คนขี้จุ๊พึงสังวร! คุก12เดือน'ป้าติ้น'แจ้งเท็จถูกหวย30ล้าน


เพิ่มเพื่อน    

14 ส.ค. 62 - ที่ห้องพิจารณา 716 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีแจ้งความเท็จหวย 30 ล้าน หมายเลขดำ อ.1802/2561 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา  9 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางเรวดี หาแก้ว หรือป้าติ้น อายุ 54 ปี เป็นจำเลยในความผิดฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหายรู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น, แจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด อันเป็นการแกล้งให้บุคคลใดต้องรับโทษทางอาญา 
     
กรณีระหว่างวันที่ 12 เม.ย. - 8 พ.ค. 2560 จำเลยได้บังอาจแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ เกี่ยวกับความผิดอาญาแก่ ร.ต.อ.คะนอง โสมทอง เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาประจำ สภ.ดงเย็น จ.อุดรธานี ว่า เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2560 จำเลยได้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลร่วมกับนางจรูญ เฮก อายุ 63 ปี ที่วัดศิริสุทโธ (คำชะโนด) อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี สลากกินแบ่งรัฐบาลหมายเลข 392785 จำนวน 5 ใบ เป็นเงิน 500 บาท โดยออกเงินกับนางจรูญกันคนละ 250 บาท ตกลงกันว่าเมื่อถูกรางวัลจะแบ่งคนละครึ่ง โดยมอบสลากกินแบ่งรัฐบาลให้ นางจรูญ เฮก ผู้เสียหาย เก็บรักษาไว้

ต่อมาวันที่ 1 เม.ย. 2560 สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ประกาศรางวัลปรากฏว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลหมายเลข 392785 ที่ตนและนางจรูญร่วมกันซื้อไว้ถูกรางวัลที่ 1 เป็นเงินทั้งสิ้น 30 ล้านบาท เมื่อทวงถามนางจรูญ ได้บ่ายเบี่ยงตลอดมา จึงมาแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับนางจรูญ ข้อหายักยอกทรัพย์ของผู้อื่นจนกว่าคดีถึงที่สุดความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 ทั้งที่ความจริงแล้ว การแจ้งข้อความดังกล่าวของจำเลยนั้นเป็นความเท็จทั้งสิ้น ความจริงจำเลยรู้อยู่แล้วว่าจำเลยมิได้ร่วมกับนางจรูญ ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล หมายเลข 392785 แต่อย่างใด เพราะว่าจำเลยกับนางจรูญ ผู้เสียหาย มิได้ถูกรางวัลที่ 1 ประจำงวดวันที่ 1 เม.ย. 2560 แต่อย่างใดเลย การที่จำเลยได้นำความเท็จดังกล่าวแจ้งนั้น ทำให้นางจรูญได้รับความเสียหาย โดยเป็นการเพื่อจะแกล้งให้ต้องรับโทษทางอาญา ข้อหายักยอกทรัพย์ อันเป็นการแจ้งความเท็จว่านางจรูญ ได้กระทำความผิดอาญา 
         
เหตุเกิดที่ ต.ดงเย็น อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ขอให้ลงโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137,173, 174 จำเลยให้การปฏิเสธ

วันนี้ พนักงานสอบสวน สภ.ดงเย็น อ.บ้านดุง ผู้เสียหายที่ 1 และ นางจรูญ หรือป้าติ๋ว ผู้เสียหายที่ 2  เดินทางมาฟังคำพิพากษา พร้อมกับนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม 
         
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์และจำเลยที่นำสืบหักล้างแล้ว มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ ศาลเห็นว่า ข้อเท็จจริงได้ความจากพนักงานสอบสวน สภ.ดงเย็น พยานโจทก์ซึ่งให้การว่า ภายหลังรับแจ้งจากจำเลยแล้ว พนักงานสอบสวนได้ไปตรวจสอบการรับรางวัลของผู้ถูกสลากงวดดังกล่าวพบว่าหมายเลขชุด ทั้งหมด 5 ชุด ที่จำเลยอ้างว่าซื้อไว้นั้น ก็มีผู้มารับเงินรางวัลไปแล้วโดยหมายเลขชุดดังกล่าวที่จำเลยอ้าง ไม่ได้รวมอยู่ในชุดเดียวกันตามที่จำเลยอ้าง อีกทั้งลายมือชื่อที่จำเลยอ้างว่าลงไว้หลังสลากนั้น เมื่อตรวจสอบแล้วไม่พบการแก้ไขหรือร่องรอยการขูดลบลายชื่อแต่อย่างใด เชื่อว่าพยานไม่เคยรู้จักกับจำเลยและผู้เสียหายที่ 2 มาก่อน เชื่อว่าเบิกความไปตามความจริง พยานหลักฐานของจำเลยมีน้ำหนักน้อย ไม่อาจหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้อีกทั้งผู้เสียหายที่ 2 ไม่ได้ซื้อเลขรางวัลที่ 1 ไม่ได้รับรางวัล 30 ล้าน ตามที่จำเลยไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ผู้เสียหายที่ 1 แต่อย่างใด การกระทำของจำเลยจึงเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง ต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.ดงเย็น มีคำสั่งไม่สมควรฟ้องนางจรูญ  ผู้เสียหายที่ 2  แล้ว         
     
พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137, 173 ประกอบมาตรา 174 วรรคสอง เป็นการกระทำความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานแจ้ง แจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่า ได้มีการกระทำความผิด เพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องรับโทษหรือรับโทษหนักขึ้น ลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี 6 เดือน คำให้การของจำเลยมีประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้างลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยไว้เป็นเวลา 12 เดือน โดยไม่รอลงอาญา

ต่อมาทนายความของนางเรวดี ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 1 แสนบาทขอปล่อยชั่วคราวไประหว่างอุทธรณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีที่นางเรวดี หรือป้าติ้น และนางวิไลพร รัตนติสร้อย หรือป้าเล็ก อายุ 59 ปี ตกเป็นจำเลยในข้อหาแจ้งความเท็จลักษณะเดียวกัน กรณีเมื่อปี 2559 นางเรวดีและนางวิไลพร ได้เข้าแจ้งความตำรวจ สน.ประเวศ ว่าถูกนางสุดารัตน์ น้อยนิตย์ หรือป้าดา ผู้เสียหายซึ่งเป็นเพื่อนสนิท ยักยอกสลากกินแบ่งรัฐบาลหมายเลข 066720 จำนวน 5 คู่ ซึ่งถูกรางวัลที่ 1 ประจำงวดวันที่ 1 เม.ย. 2559 มูลค่า 30 ล้านบาท ศาลอาญามีนบุรีได้นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 30 ก.ย.นี้.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"