ที่จริงต้องขอบคุณฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ที่ให้ความสำคัญกับการถวายสัตย์ปฏิญาณของคณะรัฐมนตรีก่อนเข้ารับหน้าที่

                การที่พรรคเพื่อไทยให้คำแนะนำ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าลาออก หรือไม่ก็ขอพระราชทานอภัยโทษ ก็ยิ่งเป็นความคิดที่น่านับถือ

                เพราะสะท้อนให้เห็นถึงมาตรฐานทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยว่า สูงลิ่ว!

                แต่....แท้จริงแล้วเพื่อไทย และพรรคแตกแบงก์พันทั้งหลายคิดอะไรอยู่

                ให้ความสำคัญกับ "ถ้อยคำ" ในการถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์แค่ไหน หรือแค่หยิบยกมาให้เป็นประเด็นทางการเมืองเท่านั้น

                การกล่าวคำถวายสัตย์ไม่ครบประโยค มีผลให้ต้องเปลี่ยนรัฐบาลหรือไม่

                ไม่ครบแล้วความผิดคืออะไร

                เป็นนายกฯ โมฆะอย่างนั้นหรือ

                เรื่องนี้มีทางเดียวต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

                ผลเป็นอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น

                แต่ที่ไม่ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนั่นคือ เมื่อคณะรัฐมนตรี โดยการนำของนายกรัฐมนตรี กล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณแล้ว มีรัฐบาลไหนโดยเฉพาะรัฐบาลระบอบทักษิณสามารถปฏิบัติได้ตามคำปฏิญาณบ้าง

                รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ถวายสัตย์ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ 

                มาตรา ๒๐๕ ก่อนเข้ารับหน้าที่รัฐมนตรีต้องถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ด้วยถ้อยคําดังต่อไปนี้

                 "ข้าพระพุทธเจ้า (ชื่อผู้ปฏิญาณ) ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่าข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ"

                ส่วนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถวายสัตย์ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๑๗๕ ก่อนเข้ารับหน้าที่ รัฐมนตรีต้องถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ ด้วยถ้อยคำ ดังต่อไปนี้ "ข้าพระพุทธเจ้า (ชื่อผู้ปฏิญาณ) ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดี ต่อพระมหากษัตริย์ และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน  ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ" 

                จะเห็นว่าข้อใหญ่ใจความของคำถวายสัตย์นั้นเหมือนกันทุกรัฐบาล นั่นคือ "ความซื่อสัตย์สุจริต"

                "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" ต่างถวายสัตย์ต่อในหลวงรัชกาลที่ ๙ ว่า จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต

                แล้วทั้งคู่ บริหารประเทศด้วยความซื่อสัตย์สุจริตหรือไม่

                ทั้งพี่ทั้งน้องต้องเผ่นหนีไปเป็นประเทศบ้านพี่เมืองน้อง มอนเตเนโกร และเซอร์เบีย

                แผ่นดินตัวเองอยู่ไม่ได้ เพราะถูกศาลตัดสินว่าโกงต้องจำคุกติดตะราง                   

                หากใช้มาตรฐานของพรรคเพื่อไทยในวันนี้ ทั้ง ทักษิณและยิ่งลักษณ์ ควรถูกลงโทษอย่างหนัก

                และต้องขอบคุณ "เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส" ที่ชี้ให้เห็นถึงโทษของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าเปรียบได้กับ "พันท้ายนรสิงห์" แม้ว่าจะเป็นคนโปรดของพระมหากษัตริย์ แต่เมื่อได้ทำความผิด และแม้เป็นเพียงไม่ได้ตั้งใจก็ตาม แต่เพื่อไม่ให้เสียพระเกียรติพระมหากษัตริย์ และกฎจารีตประเพณี จึงยอมรับโทษประหาร

                แล้วคนที่ถวายสัตย์เฉพาะพระพักตร์พระมหากษัตริย์ว่าจะซื่อสัตย์สุจริต แต่กลับผิดต่อคำถวายสัตย์ปฏิญาณ เข้าไปกอบโกย คดโกงภายหลัง และเป็นการตั้งใจฉ้อราษฎร์บังหลวง

                มิต้องประหารเจ็ดชั่วโคตรหรือ

                พรรคเพื่อไทยเคยคิดจะแสดงความรับผิดชอบอดีตของตนเองบ้างหรือไม่

                หรือถวายสัตย์เป็นเพียงทางผ่านเพื่อเข้าไปโกงเท่านั้น.