19 ส.ค.62- เมื่อเวลา 00.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.อารัทธ์ รักษาวงศ์ รอง สว.(สอบสวน)สภ.วิสัยเหนือ รับแจ้งเหตุไฟไหม้รถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ที่บริเวณถนนเพชรเกษม กม.17 หมู่ที่ 1 ตำบลวิสัยเหนือ อ.เมือง จ.ชุมพร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาแล้วเดินทางไปตรวจสอบบนถนนเลนซ้ายช่องทางขาขึ้นพบรถพ่วง 22 ล้อ ฮีโน่ ทะเบียน 70-5790 เชียงใหม่ ตัวพ่วงทะเบียน 70-5504 เชียงใหม่ บรรทุกทุเรียนมาเต็มตู้คอนเทรนเนอร์จำนวน 18 ตัน ไฟกำลังโหมไหม้ที่ล้อยางช่วงตัวพ่วงหลัง พร้อมกับประสานไปยังเจ้าหน้าที่ดับเพลิง อบต.วิสัยเหนือ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 5 กิโลเมตร ให้นำรถน้ำมาช่วยดับไฟที่กำลังโหมไหม้ และได้ปิดกั้นการจราจรขาขึ้นห้ามรถสัญจรกลัวจะได้รับอันตราย  และเจ้าหน้าที่ได้ให้คนขับแยกหัวลากออกจากตัวพ่วงไปจอดยังริมทางจุดที่ปลอดภัย เนื่องจากหัวลากมีน้ำมันอยู่เต็มถังอาจว่าจะเกิดการระเบิดขึ้นได้
 
โดยไฟได้โหมไหม้ล้อยางตัวพ่วงหลังหมดทั้ง 12 ล้อ จนหมดเหลือแต่กระทะล้อ แล้วไฟได้ลุกลามไหม้ไปยังชิ้นส่วนต่างๆใต้ท้องรถและโหมไหม้ขึ้นไปยังตู้คอนเทรนเนอร์จนสีเคลือบหลุดล่อนออกจนเห็นเนื้อเหล็ก กระทั่งต่อมาได้มีคนงานจากล้งรับซื้อทุเรียนของบริษัท แคนแมนกรุ๊ป จำกัด จำนวน 7 คน ขับรถกระบะบรรทุกกะละมังและถังใส่น้ำมาช่วยดับไฟที่กำลังโหมไหม้อย่างรุนแรงกันอย่างโกลาหล แต่น้ำมีไม่เพียงพอจึงต้องวิ่งกันลงไปตักน้ำมาจากในหนองที่อยู่น้ำริมถนนให้จุดเกิดเหตุ และมีตำรวจ หน่วยกู้ภัย และชาวบ้านจำนวนหนึ่งมาช่วยกันตักน้ำราดดับไฟ บางคนก็นำขวดน้ำดื่มมาช่วยดับไฟ เป็นไปอย่างชุลมุนวุ่นวาย ซึ่งก็สามารถช่วยบรรเทาดับไฟให้มอดลงได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีคุกกรุ่นขึ้นมาเรื่อยๆตลอดเวลา
 
กระทั่งหน่วยดับเพลิงของเทศบาลตำบลวังไผ่ สามารถฉีดน้ำให้ไฟที่กำลังโหมลุกไหม้ตู้คอนเทรนเนอร์จนสงบลงได้ โดยคาดว่าทุเรียนจำนวน 18 ตัน มูลค่าเกือบ 10 ล้านบาท ภายในตู้คอนเทรนเนอร์ซึ่งถูกความร้อนเผาไหม้นานกว่า 2 ชั่วโมง ได้รับความเสียหายทั้งหมด  หลังจากไฟสงบได้ไม่นานรถดับเพลิงของ อบต.วิสัยเหนือก็มาถึงที่เกิดเหตุ ท่ามกลางสายตาความไม่พอใจของชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในเหตุการณ์
 
นายกิตติศักดิ์ ดาทอง อายุ 37 ปี กล่าวว่า ตนเป็นคนงานล้งรับซื้อทุเรียนของ บริษัท แคนแมนกรุ๊ป จำกัด ซึ่งอยู่ในพื้นที่ อ.หลังสวน เถ้าแก่ได้สั่งการให้ตนพร้อมคนงานอีกราว 7 คน นำน้ำใส่ถังและกะละมังขึ้นมากับรถยนต์กระบะ ให้มาช่วยดับไฟที่กำลังโหมไหม้ตู้คอนเทรนเนอร์ หลังจากที่คนขับรถพ่วงคันเกิดเหตุโทรไปบอกเถ้าแก่ว่าไฟไหม้นานนับชั่วโมงแล้วแต่ยังไม่มีรถดับเพลิงมาแม้แต่คันเดียว พวกตนจึงรีบขับรถออกมาจากพื้นที่ อ.หลังสวน ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 50 กิโลเมตร แต่น้ำไม่เพียงพอซึ่งก็ยังถือว่าโชคดีที่มีหนองน้ำอยู่ริมถนน จึงช่วยกันตักขึ้นมาดับไฟจนสามารถสกัดไฟไว้ได้ในระดับหนึ่ง แต่ไฟก็ยังคุกกรุ่นขึ้นมาเรื่อยๆ จนมีรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลวังไผ่ วิ่งมาถึงและช่วยฉีดน้ำทำให้ไฟดับไปได้ในที่สุด
 
นายคมกริช ชูชาติ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 หมู่ที่ 7 ตำบลสะเดา อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ คนขับรถพ่วง 22 ล้อ คันเกิดเหตุ กล่าวว่า ตนขับรถบรรทุกทุเรียนทั้งหมด 18 ตัน จากล้งในอำเภอหลังสวน จะไปส่งต่อยังประเทศจีน บริเวณแม่น้ำโขง ด้าน จ.นครพนม เมื่อถึงที่เกิดเหตุล้อยางด้านซ้ายของตัวพ่วงเกิดระเบิดแล้วรถได้วิ่งไหลมาอีกประมาณ 200 เมตร จากนั้นได้เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นจึงจอดรถบริเวณไหล่ทางแล้วรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยเหลือดังกล่าว