จากกรณี เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2562 แฟนเพจ ล๊อตเตอรี่ ได้นำเสนอภาพของแผงล็อตเตอรี่แห่งหนึ่ง บริเวณสนามบินน้ำ แหล่งขายสลากกินแบ่งชื่อดัง เป็นภาพสลากกินแบ่งเลข 22 ที่ถูกขายเป็นชุดในมูลค่าที่สูงกว่าราคาที่กำหนด 3-4 เท่าตัวโดยหมายเลขที่ลงท้ายด้วย 22 มีการจำหน่ายเป็นหวยชุด 15 ใบ ราคา 4,000 บาท, ชุด 10 ใบ ราคา 2,500 บาท และชุด 5 ใบ ราคา 1,500 บาท

ล่าสุด นายธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดผยว่า สำนักงานสลากฯ รับทราบข้อมูลดังกล่าวแล้ว และได้ส่งเรื่องไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเข้าไปตรวจสอบ และดำเนินการจับกุม หากพบว่ามีการขายสลากเกินราคา

ทั้งนี้ ตามกระบวนการทางกฎหมาย เมื่อประชาชนพบว่ามีการขายสลากกินแบ่งเกินราคา หรือ พบเบาะแส สามารถแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าไปจับกุม เมื่อพิสูจน์ทราบว่าผิดจริง และคดีถึงที่สุด ผู้แจ้งเบาะแสก็จะได้รับรางวัลนำจับ ในส่วนของสำนักงานสลากฯ ก็มีหน้าที่คือ ตรวจสอบว่าผู้ค้าทั้งในส่วนระบบซื้อ-จอง และโควตา หากมีการขายเกินราคา หรือ ขายต่อเพื่อไปรวมชุด ก็จะดำเนินการตัดสิทธิรับสลากไปจำหน่ายตลอดชีวิต

“สาเหตุสำคัญที่ยังมีสลากรวมชุดหลายใบและขายเกินราคาเพิ่มขึ้น ถ้าจะพูดกันตรง ๆ ก็มาจากกิเลสมนุษย์ คนซื้ออยากถูกรางวัลมาก คนขายก็แสวงหากำไรโดยไม่สนใจกฎระเบียบ และกฎหมาย ซึ่งในกระบวนการ ผู้ขายจะได้คนละ 5 เล่ม ถ้าขายเองตามจำนวนที่ได้รับก็ไม่มีปัญหา แต่ก็มีบางส่วนที่รับสลากไปแล้วขายช่วงต่อ ซึ่งถ้าสำนักงานตรวจพบก็จะตัดสิทธิ์ตลอดชีวิต” นายธนวรรธน์ กล่าว

ทั้งนี้ แม้ว่าสำนักงานสลากฯ จะปรับกระบวนการพิมพ์สลากเป็นแบบคละในระบบ 2-2-1 แล้ว แต่ก็ยอมรับว่าการแก้ปัญหาสลากรวมชุดยังทำได้ยาก เนื่องจากเทคโนโลยีในปัจจุบัน มี อินเตอร์เน็ต เว็ปไซต์ ทำให้ผู้ค้าสามารถค้นหา รับซื้อสลาก เพื่อมารวมชุดขายได้ง่าย ส่วนการขายสลากผ่านสังคมออนไลน์ เช่น เฟสบุค เป็นเรื่องที่กระทำได้ แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้ขัดต่อกฎหมาย เช่น จำหน่ายสลากให้กับผู้ที่อายุไม่เกิน 20 ปี เป็นต้น