ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผนว่า การส่งออกข้าวไทยในเดือนม.ค.61 ที่ผ่านมามีปริมาณ 961,859 ตัน มูลค่า 15,397 ล้านบาท หรือ474 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้น 16.8% และมูลค่าเพิ่มขึ้น 24.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2560 ที่มีการส่งออกปริมาณ 823,401 ตัน มูลค่า 12,325 ล้านบาท หรือ 346 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่เมื่อเทียบกับเดือนธ.ค. 60 ที่ผ่านมา พบปริมาณส่งออกลดลง 16.7% และมูลค่าลดลง 13.8% โดย มีปริมาณ 1,154,219 ตัน มูลค่า 17,870 ล้านบาท

        ทั้งนี้ในเดือนมกราคมที่ผ่านมามีการส่งออกข้าวทุกชนิดลดลงจากเดือนก่อนหน้าเนื่องจากปัจจัยทางด้านค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ส่งผลให้ราคาข้าวไทยปรับตัวสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิจึงทำให้ผู้ซื้อบางส่วนชะลอการซื้อข้าว ซึ่งมีการส่งออกข้าวขาวปริมาณรวม 457,210 ตัน ลดลง 11.4% เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2560 โดยส่วนใหญ่ส่งไปยังประเทศฟิลิปปินส์ เบนิน แคเมอรูน ญี่ปุ่น โมซัมบิก แองโกล่า เป็นต้น

       ในขณะที่การส่งออกข้าวนึ่งมีปริมาณ 308,999 ตัน ลดลง 18.3% เมื่อเทียบกับเดือนธ.ค.60 โดยตลาดหลักยังคงเป็นประเทศเบนิน แอฟริกาใต้ บังคลาเทศ แคเมอรูน เป็นต้น ส่วนการส่งออกข้าวหอมมะลิมีปริมาณรวม 146,822 ตัน ลดลงถึง 32.9% เมื่อเทียบกับเดือนธ.ค.60 โดยข้าวหอมมะลิคุณภาพดียังคงส่งไปยังตลาดประจำเช่น สหรัฐอเมริกา จีน ฮ่องกง เป็นต้น ส่วนปลายข้าวหอมมะลิส่งไปยังประเทศแคมเมอรูน มอริเตเนีย กินี เป็นต้น

         สำหรับในเดือนก.พ.นั้น คาดว่าจะอยู่ที่ 800,000 ตัน เนื่องจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ทำให้การส่งออกมีอุปสรรค เพราะราคาข้าวไทยยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าประเทศคู่แข่งโดยเฉพาะข้าวหอมมะลิ ซึ่งข้าวหอมมะลิ 100% (ปีการผลิต 2560/61) ราคาอยู่ที่ 1,135 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน ขณะข้าวหอมของเวียดนามราคาอยู่ที่ประมาณ 650 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน ส่วนกัมพูชาราคาอยู่ที่ประมาณ 880 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน