"บิ๊กตู่" หอบ ครม.เยี่ยมคนสุรินทร์-บุรีรัมย์ เว้าอีสานอ้อน "ฮักคักๆ ฮักแท้ๆ" สั่งผู้ว่าฯ 20 จังหวัดเร่งแก้ภัยแล้ง เยียวยาชาวบ้านทันทีไม่ต้องรอสั่ง ลั่นเทงบประมาณสนับสนุน เตรียมผลักดันศึกษาโครงการ "โขง ชี มูล"
เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม เวลา 07.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง กทม. ไปยังท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ต.ร่อนทอง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เพื่อตรวจราชการ จ.สุรินทร์และบุรีรัมย์ ติดตามการแก้ไขปัญหาภัยแล้งและการขาดแคลนน้ำ โดยนายกฯ และคณะเดินทางถึงท่าอากาศยานบุรีรัมย์ในเวลา 08.20 น. และรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์การขาดแคลนน้ำในพื้นที่รวมถึงแนวทางแก้ไขจากผู้ราชการจังหวัดและผู้ที่เกี่ยวข้อง จากนั้นขึ้นเฮลิคอปเตอร์มายังท่าอากาศยานสุรินทร์ แล้วนั่งรถโตโยต้า เวลไฟร์ สีขาว 3 กณ 1689 เพื่อไปตรวจเยี่ยมอ่างเก็บน้ำห้วยเสนงโครงการชลประทานสุรินทร์ อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์
ต่อมาเวลา 09.30 น. นายกฯ และคณะเดินทางถึงอ่างเก็บน้ำห้วยเสนงโครงการชลประทานสุรินทร์ มีประชาชนนำผ้าขาวม้ามาผูกเอวให้นายกฯ และคณะ โดย พล.อ.ประยุทธ์แวะเยี่ยมชมกลุ่มผู้เลี้ยงโคสุรินทร์วากิว พร้อมกับชิมสเต๊กเนื้อวากิว ท่ามกลาง ส.ส.ในพื้นที่ที่มารอต้อนรับประกอบด้วยนายณัฏฐพล จรัสรพีพงษ์ ส.ส.สุรินทร์ พรรคพลังประชารัฐ นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร ส.ส.สุรินทร์ พรรคภูมิใจไทย นายอดิพงษ์ ฐิติพิทยา ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย รวมถึงนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม, นายตี๋ใหญ่ พูนศรีธนากูล, นายคุณากร ปรีชาชนะชัย ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ก็มาต้อนรับด้วย โดยนายตี๋ใหญ่กล่าวว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทยมาต้อนรับนายกฯ ซึ่งนายกฯ ตอบกลับว่า "ผมไม่มีพรรค ต้องช่วยกัน ทุกอย่างจะเดินไปได้ จะทะเลาะกันทำไม ผมไม่อยากจะสู้กับใคร" ทำให้บรรดา ส.ส.ที่มาต้อนรับหัวเราะชอบใจ
จากนั้นนายกฯ กล่าวทักทายประชาชนบนเวทีเป็นภาษาอีสานว่า ฮักคักๆ ฮักแท้ๆ ลูกหลานอีสานเก่าเหมือนกัน วันนี้มาดูแลชาวอีสาน เพราะเห็นถึงความเดือดร้อนหลายอย่าง ที่ติดตามมาตลอด และจะหาวิธีการบริหารให้ได้โดยเร็ว จากนั้นนายกฯ ได้แนะนำ ครม.และคณะทั้งหมดที่เดินทางมาด้วยให้ยืนขึ้น โดยระบุอย่างอารมณ์ดีว่า พวกนี้ที่ต้องให้ยืนเพราะเป็นจำเลยร่วม รับผิดชอบดูแลพี่น้องประชาชน วันนี้ดีใจที่ได้มาพบพวกเราที่เมืองช้างสุรินทร์ รับทราบสถานการณ์ภัยแล้ง ตนดูทุกวัน มีการรายงานทุกวันในโทรศัพท์ของตนถึงปัญหาสถานการณ์น้ำที่ต้องแก้ไข ซึ่งการจะแก้ทั้งหมดต้องมีแผนงานในการดำเนินงาน ขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วมในการจัดการ ในการขุดห้วยเสนง และทหารจัดเรื่องประปา บ่อบาดาล ทั้งนี้พร้อมจัดงบประมาณให้ในส่วนที่ยังสามารถใช้ได้อยู่
"นายกฯ มาต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลงใช่หรือไม่ วันนี้ที่มาเพราะเราต้องรับผิดชอบคนทั้งประเทศ จะเห็นได้ว่าไม่ว่าใครก็ตาม จะรัฐมนตรีหรือใครคือรัฐบาลของคนทั้งประเทศ ของคนทุกจังหวัด ไม่ใช่จังหวัดไหนไม่ดีกับผมแล้วผมไม่มา ยิ่งต้องมาใหญ่เลย วันนี้ร่วมมือกันทำงานทุกคน วันนี้เป็นรัฐบาลของคนทั้งประเทศ ทุกจังหวัด ไม่ใช่จังหวัดไหนไม่ดีผมจะไม่มา ให้เกียรติผมบ้าง วันนี้ทุกคนต้องช่วยกัน อยากเห็นผมพูดเรื่องที่มีประโยชน์ใช่ไหม เรื่องอะไรที่ขัดแย้งเดี๋ยวค่อยว่ากัน ผมไม่ไปขัดแย้งกับพวกท่าน ผมเป็นสุภาพบุรุษพอ เป็นลูกผู้ชาย" พล.อ.ประยุทธ์ระบุ
ไม่ต้องจ่ายค่าน้ำประปา
ทั้งนี้ สถานการณ์ฝนตกต่ำกว่าปริมาณสถิติที่เคยผ่านมา โลกกำลังเปลี่ยนแปลงจากความกดดันเอลนีโญ สำหรับคนสุรินทร์ทุกคนคือคนไทย รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย อย่าให้ใครมาแบ่งแยก แบ่งไม่ได้อีกแล้ว วันนี้เราต้องช่วยกันทั้งหมด อ่างเก็บน้ำใหญ่ปริมาณน้ำเหลือ 49 เปอร์เซ็นต์ บางอันเหลือ 10-15 เปอร์เซ็นต์ ของเราเร่งด่วนคือเรื่องประปาใช่หรือไม่ ในเขตเมืองเปิดมามีแต่ลม จึงตัดสินใจว่าเดือนนี้ไม่ต้องให้จ่ายค่าน้ำประปา ไม่ใช่ประชานิยมนะ แต่ประชาชนเดือดร้อน น้ำใช้ไม่ได้ เคยเจอปัญหานี้มาก่อน และสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดต้องแก้ปัญหาด่วน นอกจากนี้เรื่องการทำฝนหลวง สั่งให้มีการสแตนด์บายอยู่ที่นี่หลายลำ รวมทั่วประเทศกว่า 4 พันเที่ยวบิน วันนี้ทำทุกอย่าง อะไรที่ต้องใช้จ่ายพิเศษตนจะดูแลให้ ทำเรื่องเร่งด่วนก่อน ทั่วประเทศ 21 จังหวัด ตนเป็นห่วงเรื่องน้ำอุปโภคบริโภค ไม่มีน้ำกินน้ำใช้ลำบาก
ต่อมานายกฯ ได้เปิดโอกาสให้ ส.ส.ในพื้นที่ได้เสนอโครงการและพูดถึงปัญหาในพื้นที่ อย่างนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย เสนอให้พักหนี้เกษตรกรประมาณหนึ่ง และขอให้ยกจังหวัดสุรินทร์เป็นโมเดลในการแก้ปัญหาภัยแล้งประเทศไทย และฝากทางจังหวัดเมื่อคิดแผนงานขอให้เชิญ ส.ส.เข้าร่วมด้วย ขณะที่นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร ส.ส.สุรินทร์ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า หวังว่าที่นายกฯ มาวันนี้จะไม่เป็นไฟไหม้ฟาง ถ้ามีอะไรตนก็จะกราบเรียนนายกฯ ผ่านสภา และตนของบประมาณสร้างอ่างเก็บน้ำ 1,000 ล้านบาท โดยนายกฯ ได้กล่าวว่ารับในหลักการ
หลังจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้บีบแตรปล่อยขบวนรถบรรทุกน้ำเพื่อช่วยเหลือประชาชนด้านการอุปโภคบริโภค และเดินทางมายังการประปาส่วนภูมิภาคเพื่อดูการผลิตน้ำปะปา พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่
ต่อมา?เวลา 11.30 น. ที่ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ นายกฯ เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด เพื่อรับฟังรายงานสถานการณ์ การแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ผู้ว่าราชการจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด หัวหน้าส่วนราชการเข้าร่วมประชุม
พล.อ.ประยุทธ์มอบนโยบายเน้นย้ำให้ผู้ว่าฯ และหัวหน้าส่วนราชการเร่งดูแลให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบทันที อย่ารอให้นายกฯ สั่งการหรือให้นายกฯ ลงพื้นที่ก่อนค่อยลงมือทำ โดยรัฐบาลจะใช้งบประมาณเท่าที่จำเป็นให้เกิดประโยชน์ที่สุด ขอให้ปรับแผนงบประมาณที่ยังไม่ได้ใช้ มาแบ่งทำโครงการเร่งด่วนก่อน ส่วนการจัดทำแผนของบประมาณปี 63 นั้น ขอให้ส่วนราชการจัดทำแผนเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาภายในเดือนนี้
เทงบแก้ภัยแล้งอีสาน
นอกจากนี้นายกฯ ยังได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดจัดหาแหล่งพักน้ำ โดยได้เสนอโครงการขุดบ่อแลกดินเพื่อเก็บน้ำไว้ในบ่อของชาวนา แก้ไขปัญหาการขาดน้ำช่วงฤดูแล้ง ในส่วนงบประมาณที่ผู้ว่าฯ 20 จังหวัดเสนอเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งนั้น ตนเห็นชอบรับหลักการเพื่อนำไปหารือกับ ครม.ในการพิจารณางบกลาง สนับสนุนงบประมาณให้จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือต่อไป
จากนั้นเวลา 13.35 น.ที่ท่าอากาศยานสุรินทร์ภักดี พล.อ.ประยุทธ์และคณะไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ปฏิบัติของหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.สุรินทร์ และเจ้าหน้าที่ของเหล่าทัพที่สนับสนุนปฏิบัติการฝนหลวง โดยนายกฯ กล่าวว่า 5 ปีที่ผ่านมาทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ เป็นไปตามแนวทางในหลวงรัชกาลที่ 9 วันนี้ถือว่าทำงานสืบสานต่อยอดมาสู่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน ขอให้ทำความเข้าใจกับประชาชนถึงการทำฝนหลวงเกี่ยวข้องกับสภาพอากาศด้วย รัฐบาลพร้อมสนับสนุน ขอบคุณอาสาสมัคร เจ้าหน้าที่กรมฝนหลวงฯ ประชาชนในพื้นที่ด้วย ขอให้ทุกคนร่วมมือกันแก้ปัญหาต่อไป ด้วยความเข้าใจความไว้ใจซึ่งกันและกัน จะทำให้ทุกปัญหาแก้ไขได้
ต่อมาเวลา 14.30 น. นายกฯ และคณะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปติดตามสถานการณ์ภัยแล้ง จ.บุรีรัมย์ แล้วเดินทางต่อด้วยรถยนต์ไปตรวจเยี่ยมอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก โครงการชลประทานบุรีรัมย์ อ.เมืองบุรีรัมย์ โดยทันทีที่มาถึงนายกฯ ได้โบกมือทักทายและทำมือสัญลักษณ์ "ไอเลิฟยู" ให้ประชาชนที่มารอต้อนรับกว่า 2 พันคน พร้อมเยี่ยมชมบูธผลิตภัณฑ์บ้านสวายสอข้าวอินทรีย์ และได้ขึ้นบนหอดูนกส่องกล้องเทเลสโคปเพื่อดูนกกระเรียนพันธุ์ไทย ซึ่งเป็นสัตว์คุ้มครองและหาดูได้ยาก
จากนั้นนายกฯ ได้ถ่ายภาพร่วมกับกลุ่มประชาชนที่อนุญาตให้ทางการเข้าไปในที่ดินเพื่อทำระบบผันน้ำ ลำปะเทีย-อ่างเก็บน้ำห้วยตลาด ในการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง จำนวน 118 คน หลังมอบประกาศนียบัตรแล้วได้กล่าวกับประชาชนว่า ไม่เคยผิดหวังมาบุรีรัมย์ วันนี้ดีใจที่ได้มาอีกครั้ง มาพบพวกเรา เห็นจากการจัดแข่งกีฬา แข่งรถ เพราะบุรีรัมย์มีศักยภาพหลายอย่าง แผนงานที่เสนอมาจะจัดลำดับความเร่งด่วนก่อนหลัง แต่สิ่งที่อยากขอบคุณทุกคนที่เสียสละที่ดินเพื่อประโยชน์ของประเทศ เหมือนดังคำขวัญของทหารที่ว่า "น้ำใจและไมตรีต่อชีวีเมื่อยังคง มีค่ากว่าไตรรงค์ใช้คลุมองค์เมื่อยามตาย" ฉะนั้นต้องทำความดีเมื่อมีชีวิตอยู่ ไม่ว่าใครจะเชื้อชาติไหน ไทย ลาว เขมร มีเชื้อชาติไทยทั้งสิ้น
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สวดมนต์ภาวนาอยากให้ฝนตกจริงๆ ที่ดันไปตกที่น้ำท่วม แผนงานโครงการเสนอมาจะไปพิจารณาในสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เพื่อให้เกิดการทำงานร่วมกัน โครงการโขง ชี มูล ตนคิดมาหลายปีแล้ว แต่อยู่ในขั้นตอนการศึกษา ต้องมีเจรจาระหว่างประเทศ ที่จะมีการผันน้ำประตูน้ำ การเพิ่มความจุของอ่าง ต้องศึกษา เมื่อเช้าคุยกันทำอย่างไรจะมีการขุดลอกแลกกับดินได้ไหม เนื่องจากต้องใช้งบมหาศาล รวมถึงต้องไปดูกฎหมายทำได้หรือไม่อย่างไร เช็กแล้วว่าทำได้ อยู่ที่การออกแบบของกรมชลประทาน หากใครสนใจเอาเครื่องไม้เครื่องมือมาขุดดินไปขายต้องเท่าเทียมและคุ้มค่า.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |