"บิ๊กตู่" ลั่น! ปมถวายสัตย์ฯ เดี๋ยวคงเรียบร้อย เพราะไม่มีเจตนาที่จะทำให้ผิด เขาดูกันที่เจตนา แต่ "วิษณุ" กุมขมับตอบไม่ถูก ไม่รู้ว่านายกฯหมายถึงอะไร ที่บอกว่าหาทางออกอยู่ เผยเคยมีถวายสัตย์ฯ ผิดและแก้ไขในภายหลัง "เรืองไกร" ยื่นอัยการให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้ว
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการถวายสัตย์ปฏิญาณที่ระบุว่ากำลังหาทางแก้ไขปัญหาอยู่ โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า "เดี๋ยวคงเรียบร้อยนะ เพราะผมไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้ผิด เขาดูกันที่เจตนา"
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ว่านายกฯ หมายถึงอะไร ที่ท่านบอกว่าหาทางอยู่นั้น ไม่ทราบ ต้องถามท่านเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า อะไรคือปัญหาที่ต้องแก้ไข รองนายกฯ ปฏิเสธว่า ไม่รู้ เมื่อถามว่าการถวายสัตย์ฯ ไม่ครบตามรัฐธรรมนูญ จะกระทบการทำงานของรัฐบาลหรือไม่ นายวิษณุยังคงตอบแบบเดิมว่า ขณะนี้ยังไม่ตอบ แต่ตอนนี้รัฐบาลก็ทำอยู่ หลังจากมีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาไปแล้ว
ซักว่า ฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อถวายสัตย์ฯ ไม่ครบ ก็ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ นายวิษณุกล่าวว่า เขามีสิทธิ์เข้าใจแบบนั้น และมีสิทธิ์จะสงสัย เมื่อนายกฯ บอกว่ากำลังหาทางอยู่ ก็ให้ท่านหาทางก่อน “ครับ ผมตอบได้แค่นี้ อย่างอื่นตอบไม่ถูก”
ถามว่า หากมีการตั้งกระทู้ในสภา ผู้ที่จะตอบคำถามคือใคร รองนายกฯ แจงว่า อยู่ที่ว่าถามใคร หากถามนายกฯ นายกฯ จะต้องตอบ เพราะคนอื่นไม่อยู่ในฐานะที่รู้
เมื่อถามว่า หากนายกฯ มอบหมายให้ตอบแทนจะไปหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า นายกฯ สามารถมอบได้ แต่ตนจะพูดได้หรือไม่นั้น ยังไม่รู้ เมื่อยังไม่เกิดเหตุอย่าเพิ่งมาสมมุติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้เคยมีกรณีถวายสัตย์ฯ ไม่ครบหรือไม่ รองนายกฯ ตอบว่า เคยเห็น แต่มีการแก้ไข เพราะเมื่อตกใจก็พูดใหม่ แก้ไขตรงนั้น การแก้ไขภายหลังน่าจะมี แต่ไม่ใช่ทั้งคณะ เป็นการปรับ ครม.เข้าไปทีละคนสองคน ส่วนแก้ไขอย่างไรนั้น ขอว่าอย่าเพิ่งพูด
ซักว่าผู้ตรวจการแผ่นดินรับคำร้องในเรื่องดังกล่าว รองนายกฯ บอกว่า ถือว่าดีแล้ว และหากเรื่องไปถึงศาลและมีคำตัดสินออกมา ทุกอย่างจะจบหรือไม่นั้น ตนไม่ขอตอบในประเด็นนี้ เพราะนายกฯ บอกแล้วว่ากำลังหาทางอยู่ แต่เรื่องนี้นายกฯ ไม่เคยบอกกับตน เห็นแต่ข่าวในสื่อ ส่วนวิธีการหาทางของนายกฯ นั้น ย้ำว่าตนไม่รู้ จึงไม่รู้จะตอบอย่างไร
เมื่อถามว่า จากคำพูดของนายกฯ เหมือนเป็นการยอมรับว่าพลาดจริงๆ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่ทราบ ความจริงแล้วเป็นปัญหาที่ไปพูดกันเอง กระพือกันออกไป แต่เมื่อมีการพูดกันแสดงว่ามีปัญหา ท่านก็จะแก้ตรงนี้ ส่วนจะแก้อย่างไรก็แล้วแต่ท่าน
"นั่นเป็นความเข้าใจของบางคน แต่ในส่วนของนายกฯ คงไม่เดือดร้อนขนาดนั้น เพราะไม่เห็นท่านบอกว่าเป็นความยากลำบากหรือเดือดร้อนอะไร ในที่ประชุม ครม.ก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้" นายวิษณุกล่าว
ขณะที่นายชัยเกษม นิติสิริ อดีต รมว.ยุติธรรม และแกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ทางแก้ไขเรื่องนี้คือต้องยอมรับว่าเกิดความผิดพลาดในการถวายสัตย์ปฏิญาณ และขอพระราชทานอภัยโทษ ขอนำ ครม.เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณใหม่ให้ถูกต้อง
ส่วนตัวมองว่าไม่มีทางอื่น เพราะหากจะหาวิธีแก้ไขทางอื่นจะมีปัญหาอื่นตามมาอีกอยู่ดี ในที่สุดก็ต้องนำ ครม.เข้าไปสู่การถวายสัตย์ฯ ให้ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ และถึงอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ก็ยังมีเสียงส.ว.ในสภาและ ส.ส.คอยสนับสนุนให้กลับมาเป็นนายกฯ ได้อยู่ดี ดังนั้นวิธีที่ตนเสนอถือเป็นทางออกที่ดีที่สุดในขณะนี้ แต่ถ้ายังไม่รีบแก้ไขอาจมีคนไปร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจดำเนินคดีว่า พล.อ.ประยุทธ์ และ ครม.บริหารราชการแผ่นดินไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ และอาจต้องรับผิดชอบทางอาญา ซึ่งจะร้ายแรงกว่าที่เป็นอยู่
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และแกนนำ 7 พรรคฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ว่า หากนายกฯ ไม่มาตอบกระทู้สด ก็ต้องเลื่อนออกไปจนกว่าจะมีเวลามาตอบด้วยตนเอง ส่วนแนวทางการส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความสถานะของคณะรัฐมนตรี(ครม.) เนื่องจากถวายสัตย์ฯ ไม่ครบถ้วนนั้น เบื้องต้นยังไม่คิด
ที่สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ถ.แจ้งวัฒนะ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตทีมกฎหมายพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายเข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการสูงสุด เพื่อขอให้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณี พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้กล่าวถ้อยคำถวายสัตย์ปฏิญาณให้ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 161 และไม่ได้ชี้แจงแหล่งที่มาของรายได้ที่จะนำมาใช้จ่ายในการดำเนินนโยบาย ในวันที่มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 162 โดยมีนายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นตัวแทนรับเรื่อง
"เมื่อมันเกิดการกระทำที่ไม่ชอบแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ควรจะพิจารณาตัวเองด้วยการลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วเริ่มกระบวนการขึ้นมาใหม่ เลือกผู้ที่ควรเป็นนายกรัฐมนตรี ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ยังได้มติจากที่ประชุมรัฐสภาเข้ามารับตำแหน่ง นำคณะรัฐมนตรีขอเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณให้ครบถ้วน และทำคำแถลงนโยบายใหม่อันนี้ถือว่าเหมาะสมที่สุด ประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์ก็จะยุติ แต่ในส่วนกรณีที่ตนได้ยื่นร้องอัยการสูงสุดวันนี้ ก็จะยังทำคู่ขนานกันต่อไป" นายเรืองไกรกล่าว
ด้านนายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรค 2 ซึ่งเป็นช่องทางที่อัยการสูงสุดจะพิจารณาว่าจะสามารถยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญได้หรือไม่ หากภายใน 15 วันอัยการสูงสุดยังไม่ได้ให้คำตอบ หรือดำเนินการใดๆ แก่ผู้ร้อง ผู้ร้องนั้นสามารถไปยื่นตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ ตนจะรับเรื่องนำเรียนอัยการสูงสุดต่อไป ซึ่งในประเด็นนี้ทางอัยการมีคณะทำงานเฉพาะ เนื่องจากมีผู้ร้องหลายคนที่ร้อง มีหลายคำร้องลักษณะคล้ายกัน รวมถึงที่พรรคอนาคตใหม่ได้มายื่นก่อนหน้านี้ เรื่องนี้ก็ให้คณะทำงานไปดำเนินการก่อนเสนอให้อัยการสูงสุดพิจารณาต่อไป อย่างไรก็ตาม เมื่ออัยการสูงสุดพิจารณาแล้วก็จะแจ้งผลให้ผู้ร้องทราบ เพราะผู้ร้องอาจใช้สิทธิร้องเอง ยืนยันว่าจะเร่งพิจารณาโดยเร็ว เนื่องจากมีเรื่องพิจารณาหลายเรื่อง
วันเดียวกันนี้ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงกระแสข่าวจะไม่ลาออกจาก ส.ส.บัญชีรายชื่อ ตามมติร่วมของพรรคที่กำหนดให้ ส.ส.บัญชีรายชื่อที่ได้เป็นรัฐมนตรีต้องลาออกจาก ส.ส. เพื่อเปิดโอกาสให้ ส.ส.บัญชีรายชื่อในลำดับต่อไป ว่าขณะนี้ได้เขียนจดหมายลาออกไว้แล้ว เหลือแต่เพียงยื่น แต่ทั้งนี้ขอหารือกับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก่อน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |