ฎีกาพิพากษาบ.บ้านปูชดใช้1,500ล้าน หลอกร่วมลงทุนโรงงานถ่านหินในลาว


เพิ่มเพื่อน    

6 มี.ค.61 - ที่ห้องพิจารณา 815 ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก ศาลได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำ 2946/2550 ที่นายศิวะ งานทวี ผู้บริหารกลุ่มบริษัทด้านพลังงาน บริษัท ไทยลาวลิกไนท์ จำกัด บริษัท หงสาลิกไนท์ จำกัด บริษัท ไทยลาวเพาเวอร์ จำกัด และบริษัทเซาท์อีสท์ เอเชียพาวเวอร์ จำกัด ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU บริษัท บ้านปู อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) นายชาญชัย ชีวะเกตุ และนายองอาจ เอื้ออภิญญกุล กรรมการบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เป็นจำเลยที่ 1-6 เรื่องละเมิด เรียกค่าเสียหายจำนวนทุนทรัพย์ 63,500 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี

กรณีที่พวกจำเลยทั้งหก ร่วมกันหลอกลวงโจทก์โดยเข้าทำสัญญาร่วมทุนกับกลุ่มบริษัทโจทก์ เพื่อประสงค์จะได้ข้อมูลสัมปทานเหมืองถ่านหินและรายงานการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินลิกไนต์ ที่เมืองหงสา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หรือ สปป.ลาว (โครงการหงสา) แต่หลังจากนั้นจำเลยใช้สิทธิไม่สุจริตในการรายงานเท็จ ทำให้รัฐบาล สปป.ลาวยกเลิกสัมปทานเหมืองถ่านหิน สัญญาก่อสร้าง และการดำเนินกิจการโรงงานผลิตไฟฟ้าของพวกโจทก์ เพื่อที่พวกจำเลยจะได้เข้าทำสัญญากับรัฐบาล สปป.ลาว แทน พวกจำเลยปฏิเสธ

คดีนี้ ศาลแพ่งมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 20 ก.ย.2555 ให้ บริษัทบ้านปู จำเลยที่ 1 ส่งคืนเอกสารข้อมูลจำเพาะต้นฉบับ 13 รายการให้กับนายศิวะและพวก โจทก์ที่ 1-5 โดยให้ บริษัทบ้านปู กับ บจก.บ้านปูเพาเวอร์ จำเลยที่ 1 และ 3 ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 4,000 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีแก่โจทก์ นับตั้งแต่วันฟ้อง 3 ก.ค.2550 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ รวมทั้งร่วมกันชำระค่าขาดประโยชน์ในอนาคต ตั้งแต่ปี 2558-2570 อัตราปีละ 860 ล้านบาท และอัตราปีละ 1,380 ล้านบาท นับตั้งแต่ปี 2571-2582 โดยให้ชำระภายในวันสิ้นปีของแต่ละปีด้วย รวมค่าเสียหายที่ต้องชำระแก่โจทก์ทั้งสิ้น 31,000 ล้านบาท ทั้งยังต้องชำระค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ทั้งห้าด้วย จำนวน 5 ล้านบาท 

จำเลยยื่นอุทธรณ์ 

ต่อมาศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้ว ให้พิพากษากลับ ยกฟ้องจำเลย โดยไม่ต้องชำระค่าเสียหายแก่โจทก์ 

โจทก์ยื่นฎีกาขอให้ศาล มีคำพิพากษาให้พวกจำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ด้วย

ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือโดยละเอียดรอบคอบแล้ว เห็นควรพิพากษาแก้ ให้บริษัทจำเลยที่ 1, 2 และ 3 ร่วมกันชดใช้เงินแก่โจทก์ จำนวน 1,500 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้อง 

ต่อมานายอดุลย์ รักสนิท ทนายความของนายศิวะ โจทก์ กล่าวว่า พอใจกับคำพิพากษา โดยศาลฎีกาเห็นว่า ฝ่ายโจทก์ถูกกระทำละเมิดจริง ซึ่งศาลฎีกามีคำพิพากษาให้จำเลยที่ 1-3 ร่วมกันชดใช้เงิน 1,500 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอีกกว่า 1,000 ล้านบาทนับแต่วันฟ้องคดี หลังจากนี้จะพิจารณายื่นฟ้องบุคคลที่นำข้อมูลในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าฯ ไปใช้หาประโยชน์


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"