5 มี.ค.61- นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Chuchart Srisaeng ระบุว่า .....การพิพาทกันระหว่างครูกับนายตำรวจที่เกษียณแล้วว่า ล็อตเตอรี่ที่ถูกรางวัลที่ 1 เงินรางวัล 30,000,000 บาท เป็นของใคร สื่อมวลชนไทยติดตามเสนอข่าวกันมาอย่างละเอียดถี่ถ้วนทุกแง่ทุกมุมมาเป็นเวลา 3 เดือนเศษแล้ว ทั้งๆ ที่ไม่ว่าล็อตเตอรี่ดังกล่าวเป็นของใครก็ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรแก่สังคมส่วนรวมเลย

.....ข่าวนางสาวปณิตา ยศปัญญา นิสิตมหาลัยมหาสารคาม ไปพบการทุจริตโกงเงินช่วยเหลือประชาชนผู้อยากไร้ในหน่วยงานราชการสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่เธอไปฝึกงาน จึงได้นำมาเปิดเผย กลับถูกอาจารย์ของมหาวิทยาลัยดังกล่าวเรียกมาตำหนิว่าเป็นทำให้มหาวิทยาลัยได้รับความเสียหายและนำเธอไปขอกราบขอโทษเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานแห่งนั้น

.....แต่นางสาวปณิตาไม่ยอมหยุดตามที่อาจารย์สั่ง โดยได้ร้องเรียนไปที่เลขาธิการ คสช.และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ผลการสอบสวนปรากฎว่า มีการทุจริตจริงและไม่เฉพาะที่ศูนย์ขอนแก่นซึ่งนางสาวปาณิตาไปฝึกงานเท่านั้น แต่มีการทุจริตกันหลายแห่งเท่าตรวจพบในขณะนี้นับสิบศูนย์เงินที่ทุจริตเป็นร้อยล้านบาท มีผลให้ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ถูกย้ายไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

.....ข่าวการกระทำของนางสาวปาณิตาและการทุจริตดังกล่าว เป็นเรื่องผลประโยชน์ของประเทศชาติโดยแท้ แต่สื่อมวลชนไทยเสนอข่าวและชาวโซเชียลนำมากล่าวถึงกันน้อยมาก ทั้งๆ ที่ควรนำมาเสนอข่าวกันอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยป้องกันการทุจริตของข้าราชการประจำที่ร้ายแรงไม่น้อยกว่าข้าราชการการเมือง 

.....สำหรับอาจารย์ที่ตำหนินางสาวปณิตาและนำเธอไปขอโทษเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่มีการทุจริต รวมทั้งได้ทุบหลังนางสาวปาณิตาด้วย ควรที่จะต้องนำมาเปิดเผยให้สังคมได้รับรู้ว่าคือใครที่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยแต่กลับช่วยปกป้องเจ้าหน้าที่ที่ทุจริต แต่ยังไม่เห็นมีผู้ใดกล่าวถึงโดยเฉพาะอาจารย์มหาวิทยาลัยทั้งหลายที่ต่างก็เงียบกริบเหมือนเห็นด้วยกับการกระทำของอาจารย์คนดังกล่าว

.....กรณีเสือดำถูกยิงตายมีการเสนอข่าวกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะชาวโซเชียลทั้งหลายต่างพากันออกมาต่อต้านกันอย่างเต็มที่ มีการให้ความเห็นในข้อกฎหมายผิดๆ มีการแชร์สิ่งที่ผิดๆ ต่อกันไปโดยไม่ต้องพิจารณาว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ แล้วก็ให้ความเห็นในเรื่องที่ผิดนั้นโดยการด่าเจ้าพนักงานตำรวจ ทั้งๆ ที่เรื่องที่นำมาเหตุเป็นในการด่าเป็นการเข้าใจผิด

.....การฆ่าสัตว์ไม่ว่าสัตว์เล็กหรือใหญ่ จะเป็นสัตว์เลี้ยงหรือสัตว์ป่า และจะเป็นสัตว์ป่าสงวนหรือไม่ ก็ไม่ควรให้เกิดขึ้น เพราะสัตว์ก็คือชีวิตๆ หนึ่งที่ไม่ต่างกับชีวิตของเรา กรณีการฆ่าเสือดำเห็นด้วยว่าผู้ที่กระทำสมควรที่ต้องถูกประนามและต้องถูกลงโทษตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

.....แต่การที่สื่อมวลชนและชาวโซเชียลทั้งหลายพากันมุ่งเสนอข่าว กรณีล็อตเตอรี่ 30 ล้านบาท และกรณีเสือดำถูกยิงตายกันอย่างเอาเป็นเอาตาย และกลับปล่อยปละละเลยเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่นเช่นนี้ ถ้าการทุจริตคอร์รัปชั่นในประเทศไทยยังมีอยู่มากมายต่อไป ก็คงเป็นเพราะสังคมไทยโดยรวมเห็นเรื่องอื่นสำคัญกว่าเรื่องนี้