"ชวน" ชี้เข้าใจผิด ส.ส.รัฐบาลโหวตแพ้ฝ่ายค้าน โยนเสียงปริ่มน้ำเรื่องของฝ่ายบริหาร "ชินวรณ์" กระทุ้ง พปชร.เร่งจูน 5 พรรคเล็ก หวั่นกระทบลงมติ กม.สำคัญ "ผู้กองมนัส" การันตีเคลียร์ได้ 254เสียงอยู่ครบ "พิเชษฐ" แย้ม 10 พรรคได้โควตา ขรก.การเมือง-ปธ.กมธ. เลิกน้อยใจแล้ว ด้าน "ลูกบุญทรง" นั่งผู้ช่วยโฆษก รบ.
หลังจากเกิดกรณีเสียง ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายรัฐบาลแพ้โหวต ส.ส.ฝ่ายค้านในสภา จากเหตุการณ์การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา วาระพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ซึ่งมีทั้งสิ้น 192 ข้อ โดยข้อบังคับการประชุมข้อที่ 9 เกี่ยวกับการทำหน้าที่ของประธานสภาฯ จะต้องวางตนเป็นกลาง ซึ่ง กมธ.วิสามัญฯ เห็นควรให้เพิ่มข้อความ "ประธานสภาฯ เป็นกลางในการปฏิบัติหน้าที่" ไว้ในข้อบังคับด้วย โดยสมาชิกฝ่ายค้านอภิปรายเห็นด้วย ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลเห็นค้าน เนื่องจากรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัดเจนอยู่แล้ว ผลปรากฏว่าผลการลงมติ ส.ส.ส่วนใหญ่เห็นชอบกับที่ กมธ.แก้ไข ด้วยเสียง 205 ต่อ 204 งดออกเสียง 3 หรือหมายความว่าเสียงของฝ่ายรัฐบาลแพ้ฝ่ายค้านไป 1 คะแนนนั้น ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ถึงปัญหาเสียงปริ่มน้ำของรัฐบาล ภายหลังนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ในฐานะตัวแทน 5 พรรคเล็กประกาศทบทวนการร่วมรัฐบาล
เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีพรรคเล็กจะถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล ส่งผลให้รัฐบาลมีเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งอาจกระทบการทำงานในสภาว่า เป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร จึงไม่ขอวิจารณ์ เพราะไม่ทราบดีเท่าฝ่ายบริหาร ดังนั้นจะกระทบกับงานในสภาหรือไม่ ถือเป็นเรื่องในอนาคต
ส่วนการพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมสภาฯ ซึ่ง ส.ส.รัฐบาลลงมติแพ้ในที่ประชุมสภานั้น เป็นความเข้าใจผิด เพราะเป็นเรื่องของคณะกรรมาธิการที่ชนะการลงมติไป 1 คะแนน ซึ่งรู้สึกแปลกใจเช่นกันว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ ทั้งที่โดยปกติฝ่ายกรรมาธิการฯ จะชนะด้วยเสียงท่วมท้น แต่ตนไม่ได้ให้นับคะแนนใหม่ เพราะเห็นว่าเรื่องความเป็นกลางของประธานที่ไม่ได้บรรจุไว้นั้น ได้มีกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญแล้ว ว่าประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา ต้องวางตัวเป็นกลาง หากไม่วางตัวเป็นกลางถือว่ากระทำขัดรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับการประชุมสภาไม่ได้ใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ทั้งนี้ ข้อบังคับที่ดีกับคนที่ปฏิบัติดีจะต้องสอดคล้องกัน ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหา ซึ่งตนเคยประสบมาแล้ว แต่โดยปกติ ประธานสภาฯ ส่วนใหญ่จะวางตัวเป็นกลาง เพราะเป็นตำแหน่งที่มีเกียรติ แต่ต้องระวัง หากไม่ป้องกันไว้บ้างจะมีปัญหา
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า การที่ฝ่ายรัฐบาลงมติแพ้ฝ่ายค้าน เป็นประเด็นที่วิปรัฐบาลต้องประสานงานและทำความเข้าใจในรายละเอียดแต่ละประเด็น รวมถึงร่างกฎหมายก่อนจะเข้าสู่การประชุมสภาให้ดีกว่านี้ ซึ่งการพิจารณาประเด็นต่างๆ รวมถึงร่างกฎหมายสำคัญ หากชนะหรือแพ้เพียง 1-2 เสียง เป็นสิ่งน่ากังวลสำหรับรัฐบาลที่มีเสียงปริ่มน้ำ และอาจมีปัญหาได้ในอนาคต
“ในสัปดาห์หน้า การประชุมวิปรัฐบาลต้องคุยเรื่องการบริหารจัดการ และข้อตกลงในการพิจารณาประเด็นและร่างกฎหมายที่จะเข้าสู่ที่ประชุมสภา ไม่ใช่คุยแค่ว่าจะให้รับหลักการเท่านั้น เพราะในบางประเด็นมีรายละเอียดที่ต้องลงมติเพื่อตัดสิน ดังนั้นสิ่งที่ผมเคยเสนอและเตรียมจะเสนออีกครั้ง คือ การพิจารณาแต่ละเรื่องต้องมีธงที่ชัดเจนว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ไม่ใช่ปล่อยให้เรื่องเข้าสู่การพิจารณาไปแล้วถึงสื่อสารกันภายหลัง หรือใช้การตัดสินใจในห้องประชุมสภา ต้องบริหารจัดการเสียงให้มีความเป็นเอกภาพ” นายชินวรณ์ระบุ
ส่วนกรณีที่ 5 ส.ส.พรรคเล็กประกาศถอนตัวจากเป็น ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล และขอเป็นฝ่ายค้านอิสระนั้น ยอมรับว่าเป็นปัญหาที่สอดแทรกเข้ามา ซึ่งพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล คือ พรรคพลังประชารัฐ ต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจน เนื่องจากเสียงในสภาปริ่มน้ำมาก
การันตี 254 เสียงอยู่ครบ
ทางด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ภาคเหนือ พรรคพลังประชารัฐ ยืนยันว่า พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคอยู่ครบ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่โหวตแพ้นั้นไม่ใช่วาระสำคัญ เหตุเพราะเมื่อวันที่ 8 ส.ค. การประชุมสภาเลิกค่ำ ส.ส.ต้องรีบกลับไปร่วมงานวันกำนันผู้ใหญ่บ้านในวันที่ 10 ส.ค. อีกทั้งขณะนี้คือสภาใหม่ บางครั้ง ส.ส.จะไปนั่งอยู่ห้องใดมุมใด สภากว้าง ทำให้กลับมาโหวตไม่ทัน
“ผมขอยืนยันว่าพรรคเล็กพรรคน้อยทั้งหมด 16 ชีวิตที่ผมรับผิดชอบอยู่ ผมแก้ปัญหาได้ ไม่มีใครแยกตัวไปเป็นฝ่ายค้านอิสระอย่างแน่นอน อีกทั้งเมื่อวานที่ผ่านมา (8 ส.ค.) ผมได้ไปร่วมงานกับท่านนายกรัฐมนตรี กลับมาก็เจอน้องมงคลกิตติ์แถลงข่าว ซึ่งเหตุที่แถลงข่าวนั้นเกิดจากความน้อยเนื้อต่ำใจที่เราไม่ได้เหลียวแลพรรคเล็กพรรคน้อยเลย ซึ่งในเรื่องนี้ผมไม่ปฎิเสธ เพราะเมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลแล้วนั้น ยังคงต้องมีอะไรทำอีกเยอะมาก โดยเฉพาะกับการทำงานเพื่อประชาชน อีกทั้งพรรคได้มอบหมายให้ประธานวิปฝ่ายรัฐบาลนั้นกำกับควบคุมดูแล ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ขอย้ำชัดๆ เรียนตรงๆ ว่า 254 อยู่ครบ มีแต่จะเพิ่มกับเพิ่ม ดังนั้นอย่างห่วงว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ได้เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย หรือเสียงปริ่มน้ำเด็ดขาด" ร.อ.ธรรมนัสระบุ
นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า มั่นใจว่า ร.อ.ธรรมนัสสามารถจัดการเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน ขอให้ใจเย็นๆ วันนี้อยากให้ทุกฝ่ายมาช่วยกันทำงานให้กับประชาชนดีกว่า ที่ผ่านมาหัวหน้าพรรคเล็กให้การสนับสนุนรัฐบาลอย่างเต็มที่ หากทุกพรรคเห็นแก่ประโยชน์ของพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ ทุกอย่างก็จะไม่มีปัญหา โดยส่วนตัวแล้วรู้จักนายมงคลกิตติ์มานาน เป็นคนหนุ่มไฟแรง มีน้ำใจ สมัยก่อนเป็นคนน่ารัก ให้เกียรติคนอื่นเสมอ หากทำความเข้าใจ ทุกอย่างคงจะไม่มีปัญหา
ทั้งนี้ ในส่วนของนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐนั้น ที่ผ่านมาทั้งคู่ให้ความสำคัญและให้เกียรติพรรคร่วมทุกพรรคมาโดยตลอด แต่การทำงานเป็นระบบของพรรคการเมืองที่มีคณะกรรมการบริหารพรรค
ขณะที่นายมงคลกิตติ์กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า แกนนำของพรรคพลังประชารัฐคือ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และ ร.อ.ธรรมนัส ประสานแก้ปัญหาเรื่อง 5 พรรคเล็กจะออกจากรัฐบาลว่า เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ร.อ.ธรรมนัสโทร.มาหาตนเองหลังเลิกประชุมสภา ให้กลับมาพูดคุยกัน แต่ตนเองติดธุระจึงไม่ได้ร่วมประชุม ยืนยันใครจะได้ตำแหน่งก็ได้ไป พร้อมตรวจสอบรัฐบาลเหมือนเดิม แต่ไม่เรียกว่าฝ่ายค้านอิสระ แต่เป็น ส.ส.ฝ่ายประชาชน ลงมติแบบเอกเทศตามความเห็นตัวเอง นโยบายใดคิดว่าไม่ดีก็ท้วงติง หากท้วงติงและไม่แก้ไขก็จะดำเนินคดี
แจกเค้กเคลียร์พรรคเล็ก
นายพิเชษฐ สถิรชวาล หัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย ซึ่งเป็น 1 ใน 5 พรรคเล็กที่จะออกจากการร่วมรัฐบาล กล่าวว่า ทั้งนายสมศักดิ์และ ร.อ.ธรรมนัสมาพูดคุยและรับฟังปัญหาแล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากการประสานงานที่ผิดพลาด เป็นการส่งสัญญาณ ไม่ใช่การยื่นคำขาดออกจากรัฐบาล ยืนยันกลับมาร่วมกับรัฐบาลแล้ว ทั้งนี้ ได้รับทราบว่าทั้ง 10 พรรคจะได้รับโควตาในการขับเคลื่อนนโยบายของตัวเอง ทั้งประธานคณะกรรมาธิการและข้าราชการการเมือง
นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวว่า พรรคพลังธรรมใหม่ไม่ได้ไปรวมกับ 5 พรรคเล็กที่จะถอนตัวออกจากรัฐบาล แต่ 10 พรรคร่วมนั้น เรายังเหมือนเดิม ไม่ได้ขัดแย้งกันหรือแบ่งกลุ่มกัน เพียงแต่ท่าทีที่แสดงออกต่อสถานการณ์อาจแตกต่างกัน สำหรับปัญหาที่จุดประเด็นไปสู่การถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาลของ 5 พรรคเล็กนั้น เนื่องจากที่ผ่านมากลุ่ม 10 พรรคร่วมรัฐบาลได้เสียสละมาโดยตลอด ตั้งแต่การประกาศตัวเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล เมื่อเข้าสู่กระบวนการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี กลุ่ม 10 พรรคร่วมรัฐบาลกลับไม่ได้ตำแหน่งรัฐมนตรีและรมช.เลยแม้แต่กระทรวงเดียว
กลุ่มสิบก็ควรจะได้มีตำแหน่งทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งกรรมาธิการ ที่ปรึกษา เลขานุการ หรือแม้แต่ผู้ช่วยรัฐมนตรี แต่ตำแหน่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นไปตามที่มีการตกลงกันไว้ จนนำมาสู่การขอถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลของ 5 พรรคเล็กที่ไม่ได้รับตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งพรรคพลังธรรมใหม่ ก็ไม่ได้ตำแหน่งดังกล่าวเช่นกัน แต่เราไม่มีท่าทีที่น้อยใจอะไรมาก ก็บอกว่าให้ใจเย็นๆ และแจ้งรัฐบาลให้แก้ปัญหา แต่ก็มีบางคนน้อยใจก็เลยเกิดปัญหาขึ้นมา” หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่กล่าว
อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าภายในวันนี้ปัญหาการขอแยกทางจากรัฐบาลของพรรคเล็กจะจบลงด้วยดี ทุกอย่างจะกลับคืนสู่ปกติ แม้แก้วร้าวไปแล้วก็หลอมใหม่ได้ตามที่ ร.อ.ธรรมนัสบอก แต่ขอย้ำว่าพรรคพลังธรรมใหม่แม้เป็นร่วมรัฐบาล แต่พรรคยังยืนยันที่จะเป็นฝ่ายตรวจสอบรัฐบาล ถ้าหากพบว่านโยบายของรัฐบาลในกรณีใดส่อไปในทางทุจริตคอร์รัปชัน พรรคจะเสนอให้มีการแก้ไขให้ถูกต้อง แต่หากยังไม่แก้ไข พรรคอาจจะสละสิทธิ์ไม่ยกมือสนับสนุนรัฐบาล เพราะเราถือว่าเราเป็น ส.ส.ของประชาชน หากรัฐบาลทำในสิ่งที่ถูกต้อง เราก็พร้อมสนับสนุน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคพลังประชารัฐจะไม่ส่งใครไปทำหน้าที่รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสัดส่วนของพรรค แต่จะใช้วิธีตั้งผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีขึ้นมาอีก 2 ตำแหน่งแทน คือ นายเดชนัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค บุตรชายนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ และ น.ส.ทิพานันท์ ศิริชนะ อดีตผู้สมัครส.ส.กทม. เข้ามาทำหน้าที่ดังกล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |