การ ปรุงแต่ง อารมณ์ความรู้สึกของ เหยื่อ หรือของ กลุ่มเป้าหมาย ใน โลกโซเชียลมีเดีย...ถ้าว่ากันตามข้อมูล ข้อเท็จจริง ที่หนังสารคดีเรื่อง The Great Hack เขาพยายามนำมาอธิบายไว้นั้น ต้องเรียกว่า...มันออกจะซับซ้อน ซ่อนเงื่อน เพื่อนทรยศ ชนิดเล่นเอาพวก โลว์เทค แถมหนักไปทาง ลัดไดท์ อย่าง ท่านขุนน้อย ออกจะ มึนซ์ซ์ซ์ตึ๊บบ์บ์บ์ อยู่พอสมควรเหมือนกัน...

                                                               ---------------------------------------------------

                แต่พอสรุปหลักใหญ่ใจความได้บ้างว่า...ไม่ว่าจะใช้วิธีปล่อยข่าว-สร้างข่าว-ทำคลิป-โพสต์นั่น โพสต์นี่-ติดแฮชแท็ก-ทุ่มโฆษณา-ไปจนถึงเฟคนง เฟคนิวส์ ฯลฯ อะไรก็แล้วแต่ มันคงไม่ได้หวังผลเพียงแค่ต้องการให้ เหยื่อ หรือ กลุ่มเป้าหมาย ที่ได้ศึกษารายละเอียดและเก็บข้อมูลทางพฤติกรรม ทางทัศนคติ เอาไว้แบบเต็มเพียบ ออกไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง หรือลงประชามติ ตามที่ตัวเองต้องการ หรือตามที่ผู้จ้างวานต้องการเท่านั้น แต่ยังสามารถปั่นหัว ปั่นจิ้งหรีด ให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกหรือพฤติกรรมตามที่ตัวเองปรารถนา ชนิดผู้สื่อข่าวสตรีแห่งหนังสือพิมพ์ เดอะ การ์เดียน ที่ร่วมเปิดโปงเรื่องนี้ ถึงกับใช้คำว่าเป็น สงครามจิตวิทยา แบบเดียวกับที่ถูกนำมาใช้กันในทางทหารนั่นเอง...

                                                               --------------------------------------------------------

                ดังนั้น...การที่ผู้บัญชาการทหารบก อย่าง บิ๊กแดง ท่านมองเห็นเป็น สงคราม ในอีกรูปแบบหนึ่ง ก็จึงถูกแล้ว ชอบแล้ว แถมสอดคล้องกับสถานการณ์ในยุคนี้ สมัยนี้ เป็นอย่างยิ่ง ไม่ได้เป็นการ ย้อนยุค ไปสู่ยุคหกตุลง หกตุลา อย่างที่บรรดาคนรุ่นใหม่ หรือพวกที่เรียกตัวเองว่านักประชาธิปไตย พยายามกล่าวหาท่านทำนองนั้น และก็อย่างว่านั่นแหละ...ด้วยเหตุที่ ความมั่นคง ของประเทศไทย สังคมไทย หรือแม้แต่ประชาธิปไตยแบบไทยๆ ตามมาตรฐานของผู้บัญชาการทหารบก หรือของกองทัพไทยเขาเลยก็ว่าได้ ก็คือการหาทางดำรง รักษา เอกลักษณ์ อัตลักษณ์ของความเป็นไทย ที่มี ชาติ-ศาสนา-และพระมหากษัตริย์ เป็นพื้นฐานรองรับเอาไว้นั่นเอง...

                                                                 -----------------------------------------------------

                ด้วยเหตุนี้...เมื่อมีการปั่นหัว ปั่นจิ้งหรีด ภายใน โลกโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะโดยใครก็แล้วแต่ ที่ต้องไป กินปูน กันเอาเอง อันอาจก่อความกระทบกระเทือนให้กับมาตรฐานความมั่นคงในลักษณะที่ว่า อย่างชนิดไม่เคยมีมาก่อน ไม่ว่ายุคไหน สมัยไหน แม้แต่ยุคหกตุลา หลังตุลา ก็ไม่เคยกว้างขวาง รุนแรง เท่ากับยุคนี้ การหยิบเอาความเคลื่อนไหวเหล่านี้ มาตั้งเป็นโจทย์ เป็นเป้าหมายในการรับมือเอาไว้ซะแต่เนิ่นๆ ก็จึงถือเป็นเรื่องถูกแล้ว ชอบแล้ว เหมาะสมแล้ว อย่างที่ว่าเอาไว้แล้วนั่นเอง โดยที่ใครก็ตามที่ไม่ใช่ ตุ๊กแก ก็น่าจะเฉยๆ เข้าไว้ อย่างน้อย...ก็ถือเป็นการเปิดโอกาส ช่วยอำนวยความสะดวก ให้กับผู้ซึ่งมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบด้านความมั่นคง เขาว่าของเขาไปตามสภาพ...

                                                                   ------------------------------------------------

                ยิ่งโดยเฉพาะเมื่อได้เห็นตัวเลข สถิติ ซึ่งเคยเปิดเผยเอาไว้ตั้งแต่ 2-3 ปีที่แล้ว...ว่าขณะจำนวนประชากรไทยใน โลกแห่งความเป็นจริง มีอยู่ประมาณ 69.11 ล้านคนนั้น มีอยู่ถึง 57 ล้านคน ที่ต้องเข้าไปป้วนเปี้ยนอยู่ใน โลกเสมือนจริง หรือโลกอินเทอร์เน็ต โดยจะกลายสภาพเป็น  เหยื่อ หรือเป็น กลุ่มเป้าหมาย ซักกี่รายต่อกี่รายก็มิอาจคาดคำนวณได้ ยิ่งเป็นโลกเสมือนจริงที่เรียกๆ กันว่า เฟซบุ๊ก อันเป็นตัวผ่องถ่ายข้อมูลรายละเอียดทางพฤติกรรมและทัศนคติของผู้คน ให้กับ นักปรุงแต่ง อย่างบริษัท เคมบริดจ์ แอนะลิติกา ตามข้อมูล ข้อเท็จจริง ในหนังสารคดีเรื่อง The Great Hack ด้วยแล้ว ปรากฏว่ากรุงเทพมหานครของเรานี่เอง ที่ถือเป็นแหล่งซึ่งมีจำนวนผู้ใช้บริการ เฟซบุ๊ก มากที่สุดในโลก...

                                                                    -------------------------------------------------

                การปั่นหัว ปั่นจิ้งหรีด ด้วยกรรมวิธีอันสุดแสนจะซับซ้อน ซ่อนเงื่อน เพื่อนทรยศ เหล่านี้...ไม่เพียงแต่สามารถบิดเบือน เบี่ยงเบนกระบวนประชาธิปไตย ในประเทศประชาธิปไตยแม่แบบ อย่างอังกฤษ อเมริกา ชนิดหงายหลังตกเก้าอี้กันไปเป็นแถบๆ เพราะมันคงไม่ได้มีแต่นักปรุงแต่งอย่างบริษัท เคมบริดจ์ แอนะลิติกา ซึ่งพยายามตัดช่องหนีด้วยการล้มละลายตัวเองไปแล้วเท่านั้น เนื่องจากตราบใดที่เครื่องมืออุปกรณ์สื่อสารที่ก้าวหน้า ก้าวไกล ทางเทคโนโลยีแบบสุดๆ มันมีขีดความสามารถพอที่จะทำให้ โลกแห่งความจริง ต้องเลื่อนไหลไปตาม โลกเสมือนจริง อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้ ก่อนหน้านั้น และหลังจากนั้น มันคงมีอีกไม่รู้กี่ต่อกี่บริษัท กี่ต่อกี่ทีมงานนักปรุงแต่ง ที่พยายามแสวงหาประโยชน์ และแสวงหาอำนาจ จากช่องทางที่ว่านี้...

                                                                   -----------------------------------------------------

                เพราะแม้แต่ประเทศที่ไม่ได้เป็นประชาธิปไตยแบบตะวันตก อย่างประเทศจีนเป็นต้น ทุกวันนี้...ไม่ว่าจะเป็นชาวจีนแผ่นดินใหญ่ หรือแม้แต่จีนฮ่องกง ยังอดมึนซ์ซ์ซ์ๆงงง์ง์ง์ๆ ขึ้นมามิได้ ว่าเหตุใดเด็กและเยาวชนประเภท คนรุ่นใหม่ ในฮ่องกง มันถึงได้กลายเป็น ฝรั่ง หรือ รักฝรั่ง แต่ เกลียดจีน เข้าไส้ไปได้ถึงขั้นนี้ ถึงขั้นลุกฮือขึ้นมาเป็นหมื่นๆ แสนๆ เพียงเพื่อเพรียกหาสิ่งที่พวกฝรั่งมันได้สร้าง มายาภาพ ไว้ให้ นั่นก็คือสิ่งที่เรียกว่า เสรีภาพ หรือ ประชาธิปไตยเสรี อาจด้วยเหตุเพราะบรรดาเด็กๆ เหล่านี้ ยังไม่ได้เติบโตสมบูรณ์ในด้านวัยวุฒิ คุณวุฒิ หรือวุฒิภาวะ ยังเป็นผู้ที่ไม่ได้รู้เรื่อง รู้ราว โดยเฉพาะเรื่องราวในอดีตว่าโคตรเหง้าสักหลาด บรรพบุรุษของตัวเอง ถูกพวกฝรั่งกระทำย่ำยีมาขนาดไหน บรรดา กลุ่มเป้าหมาย หรือ เหยื่อ เหล่านี้ ก็เลยลุกขึ้นมาโบกธงชาติอังกฤษ ธงชาติอเมริกา เพื่อประท้วงจีนซะเฉยเลย...

                                                                     ----------------------------------------------------

                ดังนั้น...ถ้าไม่อยากเห็นเด็กไทย กลายสภาพเป็นแบบเดียวกับ กุมารฮ่องกง ไม่อยากเห็น คนรุ่นใหม่ กลายเป็นผู้ที่ทำให้ประเทศไทย สังคมไทย ในวันข้างหน้า ต้อง อนาคตหมด หรือ อนาคตไหม้ แบบฮ่องกงที่กำลังลุกไหม้ไปเป็นแถบๆ ก็คงต้องเปิดโอกาสให้ บิ๊กแดง ท่านว่าไปตามมาตรฐานความมั่นคง ตามแบบฉบับของท่านนั่นแหละ ถึงจะพอเบาใจได้มั่ง...

                                                                      ------------------------------------------------------

                ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Michael Crichton... If you don’t know history, you don’t know anything. You’re a leaf that doesn’t know it’s part of a tree. – ถ้าคุณไม่รู้ประวัติศาสตร์ คุณก็ไม่รู้อะไรเลย คุณคงไม่ต่างไปจากใบไม้ที่ไม่รู้ว่าตัวเองคือส่วนหนึ่งของต้นไม้...

                                                                      -----------------------------------------------------------