พรรคสามัญชนจัดเสวนาปลุกประชาชนแก้ไข รธน.ปี 60 ซัดเป็นพิมพ์เขียวฝ่ายขวาทำลายรากเหง้า รธน.ปี 40 "จอน" ชี้ไม่ได้อยู่ในยุค ปชต. แต่อยู่ในยุค คสช. 2 เชื่อจะมีการลุกขึ้นชุมนุมใหญ่แก้ไข รธน.หวังจะไม่เสียเลือดเนื้อ "สมยศ" เสนอยกเลิก ส.ว.เหลือสภาเดียว ภาคประชาชนยื่นประธานสภาฯ พร้อม 5 หมื่นรายชื่อแก้ รธน. เหตุหลายมาตราลิดรอนสิทธิ ปชช. สืบทอดอำนาจ คสช.

    ที่ห้องประชุมอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ถ.ราชดำเนิน วันที่ 7 สิงหาคม พรรคสามัญชนจัดเสวนาเรื่อง "การแก้ไขรัฐธรรมนูญกับกระบวนการการมีส่วนร่วมนอกสภา" โดยผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย นายจอน อึ๊งภากรณ์ ผู้อำนวยการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์), พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ, นายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ หัวหน้าพรรคสามัญชน และนางนุชนารถ แท่นทอง ตัวแทนเครือข่ายสลัมสี่ภาค
    นายจอนกล่าวว่า เราไม่อยู่ในยุคประชาธิปไตย แต่เราอยู่ในยุค คสช. 2 การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังเป็นนายกฯ มาจากผลของรัฐธรรมนูญที่ คสช.และเนติบริกรสร้างขึ้นมา รวมถึง ส.ว.ที่ไม่เป็นตัวของตัวเอง เพราะ คสช.เป็นผู้เลือกมา ทั้งนี้ ส.ว.แสดงให้เห็นว่าระบบอุปถัมภ์ยังทำงานอยู่ ภายใต้ คสช.ชี้นิ้วกำหนด การที่จะสร้างระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ได้ สำคัญต้องมีการแก้รัฐธรรมนูญดีกว่านั้น ต้องมีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ที่เป็นของประชาชน ร่างโดยตัวแทนของประชาชน แต่ขณะนี้ประชาชนเหมือนถูกขังอยู่ในห้องร่วมกับ คสช. ร่วมกับกลุ่มนายทุนผูกขาด กลุ่มสนับสนุน คสช. พรรคพลังประชารัฐ และห้องนี้ถูกล็อกจากข้างนอก รวมถึงเอากุญแจไปทิ้งลงทะเลด้วย
    นายจอนกล่าวต่อว่า ปัญหาคือเราจะปลดล็อกตรงนี้อย่างไร และสิ่งใดบ้างที่ควรจะแก้ การจะปลดล็อกต้องเปลี่ยน ส.ว.มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และยกเลิกบทเฉพาะกาล ถ้าเราไม่แก้รัฐบาล คสช. 2 เขาจะสามารถผ่านกฎหมายหลายฉบับโดยอ้างว่าเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศ ฉะนั้นการแก้รัฐธรรมนูญในระยะยาวจำเป็นต้องร่างใหม่ทั้งหมด มีวิธีร่างที่เป็นประชาธิปไตย มีตัวแทนประชาชน ไม่ควรให้เป็นเรื่องเฉพาะ ส.ส.และ ส.ว.
    "ดังนั้นภาคประชาชนทุกฝ่าย ต่อจากนี้ต้องมุ่งเน้นการแก้ไข ทำให้เห็นว่ารัฐธรรมนูญปัจจุบันไม่เป็นประชาธิปไตย นำมาสู่การเอารัดเอาเปรียบอย่างไร ต้องช่วยกันสร้างกระแสที่ทำให้ประชาชนเห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งนี้ ส.ว.ต้องตัดสินใจจะจงรักภักดีต่อ คสช. หรือประชาชน เราคงเห็นการลุกขึ้นชุมนุมใหญ่เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งหวังว่าจะไม่เสียเลือดเนื้อ" นายจอนกล่าว
    ขณะที่ พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า การปกครองสิ่งสำคัญสุดคืออำนาจและตำแหน่ง ยกตัวอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ ถ้าไม่ได้เป็นนายกฯ ก็ไม่มีอำนาจ หรือ กกต.ถ้าไม่มีตำแหน่งก็ไม่มีอำนาจ ให้ 3 หมื่นคะแนนชนะ 7 หมื่นคะแนนได้ ว่าการทำให้ประชาชนมีความผาสุก คือสังคมประชาธิปไตย ซึ่งเป็นสังคมที่มีความเหลื่อมล้ำน้อยกว่าสังคมเผด็จการ แต่บ้านเราที่ผ่านมามีรัฐธรรมนูญกว่า 20 ฉบับ มีเพียงหนึ่งฉบับที่เป็นรัฐธรรมนูญประชาธิปไตยที่มาจากประชาชน รัฐธรรมนูญฉบับ 2560 เป็นมรดกของระบบอุปถัมภ์ ปกติคนเป็นผู้นำต้องก้าวพ้นผลประโยชน์ตัวเอง แต่รัฐธรรมนูญ 2560 เป็นรัฐธรรมนูญที่เขียนมาเพื่อทำให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ทั้งที่หลักการที่แท้จริงแล้วต้องคิดว่าทำอย่างไรจะทำให้ประชาชนมีความสุขมีความกินดีอยู่ดี
    "รัฐธรรมนูญจะต้องเป็นรัฐธรรมนูญที่ดี ต้องคำนึงถึงสิทธิ 5 ประการ คือ 1.ต้องให้ประชาชนดำรงชีวิตได้อย่างมนุษย์ เช่น การมีรัฐสวัสดิการ บำนาญถ้วนหน้า 2.ต้องให้สิทธิที่จะมีความคิด 3.ต้องมีความเสมอภาค 4.ต้องมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ พหุวัฒนธรรมทุกชาติพันธุ์ต้องมีคุณค่า และ 5.ต้องมีความยุติธรรม การร่างกฎหมายควรจะมีส่วนร่วมของประชาชน ให้ประชาชนมีโครงสร้างอำนาจ การแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของคนในสภา ไม่ใช่แค่เรื่องของพรรคฝ่ายค้าน แต่เป็นเรื่องของทุกคนในสังคม" พ.ต.อ.ทวีกล่าว
    ด้านนายเลิศศักดิ์กล่าวว่า การฉีกรัฐธรรมนูญทุกๆ ครั้งจากการรัฐประหาร ทำให้เกิดคำถามว่า รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศจริงหรือ เมื่อมองรัฐธรรมนูญ 2560 ก็เห็นเพียงเรื่องของผลประโยชน์ที่ฝ่ายไหนจะได้รับ ไม่เห็นในเรื่องของการแก้ไขปัญหาของประชาชนเลย รัฐธรรมนูญ 2560 ได้ทำลายรากเหง้าของรัฐธรรมนูญ 2540 ไปทั้งหมด ต่างจากรัฐธรรมนูญ 2550 ที่ใช้ 2540 เป็นตัวแบบ และมองว่ารัฐธรรมนูญ 2560 เป็นพิมพ์เขียวของฝ่ายขวา จึงจำเป็นต้องแก้ไขให้เป็นพิมพ์เขียวของฝ่ายที่ก้าวหน้า ส่วนเรื่องการปล่อยนักโทษทางการเมือง ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขเช่นเดียวกัน
    ส่วนนางนุชนารถกล่าวว่า รัฐธรรมนูญ 2560 เป็นกฎหมายที่ถูกร่างโดยคนที่ไม่ได้รับความเดือดร้อน และให้ประชาชนคนทำงานลำบาก แต่กลับปกป้องชนชั้นนำ จนกลายเป็นการลิดรอนสิทธิคนชนชั้นกรรมาชีพ ไม่มีใครพูดถึงปัญหาปากท้อง ในฐานะภาคประชาชนเห็นว่าควรยกเลิกหรือฉีกรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไปเลย และถือว่ามีความชอบธรรม ถ้าประชาชนลุกขึ้นมาพร้อมกันเป็นไปได้แน่นอน          
    ที่รัฐสภา นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย พร้อมคณะ เดินทางมาให้กำลังนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย เพื่อสนับสนุนตรวจสอบการปราบปรามทุจริตของรัฐบาล และตรวจสอบมารยาทของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ภายหลังจากแสดงพฤติกรรมลุกหนีออกจากห้องประชุมเมื่อมีการอภิปรายตรวจสอบทุจริตจัดซื้อรถดับเพลิงของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในปี 2562 กว่า 5,000 ล้านบาท รวมถึงขอประณามนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว. ที่ลุกขึ้นประท้วงท้าตีท้าต่อยแสดงถึงพฤติกรรมถ่อยเถื่อน ไร้วุฒิภาวะ จึงขอให้มีการตรวจสอบด้วย
    นายสมยศกล่าวว่า ขอเรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ให้เหลือเพียงสภาเดียว โดยยกเลิกวุฒิสภา เพื่อตัดกลไกสืบทอดอำนาจเผด็จการ และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีวุฒิสภาไว้อีกต่อไป เนื่องจากมี ส.ส.ในสภาแล้วถึง 500 คน อีกทั้งยังมีฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านในการทำหน้าที่ได้อย่างเพียงพอ
    ขณะที่นายเยี่ยมยอด ศรีมันตะ ประธานคณะกรรมการรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ภาคประชาชน พร้อมคณะ ยื่นหนังสือพร้อมรายชื่อ 50,000 รายชื่อ ถึงนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ผ่านนายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 เพื่อสร้างประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ให้เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง เนื่องจากเห็นว่ามีเนื้อหาสาระที่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตยในหลายประเด็น เช่น เรื่องระบบรัฐสภา คณะรัฐมนตรี องค์กรอิสระ และศาลรัฐธรรมนูญ อีกทั้งในหมวดที่เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญและบทเฉพาะกาล ซึ่งมีเนื้อหาสาระที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชน มีเจตนาสืบทอดอำนาจจาก คสช. โดยเฉพาะอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและสมาชิกวุฒิสภา.