ผู้ว่าฯภูเก็ต ปัดเอี่ยวเรียกรับ 10 ล้าน สั่งไม่ฟ้องรุกที่อุทยาน


เพิ่มเพื่อน    

"ผู้ว่าฯภูเก็ต" ปฏิเสธไม่มีเอี่ยวเรียกรับ10ล้านบาท กรณีสั่งไม่ฟ้องบุกรุกที่อุทยาน พร้อมติดตามกรณี "สส.สิระ" ยื่นเรื่องตรวจสอบก่อสร้างคอนโดฯ

20 ส.ค.62 - นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่าตามที่เพิ่งปรากฏเป็นข่าวว่า มีคลิปเสียงของเอกชนคุยกับบางหน่วยงานโดยอ้างอิงจะนำทรัพย์สินมาให้ผู้ว่าฯ และรองผู้ว่าฯภูเก็ต โดยเอ่ยชื่อด้วย และได้รับทราบเรื่องตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม 2562 ดังนั้นเพื่อความบริสุทธิ์ใจได้มอบหมายให้นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าฯภูเก็ต ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองภูเก็ต เมื่อวันที่ 6 ส.ค.2562 โดยมี พ.ต.ต.อัครเดช พงศ์พรหม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เป็นผู้ลงบันทึกประจำวัน และทางจังหวัดภูเก็ตได้รายงานเรื่องนี้ให้กับผู้บังคับบัญชารับทราบเรียบร้อยแล้ว 

นายภัคพงศ์ กล่าวว่าขอยืนยันว่าตนเองและรองผู้ว่าฯไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง คงเป็นกรณีบางหน่วยงานที่จะเรียกรับผลประโยชน์โดยแอบอ้างตำแหน่งชื่อผู้ว่าฯและรองผู้ว่าฯเพื่อไปเรียกรับผลประโยชน์ในกรณีดังกล่าว ซึ่งต้องรอผลการสอบสวนของส่วนราชการที่ปรากฏในคลิปเสียงว่าจะดำเนินการอย่างไร ทางเราได้แจ้งความดำเนินคดีแล้ว กรณีที่เกิดขึ้นยังไม่เคยรับรู้มาก่อน

เรื่องยังไม่ถึงทางจังหวัดเป็นเรื่องเดิมที่ขึ้นมาตั้งแต่ปี 2556 เป็นกรณีแผ้วถางบุกรุกที่ของอุทยานฯ ซึ่งขณะนั้นนายอำเภอถลางมีความเห็นสั่งฟ้องเรื่องเสนอไปชั้นอัยการ และ สั่งไม่ฟ้อง เรื่องเสนอไปที่ตำรวจภูธรภาค 8 สั่งฟ้อง และเสนอไปที่อัยการสูงสุดเพื่อวินิจฉัย ปรากฏว่า ตรวจสอบสำนวนแล้วพบว่าไม่ใช่อำนาจของตำรวจ จึงส่งกลับมาให้ทางอัยการจังหวัดเสนอผู้ว่าฯภูเก็ต ในฐานะเป็นผู้มีอำนาจ แต่เรื่องยังไม่มาถึงจังหวัดเลย มีการไปเจรจาในการเรียกรับผลประโยชน์โดยแอบอ้างว่าได้พบได้คุยกับตนแล้วนั้น ขอเรียนว่า ไม่เคยพูดคุยเลยว่ามีคดีนี้เกิดขึ้น ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง" นายภัคพงศ์ กล่าวและว่า

ทุกคดีที่เกิดขึ้นในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เราดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา และขอฝากว่าหากมีผู้แอบอ้างนำตำแหน่งไปเรียกรับผลประโยชน์ขอให้แจ้งตรงมาที่ตน อย่างเช่นกรณีนี้เช่นเดียวกัน เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทางผู้ที่เสียหายนำคลิปมาเปิดให้ฟัง และ ขอทราบข้อเท็จจริง จึงได้แจ้งความดำเนินคดีไว้แล้วว่าแอบอ้างชื่อทำให้เราเสียหาย

นายภัคพงศ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณี นายสิระ เจนจาคะ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐให้ดำเนินการตรวจสอบการก่อสร้างคอนโดฯเดอะพีค เรสซิเดนท์ ที่กะตะน้อย นั้น ต้องรอกระบวนการของศาลปกครองสูงสุดนครศรีธรรมราช คงใช้เวลาไม่นาน จะต้องทราบผลของศาลพิจารณา ซึ่งมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องในประมวลกฏหมายที่ดิน ความชอบหรือไม่ชอบในที่ดินแปลงนี้เรื่องอยู่ที่ศาลปกครองสูงสุด ทางกรมที่ดินต้องอุทธรณ์คำสั่งไปยังศาลปกครองสูงสุดทุกกรณี ถัดมาเป็น พรบ.ควบคุมอาคาร

ในการที่ผู้ประกอบการเสนอขอก่อสร้างอาคาร ไม่จำเป็นต้องเป็นโฉนด มี นส.3 สามารถขอได้ เมื่อได้รับใบอนุญาตไปก่อสร้างปกติ และภูเก็ต มีประกาศคุ้มครองสิ่งแวดล้อมต้องทำอีไอเอ ผ่านคณะกรรมการระดับจังหวัดเสนอไปกระทรวงทรัพยากรฯเห็นชอบรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมความสูงระยะห่างตามระเบียบที่กำหนด

ในตอนนี้ต้องรอคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดจะชี้ประเด็นใด ทางส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจะมาแก้ไขปัญหาตามนั้น การที่ส.ส.ลงมาตรวจสอบเดอะพีค เรสซิเดนท์ ก่อนหน้านี้มีหลายชุดลงมาตรวจสอบเช่นกัน ซึ่งต้องรอฟังคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ส่วนความเสียหายในการซื้อคอนโดฯนี้หากมีการโอนกรรมสิทธิ์ไม่ได้ ทางจังหวัดต้องเชิญเจ้าของกิจการมาชี้แจงว่ามีผลกระทบอย่างไรบ้าง

ด้าน นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ทางจังหวัดประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการก่อสร้างอาคารชุดเดอะพีค เรสซิเดนท์ ครั้งที่ 2/2562 ที่ประชุมมีความเห็นให้เจ้าของโรงแรมชี้แจงการถมคลองสาธารณะ ซึ่งทางคณะกรรมการจะลงตรวจสอบพื้นที่ตรงนี้ เนื่องจากทางที่ดินจังหวัดมีคำสั่งให้เอกชนชี้แจงภายใน 25 สิงหาคมนี้


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"