8 ส.ค. 2562 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับแท็กซี่ 4 กลุ่ม ได้แก่ สมาคมแท็กซี่สาธารณะไทย, ตัวแทนจากชมรมแท็กซี่พัทยา, ตัวแทนจากแท็กซี่ส่วนบุคคลทั่วไป และตัวแทนแท็กซี่สนามบินสุวรรณภูมิ ว่า จากการหารือร่วมกันได้มีข้อตกลงร่วมกันกับทั้ง 2 ฝ่าย ประกอบด้วย กลุ่มแท็กซี่ และกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) โดยจะมีการปรับอัตราค่าจ้างรถบรรทุกโดยสารแท็กซี่ ตามที่ ขบ.ได้กำหนด คือ ยังคงอัตราระยะทาง 1 กม.แรก ที่ 35 บาท ในส่วนของระยะทางเกินกว่า 1-10 กม. กม.ละ 6.50 บาท จากเดิม 6 บาท ขณะที่ระยะทางเกินกว่า 10-20 กม. จะอยู่ที่ กม.ละ 7 บาท (ตามเดิม) ระยะทางเกินกว่า 20-40 กม. อยู่ที่ กม.ละ 8 บาท (ตามเดิม) ระยะทางเกินกว่า 40-60 กม. จะอยู่ที่ กม.ละ 8.50 บาท (ตามเดิม) ระยะทางเกินกว่า 60-80 กม. จะอยู่ที่ กม.ละ 9 บาท ตามเดิม และระยะทางเกินกว่า 80 กม.ขึ้นไป จะอยู่ที่กิโลเมตรละ 10.50 บาท ตามเดิม
นอกจากนี้ ในส่วนกรณีรถติดหรือรถวิ่งได้ไม่เกิน 6 กม./ชม. จะปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารในช่วงรถติด 1 บาท/นาที หรือเป็น 3 บาท/นาที จากเดิม 2 บาท/นาที ซึ่งรวมรถทุกประเภท จากเดิมที่ใช้กับรถที่เข้าร่วมโครงการ Taxi OK เท่านั้น ทั้งนี้ จะมีผลบังคับใช้ภายใน 1 เดือนนับจากนี้ โดยมีเงื่อนไขที่ ขบ. จะต้องไปพัฒนาแอพพลิเคชั่น รองรับการยกเลิก Taxi OK ให้แล้วเสร็จก่อน เพื่อให้แท็กซี่เข้าสู่ระบบตามมาตรฐานเดียวกัน และสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการบริหารรถสาธารณะด้วยระบบดิจิทัล โดยการยกเลิก Taxi OK นั้น เพื่อเป็นไปตามข้อเสนอของกลุ่มแท็กซี่ฯ ในการลดต้นทุนการดำเนินการ
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ส่วนการให้รถส่วนบุคคล รถป้ายดำ หรือ Grab สามารถนำมาให้บริการสาธารณะได้นั้น ได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางบกไปดำเนินการแก้กฎหมาย เพื่อรองรับการให้บริการดังกล่าว และนำให้เข้าสู่ระบบให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด ซึ่งในส่วนของอัตราค่าโดยสารจะแตกต่างกับรถแท็กซี่ทั่วไป
“รถป้ายดำ รถส่วนบุคคลที่จะมาให้บริการสาธารณะ การจดทะเบียนเป็นบริษัทไทย โดยกรมฯ จะต้องไปแก้กฎหมาย ที่จะต้องมีการกำหนดประเภทรถในลักษณะรถส่วนบุคคลเชิงพาณิชย์ รวมทั้งเรื่องใบขับขี่ด้วย จะต้องเสียภาษีในมาตรฐานเดียวกัน ในอนาคต Grab ก็จะเหมือนสหกรณ์แท็กซี่อีกหนึ่งสหกรณ์” นายศักดิ์สยาม กล่าว
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ขณะที่ ข้อเสนอให้ปรับอายุการใช้รถรับจ้างสาธารณะจาก 9 ปี เป็น 12 ปีนั้น ทางกระทรวงคมนาคม และ ขบ.ไม่ขัดข้อง แต่แท็กซี่จะต้องดำเนินการตามเงื่อนไขที่กำหนด คือ จะต้องตรวจสภาพรถทุก 3 เดือนตามมาตรฐานของ ขบ. ทั้งนี้ หากรถไม่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพดังกล่าว แท็กซี่คันนั้น จะต้องหยุดวิ่งให้บริการในทันที นอจากนี้ ในส่วนของ Taxi VIP นั้น ได้สั่งการให้ ขบ. ไปแก้กฎระเบียบ ให้ผู้ที่จะไปจดทะเบียนเป็นรถ Taxi VIP ไม่จำเป็นต้องเป็นนิติบุคคลเท่านั้น โดยใช้มาตรฐานเป็นตัวกำหนด
นอกจากนี้ จะมีการพิจารณาปรับขึ้นค่า Surcharge แท็กซี่สุวรรณภูมินั้น จะอนุมัติให้ปรับรถปกติจาก 50 เป็น 70 บาท และรถขนาดใหญ่เป็น 90 บาท โดยได้สั่งการให้ ขบ. ไปประสานงานร่วมกับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารรับทราบ ในส่วนค่าขนกระเป๋าสัมภาระนั้น ก็จะอนุมัติให้เก็บใบละ 20 บาท ความกว้าง 26 นิ้วขึ้นไป ตั้งแต่ใบที่ 3 เป็นต้นไป
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |