"บิ๊กตู่" เรียก "สมคิด-อุตตม-สำนักงบฯ"  ถกมาตรการกระตุ้น ศก. ก่อนชง ครม.เศรษฐกิจศุกร์นี้ คลังเอาแน่! แจกเงินเที่ยว 1.5 พันบาท 10 ล้านคน คาดเงินหมุนเวียนในระบบ 3-4 หมื่นล้านบาท มั่นใจดันจีดีพีโตเกิน 3% กกร.พบนายกฯ ยื่น 6 ข้อเสนอของภาคเอกชน 

    ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม เวลา 13.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้หารือร่วมกันกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี, นายอุตตม สาวนายน รมว.การคลัง และผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่จะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจในวันที่ 16 ส.ค.นี้ โดยใช้เวลาหารือประมาณ 30 นาที โดยนายสมคิดปฏิเสธตอบคำถาม ระบุเพียงว่าให้รอรายละเอียดในการประชุม ครม.เศรษฐกิจในวันที่ 16 ส.ค. ซึ่งนายอุตตมจะเป็นผู้แถลง
    ต่อมาเวลา 15.30 น. ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี เพื่อเสนอข้อเสนอของภาคเอกชนต่อรัฐบาล 6 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1.การเสริมสร้างความร่วมมือภาครัฐและเอกชน ยกระดับการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนในระดับต่างๆ 2.การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันภาคเอกชน 3.การพัฒนาระบบบริหารจัดการภาครัฐ 4.สนับสนุนโครงการที่สำคัญของภาครัฐให้ดำเนินการต่อเนื่อง 5.เสริมสร้างธรรมาภิบาล ความรับผิดชอบต่อสังคม และ 6.ยกระดับทักษะ ความรู้และคุณภาพชีวิตทรัพยากรมนุษย์ ทั้งนี้ กกร.พร้อมสนับสนุนและจะร่วมมือกับรัฐบาลเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ
    โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวขอบคุณภาคเอกชนทั้ง 3 สถาบัน ที่ได้มอบข้อเสนอให้กับรัฐบาล ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางและนโยบายของรัฐบาล รวมถึงยุทธศาสตร์ชาติ นอกจากนี้ ได้ขอความร่วมมือภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ผลิตสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ ราคาไม่แพงจนเกินไป ให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยได้มีโอกาสเข้าถึงสินค้าและบริการเหล่านั้นด้วย เพื่อช่วยกันยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง
    ทางด้านนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เตรียมเสนอแพ็กเกจมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของกระทรวงการคลังในระยะเร่งด่วน ให้ ครม.เศรษฐกิจที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในวันที่ 16 ส.ค.นี้ โดยมุ่งกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ และต้องเพิ่มรอบการหมุนของเม็ดเงิน กระจายไปยังกลุ่มต่างๆ ในวงกว้างที่สุด โดยเฉพาะในกลุ่มฐานราก ขณะเดียวกัน จะเร่งแก้ปัญหาที่กระทบกับชาวบ้านเฉพาะหน้า โดยเฉพาะเรื่องภัยแล้ง และราคาพืชผลการเกษตร ซึ่งมาตรการต่างๆ จะเชื่อมโยงไปกับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะกลางและระยะยาวด้วย ทั้งนี้ ยืนยันว่ามาตรการที่ออกมาจะเพียงพอต่อการรับมือความผันผวนของเศรษฐกิจโลก และพยุงไม่ให้เศรษฐกิจไทยปรับตัวลดลงกว่าที่ควรจะเป็น
    นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า หนึ่งในแนวทางที่อยู่ในแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจที่กระทรวงการคลังจะเสนอต่อ ครม.เศรษฐกิจ คือมาตรการแจกเงินให้ประชาชนเที่ยวคนละ 1,500 บาท ตามที่นายอุตตมระบุไว้ก่อนหน้านี้ แต่ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้จนกว่า ครม.เศรษฐกิจจะเห็นชอบ
    สำหรับมาตรการแจกเงินเที่ยวคนละ 1,500 บาท จะให้คนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ลงทะเบียนรับเงินประมาณ 10 ล้านคน เป็นเงินงบประมาณ 15,000 ล้านบาท แต่คาดว่าทำให้เม็ดเงินหมุนในระบบเศรษฐกิจได้ 30,000-40,000 ล้านบาท ซึ่งหาก ครม. เศรษฐกิจเห็นชอบ ทางกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งทำการประชาสัมพันธ์การแจกและใช้เงินดังกล่าวอีกครั้ง
    รายงานข่าวจากกระทรวงการคลังระบุว่า  กระทรวงการคลังจะปรับประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจปี 2562 (จีดีพี) ใหม่ หลังจากที่ ครม. เห็นชอบแพ็กเกจมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นแล้ว เพื่อให้แน่ใจว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวได้มากกว่า 3% จากเดิมกระทรวงการคลังต้องประกาศประมาณการเศรษฐกิจใหม่ตั้งแต่ปลายเดือน ก.ค.2562 แต่ได้เลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด.