9 ส.ค. 62 - นายอุตตม สาวนายน รมว.การคลัง กล่าวว่า การควบรวมธนาคารทหารไทย และธนาคารธนชาต ได้มีการแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เรียบร้อยแล้ว โดยภายหลังการควบรวมจะทำให้สถานะของธนาคารขยับขึ้นเป็นธนาคารขนาดใหญ่ อันดับ 6 ของประเทศ มีขนาดทรัพย์สิน 2 ล้านล้านบาท ซึ่งจะส่งผลดีต่อกระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้น แม้ว่าสัดส่วนการถือหุ้นจะน้อยลง แต่ผลตอบแทนจะได้มากขึ้น
ทั้งนี้ หลังการควบรวมยังคงใช้ชื่อธนาคารทหารไทยเหมือนเดิม โดยโครงสร้างผู้ถือหุ้น แบ่งเป็น ING สัดส่วน 21.24% ทุนธนชาต สัดส่วน 20.43% และกระทรวงการคลัง สัดส่วน 18.4% ภายใต้เงื่อนไขว่า กระทรวงการคลังจะเป็นผู้มีอำนาจในการแต่งตั้งประธานกรรมการธนาคาร
“ที่ผ่านมาได้หารือกับนายปิติ ตัณฑเกษตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย ซึ่งยืนยันว่ายังดำเนินงานต่อไปปกติ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยหลังจากควบรวมแล้ว คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ปีครึ่งในการจัดการโครงสร้างภายในองค์กร ส่วนการควบรวมจะเกิดขึ้นภายในปีนี้ เพื่อได้สิทธิลดหย่อนภาษี โดยยืนยันว่ากระทรวงการคลังไม่มีนโยบายและแนวคิดในการขายหุ้นทหารไทย” นายอุตตม กล่าว
นายอุตตม กล่าวอีกว่า ในส่วนของกระทรวงการคลัง จะให้กองทุนวายุภักษ์เข้าไปซื้อหุ้นธนาคารธนชาต ในวงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท เพื่อให้กลุ่มทุนธนชาตกลับมาซื้อหุ้นเพิ่มทุนของธนาคารทหารไทย หลังการควบรวมจะทำให้การบริหารของธนาคารมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นการรวมจุดแข็งของ 2 ธนาคารเข้าด้วยกันอย่างลงตัว โดยธนชาตมีความเชี่ยวชาญด้านเช่าซื้อ ส่วนธนาคารทหารไทยเชี่ยวชาญด้านสินเชื่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งการควบรวมจะทำให้การทำงานดีขึ้น และเป็นประโยชน์ของผู้ถือหุ้นทุกราย
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |