สลด! "รถตู้" ขนแรงงานต่างด้าวชาวลาวประสานงา "รถพ่วง 18 ล้อ" บนถนนสายสระแก้ว-จันทบุรี เสียชีวิต 11 ศพ บาดเจ็บ 4 ราย ระหว่างเดินทางไปต่อพาสปอร์ต คาดคนขับรถตู้หลับในพุ่งชนอย่างแรง "ผอ.สคอ." ห่วงรถตู้เกิดอุบัติเหตุบ่อย จี้รัฐเร่งสอบสาเหตุอย่างละเอียด "ศักดิ์สยาม" เต้นสั่งคุมเข้มรถโดยสารจริงจัง

    เมื่อเวลา 04.15 น. วันที่ 18 ส.ค. ร.ต.อ.สุชาติ กอแก้วทองมา รองสารวัตรสอบสวน สภ.วังสมบูรณ์ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยสว่างสระแก้ว เกิดอุบัติเหตุรถตู้โดยสารรับจ้างไม่ประจำทาง หมายเลขทะเบียน 34-0405 กรุงเทพมหานคร ชนประสานงากับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ทะเบียนตัวแม่ 70-1234 อุตรดิตถ์ และลูกพ่วง ทะเบียน 70-1235 อุตรดิตถ์ ที่บริเวณถนนสาย 317 (สระแก้ว-จันทบุรี) ใกล้ทางเข้าที่ว่าการอำเภอวังสมบูรณ์ ก่อนถึงโรงพยาบาลวังสมบูรณ์  โดยจุดดังกล่าวอยู่ระหว่างการก่อสร้างขยายถนนจาก 2 เลนเป็น 4 เลน ซึ่งเปิดให้วิ่งสวนเลนชั่วคราว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ จำนวน 11 ราย เป็นชาย 6 ราย หญิง 5 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 4 คน ผู้เสียชีวิตทั้งหมดโดยสารมากับรถตู้คันเกิดเหตุ 
    สอบสวนทราบว่า รถตู้คันดังกล่าวมีนายสรรเสริญ สระทองขันธ์ เป็นคนขับของบริษัทรถตู้รายใหญ่แห่งหนึ่งที่รับจ้างพาคนงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเวียดนาม เดินทางไปประทับตราหนังสือเดินทางในพื้นที่ จ.สระแก้วและจันทบุรีทุกวัน  ซึ่งรถตู้คันเกิดเหตุรับผู้โดยสารชาวลาว 13 คน เดินทางมุ่งหน้าไปที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อ.สอยดาว จ.จันทบุรี เพื่อประทับตราหนังสือเดินทาง แต่ระหว่างทางได้เกิดชนประสานงาอย่างรุนแรงกับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ส่งผลให้คนขับรถตู้ซึ่งเป็นคนไทยและผู้โดยสารชาวลาวเสียชีวิต รวม 11 ราย และได้รับบาดเจ็บ 4 ราย ถูกนำส่งโรงพยาบาลวังสมบูรณ์ 
    ทั้งนี้ สภาพรถตู้คันเกิดเหตุพบถูกชนจากด้านหน้าจนยุบเข้าไปเกือบครึ่งคัน โดยมีผู้เสียชีวิตหลายรายกระเด็นออกมานอกรถ บางรายเสียชีวิตในสภาพขาขาด เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องช่วยกันงัดร่างผู้บาดเจ็บนำตัวส่งโรงพยาบาลวังสมบูรณ์เป็นการด่วน
    เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากคนขับรถตู้หลับใน เนื่องจากสภาพรถได้ขับกินเลนเข้าไปจนจึงจุดที่เกิดอุบัติเหตุ อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งตรวจสอบหาพยานแวดล้อม เพื่อสรุปการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง
    สำหรับผู้เสียชีวิต 11 ราย คือ 1.นายสรรเสริญ สระทองขันธ์ เป็นคนขับรถตู้ 2.Silisack Hatihasinh 3. Phannthayongsa bouakheua 4.Douangmala Bouakheua 5.Kaisone 6.Keokounnavong Sengdeuan 7.Sillphone Ketsana 8. Nhouyphathanah Lyvong 9.ชายสวมเสื้อแขนยาว ลายตาข่าย กางเกงยีนส์ขาสั้น 10.ชายสวมเสื้อแขนยาวดำ กางเกงยีนส์ 11.หญิงเสื้อแขนยาวสีเทา กางเกงยีนส์ลายจุด ทั้งหมดเป็นผู้โดยสารรถตู้
    ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย มี 1.นายท้าวทัด พอมปะเสิด อยู่โรงพยาบาลสระแก้ว 2.นายทัดทะสิม สิสิสิก อยู่โรงพยาบาลสระแก้ว 3.นางเกดสะนา สิลิพอน อยู่โรงพยาบาลสระแก้ว ซึ่งทั้งหมดเป็นชาวลาว และ 4.นายสุบิน เพ็งหมู คนขับรถพ่วง อยู่โรงพยาบาลวังสมบูรณ์
    พ.ต.อ.เสกสรร วัฒนพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ลงพื้นที่ตรวจสอบอุบัติเหตุระบุว่า รถตู้คันนี้เป็นรถตู้โดยสารไม่ประจำทาง ได้รับแรงงานชาว สปป.ลาว มาจากกรุงเทพมหานคร ซึ่งแรงงานทั้งหมดได้เดินทางเข้ามาจากทาง จ.นครพนม คาดว่าจะเดินทางไปในพื้นที่ จ.จันทบุรี สำหรับอุบัติเหตุนั้น ถนนดังกล่าวอยู่ในระหว่างการปรับปรุง เป็นถนน 4 เลน และมีการก่อสร้างสะพานข้ามถนน จึงบีบบังคับให้รถสัญจรเบี่ยงทางเหลือเป็นการวิ่งสวนทาง 2 เลน และมีทางตรง 
    "สาเหตุเบื้องต้นได้รับรายงานจากพนักงานสอบสวนคาดว่าคนขับรถตู้น่าจะเกิดอาการหลับใน เพราะได้ข้อมูลว่าต้องขับรถระยะทางไกลติดต่อกันนานหลายชั่วโมง รวมทั้งพักผ่อนน้อย ทำให้เกิดอาการอ่อนเพลียจนเป็นเหตุให้วูบหลับ กระทั่งพุ่งชนประสานงากับรถพ่วงอย่างจัง" รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้วกล่าว
    ด้านนายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องไปดูว่ามีป้ายสัญญาณเตือนไฟส่องสว่างเห็นชัดหรือไม่ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุทำให้มองไม่เห็นหรือหลบอะไรที่อาจทำให้รถเสียหลัก หรือคนขับรถตู้มีอาการหลับใน เหนื่อยล้าจากการเร่งทำรอบหรือไม่ ต้องไปสืบสวนจากบริษัทต้นสังกัดเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง รวมทั้งสิ่งที่จะต้องค้นหากันต่อคือ ตัวคนขับ ใบอนุญาต ประวัติการกระทำความผิด รถอายุกี่ปี การตรวจสภาพ รถป้ายเหลืองมีการขออนุญาตข้ามเขตหรือไม่ รวมถึงได้มีการติดตั้ง GPS ตามระเบียบและมีการเปิดใช้งานหรือไม่ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสืบค้นหาความจริงให้ปรากฏ จะได้เร่งหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย เพราะนั่นหมายถึงการไม่มีความปลอดภัยในการเดินทาง
    ขณะที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ได้รับรายงานข้อมูลจากอุบัติเหตุดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นพบว่าสาเหตุเกิดจากการหลับในของคนขับ และ GPS ไม่ได้ใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด แต่ขอตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลให้ชัดเจนอีกครั้ง และให้กรมการขนส่งตรวจสอบและรายงานถึงสาเหตุที่แท้จริง
    "ก่อนหน้านี้ได้มอบนโยบายให้กรมการขนส่งทางบกไปแล้ว เรื่องการให้บริการรถสาธารณะทุกประเภทต้องเน้นเรื่องความปลอดภัยการบังคับใช้กฎหมาย ตรวจสอบสภาพรถให้พร้อมใช้งาน และมีความปลอดภัยตามกฎหมายกำหนด ผู้ประกอบการต้องปรับเปลี่ยนรถให้มีคุณภาพก่อนนำมาให้บริการ พร้อมกันนี้ขอความร่วมมือประชาชน หากพบเห็นการให้บริการของรถโดยสารสาธารณะที่ไม่ได้คุณภาพ ขอให้ร้องเรียนไปได้ที่กรมการขนส่งทางบก สายด่วน 1584" รมว.คมนาคมกล่าว.