ปล้นคนจนแบบใหม่ นำชื่อเมียผญบ.-กำนันเบิกเงิน/ศธ.สั่งดูแลน้องแบม


เพิ่มเพื่อน    

     รมช.ศธ.สั่งดูแล "น้องแบม" อย่างใกล้ชิด พร้อมปกป้องคุ้มครองนิสิตที่เกี่ยวข้องทั้งหมด  เลขาฯ กกอ.เผย มมส.ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเหตุถูกอาจารย์ทุบหลังแล้ว 12 มี.ค.รู้ผล ขณะที่ ป.ป.ท.พบปล้นคนจนเพิ่มรวม 24 จว. แฉโกงรูปแบบใหม่นำชื่อ ขรก.ท้องถิ่น เมียกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านมาเบิกเงินทั้งที่คุณสมบัติไม่เข้าเกณฑ์ จ่อชง กก.ป.ป.ท.ตั้งอนุฯ ไต่สวนเชือด ด้าน คสช.กำชับเร่งดำเนินการตามที่ ปชช.แจ้งเบาะแสให้เกิดผลโดยเร็วที่สุด 
     เมื่อวันจันทร์ นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) กล่าวถึงกรณี  น.ส.ปณิดา ยศปัญญา หรือน้องแบม นิสิตปี 4 สาขาพัฒนาชุมชน คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) ออกมาเปิดเผยว่าไม่ได้รับความใส่ใจรับฟังข้อมูลจากอาจารย์ กรณีเปิดโปงขบวนการทุจริตเงินช่วยเหลือผู้ยากไร้ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่น พร้อมทั้งถูกสั่งให้กราบขอโทษเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ ถูกทุบหลัง 2 ครั้ง รวมทั้งถูกสั่งให้เปลี่ยนหัวข้อทำวิจัยใหม่ ทำให้จบการศึกษาช้ากว่าเพื่อนๆ ว่า ตนติดตามข่าวของนิสิตคนนี้มาตลอดจากสื่อมวลชน และต้องการทราบรายละเอียดอย่างรอบด้าน จึงได้สั่งการให้นายสุภัทร จำปาทอง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาฯ กกอ.) ประสานกับนายสัมพันธ์ ฤทธิเดช อธิการบดี มมส.เพื่อให้อธิการบดีลงไปดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ทั้งปกป้องคุ้มครองนิสิตที่เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วย
    "เพราะถือว่าเด็กกลุ่มนี้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง เป็นผู้ทำประโยชน์ให้ประเทศชาติที่สมควรได้รับการยกย่อง ส่วนกรณีอาจารย์นั้นขอดูรายละเอียดก่อน เพราะอาจารย์มีหน้าที่ปกป้องลูกศิษย์ หากไม่ทำหน้าที่อาจารย์ที่ถูกต้องก็ต้องถูกลงโทษ ซึ่งอธิการบดี มมส.ได้รับปากแล้วว่าจะดูแลเรื่องนี้เอง และรายงานให้ผมทราบต่อไป" นพ.อุดมกล่าว
    ด้านนายสุภัทรกล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นกับนิสิต มมส.ถือว่าเป็นเรื่องภายในของมหาวิทยาลัยที่จะต้องไปดำเนินการ แต่เท่าที่ตนได้หารือกับนายสัมพันธ์ ทราบว่ามหาวิทยาลัยได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงอยู่ และในวันที่ 12 มีนาคมนี้น่าจะสรุปผลการสอบสวนได้ว่าเป็นอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้เป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ คิดว่าเมื่อได้ข้อสรุปแล้วอธิการบดี มมส.คงจะส่งสำเนาเรื่องมาให้ตน ส่วนกรณีที่เด็กกล่าวหาอาจารย์ว่าได้ทุบหลัง 2 ครั้งและสั่งให้เปลี่ยนหัวข้อทำวิจัยใหม่ ทำให้จบการศึกษาช้ากว่าเพื่อนๆ นั้น ตนตอบไม่ได้ว่าเรื่องนี้เป็นจริงตามที่เด็กกล่าวอ้างหรือไม่ 
    "ทุกอย่างต้องรอผลการสอบสวนก่อน แต่เท่าที่ฟังจากอธิการบดี มมส. บอกว่าอาจารย์ไม่น่าจะกลั่นแกล้งเด็ก และการที่อาจารย์ว่ากล่าวเด็กก็เป็นการว่ากล่าวตักเตือนและหวังดี และอยากให้เด็กระมัดระวังในการพูดให้ดีเพราะเกรงว่าจะผิดกฎหมายได้" นายสุภัทรกล่าว 
    ส่วน ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต ได้โพสต์ชื่นชม น.ส.ปณิดา ยศปัญญา  นิสิตชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ที่ออกมาเผยการโกงเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้ในจังหวัดขอนแก่น  ว่า "น้องแบม นางสาวปณิดา ยศปัญญา นิสิตชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยมหาสารคาม สมควรได้รับรางวัลเหรียญทองคนดีศรีสังคมธรรมาธิปไตย มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยรังสิตยินดีให้ทุนการศึกษาปีสุดท้ายนักศึกษาดีงามอย่างนี้ที่มหาวิทยาลัยรังสิต"
    ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.วันนพ สมจินตนากุล ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบการเบิกจ่ายงบประมาณของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.ได้ตรวจสอบพบการทุจริตศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งรวม 24 จังหวัด โดยพบเพิ่มอีก 10 จังหวัด คือ 1.จ.ยะลา 2.จ.สงขลา 3.จ.นราธิวาส 4.จ.พัทลุง 5.จ.ชุมพร 6.จ.บุรีรัมย์ 7.จ.สุรินทร์ 8.จ.อ่างทอง 9.จ.พิษณุโลก และ 10.จ.ชัยภูมิ ขณะที่ของเดิม 14 จังหวัด คือ 1.จ.ขอนแก่น 2.จ.เชียงใหม่ 3.จ.บึงกาฬ 4.จ.หนองคาย 5.จ.สระบุรี 6.จ.อุดรธานี 7.จ.สุราษฎร์ธานี 8.จ.พระนครศรีอยุธยา 9.จ.น่าน 10.จ.กระบี่ 11.จ.ตราด 12.จ.ตรัง 13.จ.สระแก้ว และ 14.จ.ร้อยเอ็ด
     "พฤติกรรมการทุจริตของศูนย์ฯ 10 จังหวัดที่พบล่าสุดจะเป็นรูปแบบใหม่ คือมีการนำชื่อบรรดาข้าราชการท้องถิ่น อาทิ ภรรยาผู้ใหญ่บ้านหรือกำนันมาเบิกเงินทั้งที่คุณสมบัติไม่เข้าเกณฑ์ เช่นไม่ได้ยากไร้ เจ็บป่วย แต่กลับมีชื่อได้รับเงินดังกล่าวด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบและรวบรวมหลักฐานต่างๆ เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการ ป.ป.ท.พิจารณาตั้งอนุกรรมการไต่สวนต่อไป"
     พ.ต.ท.วันนพกล่าวว่า ก่อนหน้านี้คณะกรรมการ ป.ป.ท.มีมติตั้งอนุกรรมการไต่สวนการทุจริตไปแล้ว 2 จังหวัด คือ จ.ขอนแก่น และ จ.เชียงใหม่ ขณะที่ในวันที่ 6 มีนาคม เวลา 10.00 น.จะมีการประชุมของคณะกรรมการอีกครั้ง โดยมีวาระสำคัญคือ การพิจารณาลงมติตั้งอนุกรรมการไต่สวนการทุจริตของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งใน จ.บึงกาฬ และ จ.หนองคาย ส่วนจังหวัดที่เหลือจะทยอยเสนอขอตั้งอนุกรรมการไต่สวนอย่างต่อเนื่องต่อไป
      ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะ เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุม ผบ.เหล่าทัพถึงการร้องเรียนทุจริตในโครงการรัฐของศูนย์รับเรื่องการทุจริตภาครัฐ คสช.ว่า ได้มีการทยอยส่งเรื่องไปให้ ป.ป.ท.ดำเนินการแล้วตามขั้นตอน เมื่อถามว่าโครงการของรัฐที่เกี่ยวกับงบประมาณช่วยเหลือคนจนรั่วไหลหลายโครงการ พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวว่า ศูนย์ดังกล่าวยังเปิดอยู่หากมีข้อมูลก็ร้องเรียนมาได้
    พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก คสช.กล่าวว่า ศูนย์ดังกล่าวยังเปิดรับเรื่องร้องเรียน โดยศูนย์หลักอยู่ที่สำนักงานเลขานุการกองทัพบก กองบัญชาการกองทัพบก ถ้าประชาชนมีข้อมูลก็สามารถร้องเรียนมาได้ ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าปัญหาส่วนใหญ่เป็นเรื่องโครงการก่อสร้าง การใช้งบประมาณผิดประเภท การจัดซื้อจัดจ้าง เป็นต้น  
      "การประชุมในวันนี้ พล.อ.สสิน ทองภักดี รอง ผบ.ทบ. ในฐานะรองเลขาธิการ คสช.ได้ให้ความสำคัญการแก้ไขปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ได้ดำเนินการในทุกมิติเพื่อขจัดปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน ทั้งนี้ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกส่วนเร่งรัดดำเนินการในกรณีที่ประชาชนแจ้งข้อมูลเบาะแส หรือร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งการตรวจสอบข้อมูล ข้อเท็จจริง การประสานกับหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง ดำเนินการทุกอย่างตรงไปตรงมา ให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุดด้วย" พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าว
    ที่ จ.ขอนแก่น พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.ให้สัมภาษณ์ว่า ขอแนะนำให้ผู้ที่มีรายชื่อปรากฏตามเอกสารของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งฯ ได้ทำการตรวจสอบสิทธิ์และตรวจสอบรายชื่ออีกครั้งกับศูนย์ในพื้นที่ของตนเองเพื่อยืนยันตัวบุคคล เมื่อมีการตรวจสอบข้อมูลแล้วพบว่าตนเองมีรายชื่อในการเบิก-จ่าย ทั้งที่ได้รับเงินหรือไม่ได้รับเงิน หรือได้รับเงินไม่ตรงตามจำนวนที่ปรากฏในเอกสารของการเบิก-จ่าย ขอให้มาทำการแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่อำเภอและตำบลของแต่ละคน เพื่อแสดงออกถึงความโปร่งใสและความถูกต้องในการบริหารจัดการงบประมาณตามโครงการดังกล่าว โดยเฉพาะที่ขอนแก่นที่มีรายชื่อปรากฏในการเบิก-จ่ายตามงบประมาณประจำปี 2560 รวมกว่า 2,000 คน  งบประมาณรวม 6,900,000 บาท ซึ่งบางพื้นที่ไม่ได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว จึงขอให้ผู้ที่มีรายชื่อนั้นทำการแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อนำตัวคนผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งหมดทุกคน
    "จากพฤติกรรมที่ปรากฏนั้น ผู้ที่เกี่ยวข้องจะถูกดำเนินคดี 3 ข้อกล่าวหาหนักประกอบด้วย ม.157  เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งมีอัตราโทษสูงสุดจำคุก 10 ปี, ม.264 ปลอมแปลงเอกสารราชการ และ ม.352 ยักยอกทรัพย์ โดยผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำดังกล่าวหากไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ก็จะถูกจัดให้เป็นผู้ร่วมให้การสนับสนุนซึ่งจะมีความผิดเช่นเดียวกัน ขณะนี้การสืบสวนสอบสวนในประเด็นดังกล่าว ป.ป.ท.มีความคืบหน้าอย่างมาก ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมให้การสนับสนุนการดำเนินงานในด้านต่างๆ โดยเฉพาะการส่งพนักงานสอบสวนหรือชุดสืบสวนเข้าไปร่วมดำเนินงานทันทีที่ ป.ป.ท.ร้องขอ" พล.ต.อ.วิระชัยกล่าว. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"