ในสภาผู้แทนราษฎร การแบ่งฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายค้านมีความชัดเจน และหากมีการประชุมร่วมระหว่าง ส.ส.กับ ส.ว.ก็ยังแยกให้เห็นเป็นปรากฏว่า ส.ว.อยู่ในฟากฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล เนื่องจากมีที่มาจาก คสช.ทั้งหมด 250 คน

      ช่วงนี้ ส.ส.และ ส.ว.มีการสมัครเป็นสมาชิกกลุ่มมิตรภาพรัฐสภาไทยกับรัฐสภาประเทศต่างๆ และทยอยประชุมกันต่อเนื่อง ซึ่งต้องมีการเลือกกรรมการบริหารที่มีจำนวน 9 คนต่อหนึ่งกลุ่ม โดยมีหลักเกณฑ์ว่าถ้ากลุ่มใดมี ส.ส.เป็นประธาน รองประธานก็ต้องเป็น ส.ว.สลับกันไป

      อย่างไรก็ตาม ข่าวปรากฏว่ามีการช่วงชิงเก้าอี้ประธานกันอย่างเข้มข้น โดย ส.ส.บางส่วนเห็นว่า ประธานควรต้องเป็น ส.ส.เท่านั้น เพราะมาจากการเลือกตั้งทำให้มีภาษีดีกว่า เนื่องจากพี่น้องประชาชนให้อำนาจมาทำหน้าที่แทน จึงดูเหมือนว่าหลายกลุ่มสู้กันดุเดือดถึงขั้นบล็อกโหวตกัน

      อย่างไรก็ตาม แม้ในทางการเมืองจะว่ากันไปตามบทบาทการแย่งชิงอำนาจ แต่ก็เกิดเหตุการณ์ที่น่าชื่นชมและเป็นความงดงามในการประชุมของกลุ่มมิตรภาพรัฐสภาไทย-สหราชอาณาจักร

      เมื่อมีการเสนอชื่อ ส.ว.กิตติ วะสีนนท์ แข่งกับ อดีตโฆษกเทพ-ส.ส.ศุภชัย ใจสมุทร จากพรรคภูมิใจไทย หรือพรรคปฏิบัติการภายใต้การนำของ "นายอนุทิน ชาญวีรกูล" หัวหน้าพรรคในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข

      หากโหวตกันจำนวนสมาชิกของ ส.ส.มีมากกว่า อดีตโฆษกเทพย่อมชนะใสๆ แต่ด้วยสปิริตทำให้เจ้าตัวขอถอนตัว โดยเห็นว่า ส.ว.กิตติมีความเหมาะสมกว่า เนื่องจากอดีตเคยเป็นเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำสหราชอาณาจักรมาก่อน

      ความงดงามของมิตรภาพในรัฐสภาไทยจึงบังเกิดขึ้นในบัดดล.

ช่างสงสัย