16ส.ค.62-ที่โรงแรมริชมอนด์ จ.นนทบุรี ช่วงค่ำวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นายประหยัด พวงจำปา รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงถึงกรณีถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดจงใจปกปิดบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน วงเงินกว่า 227 ล้านบาท ว่า ข้อเท็จจริงกรณีเกิดขึ้นในช่วงยื่นบัญชีทรัพย์สินครั้งแรกเมื่อปี 60 โดยมีความเข้าใจเรื่องบัญชีทรัพย์สินคลาดเคลื่อนของภรรยา ที่นึกว่าบัญชีเงินฝากปิดไปแล้ว แต่ยังมีการเปิดใช้งานอยู่ พอทราบทีหลังตนบริสุทธิ์ใจ จึงได้ยื่นทรัพย์สินเพิ่มเติมเป็นเงินฝาก 3 บัญชี รวมถึงเรื่องเช่าซื้อห้องชุดที่อังกฤษ ที่ภรรยาทำธุรกิจร่วมกับบุคคลอื่น และถือครองกรรมสิทธิ์แทน โดยไม่ได้เป็นเจ้าของ ส่งเหล่านี้ชี้แจงไปแล้วอย่างบริสุทธิ์ใจ
นายประหยัด กล่าวว่า การดำเนินคดีดังกล่าวเป็นการกลั่นแกล้ง เพราะดำเนินการไม่ชอบหลายประการ ไม่ให้ความเป็นธรรม ไม่เคยให้โอกาสเข้าชี้แจงด้วยวาจาต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. และเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทั้งที่ร้องขอความเป็นธรรมหลายครั้ง การไต่สวนไม่ชอบตามกฎหมาย และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 ที่ต้องพิสูจน์เจตนาและการดำเนินการกับข้าราชการ ป.ป.ช.
"ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าคดีผมพาดพิงกับบางสิ่งบางอย่าง คดีเหล่านั้นที่ยังไม่มีข้อยุติ มีปัญหาคาราคาซัง จะเกี่ยวข้องกับเรื่องของผมได้อย่างไร กระบวนการไต่สวนต้องแยกการไต่สวนในแต่ละเรื่อง แต่เรื่องนี้การไต่สวนไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ มาตรา 235 และ 236 และไม่เกี่ยวกับ พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 114 เมื่อผมชี้แจงว่าภรรยาถือครองทรัพย์สิน ไม่ต้องยื่นด้วยซ้ำ พิสูจน์สิว่าทรัพย์สินที่ถือครองเป็นของภรรยาจริง หรือลงทุนจริง ถ้าไม่ใช่ค่อยมาว่าผม"
รองเลขาธิการป.ป.ช.กล่าวอีกว่า ปัจจุบันได้ยื่นฟ้องนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. แล้วต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ความคืบหน้าปัจจุบันอยู่ระหว่างการแก้คำฟ้อง อย่างไรก็ดีในส่วนของคดีตนที่ถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดกรณีนี้ ตามกฎหมายบอกว่าต้องส่งให้อัยการพิจารณา ยังมีโอกาสขอความเป็นธรรมต่อทนายแผ่นดิน พิสูจน์เจตนาว่าขั้นตอนการไต่สวนเป็นไปโดยชอบหรือไม่ ตนไม่ใช่คนทุจริต เรื่องนี้เป็นเรื่องข้อบกพร่อง ความเข้าใจคลาดเคลื่อนของภรรยา ที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ การนำสืบต่าง ๆ เป็นตัวภรรยาที่หลงลืม ไม่ใช่ตนหลงลืม การที่ภรรยาสำคัญผิด ย่อมเกิดขึ้นได้ ยืนยันเป็นการยื่นทรัพย์สินครบถ้วนทุกขั้นตอน
"ขอฝากสื่อมวลชน องค์กรยุติธรรมต่าง ๆ ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญเปิดโอกาสเรื่องหนึ่งที่สำคัญ คือการถอดถอนกรรมการ ป.ป.ช. ฝากเรียนไปยังพรรคการเมือง หรือ ส.ส. พรรคต่าง ๆ ถ้าเห็นว่าประเด็นผมมีข้อไม่เป็นธรรม ควรหยิบยกไปไต่สวนในสภา ขอเชิญมาบอกกับผมได้ จำนวนสมาชิก 125 เสียงเพื่อยื่นเรื่องต่อประธานสภา ไต่สวนคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทั้งคณะ หรือประชาชน 2 หมื่นรายเข้าชื่อถอดถอนในประเด็นการดำเนินการที่มิชอบได้ ผมยินดีให้ความร่วมมือในกระบวนการว่าถูกต้องหรือไม่"
ผู้สื่อข่าวถามว่า คดีนี้มีหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจเกี่ยวข้องกับคดีเครือ ปตท. ลงทุนปลูกปาล์มที่อินโดนีเซีย นายประหยัด ตอบว่า คดีนี้เกิดขึ้นนานมาก ตนไม่เคยยุ่งเลย เคยไปอินโดนีเซียแค่ครั้งเดียวกับนายวิชา มหาคุณ อดีตกรรมการ ป.ป.ช. โดยไปศึกษาดูงาน ไม่เคยรู้จักเจ้าหน้าที่ ปตท. และภรรยาตนไม่เคยไปอินโดนีเซีย ไม่เคยรู้จักเหมือนกัน แต่เห็นว่าเป็นกรรมการผู้จัดการในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน มีการเชื่อมโยง คิดเอาเองทั้งนั้น สิ่งเหล่านี้ไม่มีการพิสูจน์ ต้องพิสูจน์ให้ชัดก่อน
เมื่อถามว่า มูลเหตุที่ทำให้เชื่อว่าเป็นการกลั่นแกล้งกันคืออะไร นายประหยัด กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยเป็นแคนดิเดตชิงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. พร้อมกับนายวรวิทย์ สุขบุญ แต่เมื่อนายวรวิทย์เป็นเลขาฯ ตนได้เป็นรองเลขาฯ และถูกลดบทบาทในการทำงาน บางครั้งต้องรักษาการรองเลขาฯ และสุ่มเสี่ยงถูกประเมินผลงานให้ถูกออกจากราชการ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |