9ส.ค.62-กรณี มีผู้โพสต์ภาพแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแสดงโขน ในงานเทศกาลไทย ในประเทศเนเธอแลนด์   มีการวิจารณ์ในวงการการแสดงนาฏศิลป์ไทยถึง ความไม่เหมาะสมของชุดการแสดง ตัวละคร และเนื้อเรื่อง  โดยขอให้กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เร่งตรวจสอบเรื่องดังกล่าว นั้น  เมื่อวันที่  9 ส.ค. นายสุดจิตต์ พันธุ์สังข์ ผู้ได้รับรางวัล  ศิลปินคึกฤทธิ์  และผู้เชี่ยวชาญนาฏศิลป์ไทย กรมศิลปากร   กล่าวว่า    ในชีวิตที่อยู่กับการแสดงนาฏศิลป์โขนมาตลอด ภาพที่เห็นถือเป็นความอัปยศ แย่ที่สุดที่เกิดขึ้น ในการแสดงโขนของประเทศไทย ทั้งที่เพิ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมวลมนุษยชาติ   ของยูเนสโก ซึ่งตน ในฐานะข้าราชการบำนาญด้านนาฏศิลป์ไทย กรมศิลปากร ได้มีส่วนร่วมผลักดัน ร่วมกับ ครูผู้ทรงคุณวุฒินาฏศิลป์ อย่างเหน็ดเหนื่อยกว่าจะได้รับการรับรอง  โดยหวังที่จะอนุรักษ์ รักษา และสืบทอดมรดกของแผ่นดินไว้ให้ดีที่สุด  ดังนั้น พี่น้องนาฏศิลป์ จึงมีความรู้สึกสะเทือนใจ เสียใจมาก ที่เห็นนักแสดงของสำนักการสังคีต โดย หน่วยงานภาครัฐ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการแสดงของ นำการแสดงโขนไปโชว์ต่างประเทศ ที่ไร้ประสิทธิภาพ ซึ่งหากเล่นไม่ได้ ก็ควรหาทางออกด้วยการจัดหาชุดการแสดงใหม่ไปแทน

นายสุดจิตร กล่าวต่อว่า ตนทราบดีว่าประเทศเนเธอแลนด์  รู้จักการแสดงโขนของประเทศไทยเป็นอย่างดี เพราะได้มีการนำไปจัดแสดงหลายครั้ง บางคนรู้เรื่องโขนของไทยดีกว่าคนไทยเสียอีก อีกทั้งในโรงละครของประเทศเนเธอแลนด์ ก็ได้มีการนำหนังใหญ่ไปติดไว้โชว์ตามฝาผนังด้วย ดังนั้น ในครั้งนี้ ตนต้องออกมาตำหนิ เพราะถือว่า  มีความผิดมหันต์ ปัญหา เกิดขึ้นจากกรมศิลปากรเอง ซึ่งเราต้องกลับมามองว่า  แต่เท่าที่ทราบ  เรื่องนี้ มีเพียงอธิบดีกรมศิลปากร เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องไปว่ากล่าวตักเตือนเท่านั้น  ทั้งที่มีการทำงานแบบหยาบๆ ใช้เงินหลวงในการเดินทาง  และสร้างความเสียหาย เสียชื่อระดับชาติ   ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ทุกส่วน ต้องออกมาตอบคำถามสังคมให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น  และแสดงความรับผิดชอบทั้งหมด เพราะเกิดจากความมักง่าย รวมถึงเรียกร้องให้ รมว.กระทรวงวัฒนธรรม อธิบดีกรมศิลปากร  เข้ามาดูแลเรื่องนี้ด้วย  

“ การนำการแสดงของไทยไปจัดแสดงในต่างประเทศ โดยสำนักการสังคีต เมื่อเปรียบเทียบจากอดีตที่ผ่านมา มีมาตรฐาน ความละเอียดลออทุกกระบวนการทั้งผู้ควบคุม ซึ่งเป็นครูอาจารย์  ผู้จัดชุดการแสดง นักแสดงมีความเข้มงวด เคี่ยวเข็ญ กันมา ซึ่งต่างจากสมัยนี้มาก ที่ไร้แบบแผน บางงานมีงานวันศุกร์ ซ้อมวันพุธ ทำแบบหยาบๆ    และยิ่งการแสดงโขนในต่างประเทศ จะต้องให้ความสำคัญของทุกส่วน  ไม่ใช่เอาตังละครหนึ่งมาแทรกหรือเปลี่ยนไป และชุดที่ใช้ก็ต้องสง่างาม ซึ่งไม่ใช่เหมือนในงานนี้ที่ เอานนทกมาเล่นรำวง”  ผู้เชี่ยวชาญนาฏศิลป์ไทย   กล่าว