เพราะมาตรา 152 คือ ส.ส. มีข้อที่จะถาม หรือมีคำแนะนำที่จะให้แก่คณะรัฐมนตรี โดยตามขั้นตอนปกติ เมื่อมีการยื่นญัตติ สภาต้องถามเป็นการภายในว่ารัฐบาลสะดวกหรือไม่ วันไหน ยิ่งไปนัดวันอื่นที่ไม่ใช่วันประชุมสภาปกติ ตนเห็นด้วย ซึ่งไม่มีปัญหาว่าจะเอาช้าหรือเอาเร็ว ถือเป็นสิทธิ์ของสภาอยู่แล้ว” นายวิษณุ ระบุ.