กลายเป็นเรื่องเด่นประเด็นดัง หลังจาก ศุ บุญเลี้ยง เจ้าของเพลงอิ่มอุ่น ที่แทบจะทุกโรงเรียนนำมาเปิดในกิจกรรมงานวันแม่ โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ถึงรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ ควรยกเลิกจัดงานวันแม่ที่โรงเรียน โดยการเชิญแม่มาให้เด็กนักเรียนกราบไหว้ เพราะมองว่าเป็นกิจกรรมแสดงความรักดาบสองคม มีผลกระทบไปที่เด็กที่กำพร้าแม่ โดยมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย
งานนี้ ศุ บุญเลี้ยง ได้ออกมาชี้แจงเพิ่มเติมถึงประเด็นดังกล่าว ผ่านรายการ ข่าวเช้า Good Morning Thailand ช่อง MONO29 ช่วงเรื่องเด่นประเด็นดังกับ ต๊ะ-พิภู พุ่มแก้วกล้า ว่า “ประเด็นที่ผมจะชี้แจงจริงๆ เลยคือ รัฐบาลเขาให้โรงเรียนหยุดวันแม่อยู่แล้ว เท่ากับเราเห็นความสำคัญของวันแม่ ทีนี้โรงเรียนไปเพิ่มอีกวันหนึ่งที่ไม่ใช่วันแม่โดยตรง แต่เป็นวันที่นัดเรามากราบแม่ ซึ่งครูก็มีหน้าที่ปลูกฝัง เรื่องการศึกษา เรื่องการกตัญญู อันนี้ผมเห็นดีด้วย สอนให้กราบแม่ กอดแม่ หอมแม่ ได้หมด แต่ที่สะเทือนใจคือ การเชิญแม่มาโรงเรียน ในขณะที่เด็กจำนวนมากอาจจะไม่มีพ่อ-แม่ หรือพ่อแม่ไม่ว่างในวันที่จัดงาน มาไม่ได้ เป็นสิ่งที่ผมเห็นแล้วสะเทือนใจ แล้วไม่ใช่แค่เพิ่งเห็นด้วย เห็นมาหลายปีแล้ว พอถึงวันแม่ก็จะมีคนพูดถึงประเด็นนี้ผ่านมาผ่านไป ผมก็คิดว่าจะต้องทำอะไรสักอย่างหนึ่ง ทำเท่าที่คนอย่างผมคนหนึ่งจะทำได้ ก็เลยโพสต์ไปก็มีคนเข้ามาคอมเม้นท์มากมาย
ถามว่าประเพณีนี้ ที่บอกว่ามันมีมาตั้งนานแล้ว มันนานแค่ไหน รุ่นผมไม่มี บางโรงเรียนก็ไม่ได้จัด หรือมันไม่ใช่นโยบายของรัฐบาล เพราะฉะนั้นบางโรงเรียนถึงทำ บางโรงเรียนถึงไม่ทำ แต่จุดหลักคือ ถ้าจะทำ ต้องระวังอะไร เราจัดงานวันแม่ หัวใจไม่ได้อยู่ที่การเอาแม่มา นี่คือจุดที่ผมอยากจะชี้ ยกตัวอย่างเช่น ผมกำลังจะเอาไอศครีมไปแจกเด็กในโรงเรียน ผมต้องคิดว่าเอาไปกี่แท่งถึงจะพอ เอาไปตอนไหนยังไงถึงจะไม่ละลาย จัดยังไงให้เด็กตัวเล็กกินก่อน ซึ่งผมว่ามันละเอียดมากนะครับ กับการที่เราทำงานกับเด็ก โดยเฉพาะครู ซึ่งต้องมีสามัญสำนึกของความเป็นครูอยู่
ส่วนผู้ปกครองเอง ผมว่าพวกเขามองออก ไม่งั้นคงไม่มีคนจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็น 99% ที่เห็นด้วยมันอาจจะผิดก็ได้ แต่ถ้าผมเป็นนักการเมือง หรือรัฐมนตรีที่จะทำนโยบาย ผมต้องฟังเสียงพวกนี้ให้เยอะ เพราะว่ามันจะได้สอดคล้องกับแนวคิดของประชาชน ดร.วิริยะ (ดร.วิริยะ ฤาชัยพาณิชย์ นักวิชาการ นำเสนอแนวคิดด้านการเรียนรู้ และผู้วิจัยพัฒนาเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อวงการการศึกษาของประเทศ) ก็ไปทำในเฟสบุกของเขา ผลคือ 96% ที่อยากให้ยกเลิกกิจกรรมแบบนี้
ซึ่งไม่ได้ต้องการยกเลิกงาน แต่ต้องการยกเลิกการเชิญแม่มา ประเด็นนี้แหละที่ผมยกมา มาโรงเรียนแล้วกลับบ้านเอาพวงมาลัยไปไหว้แม่ที่บ้าน ซึ่งนี้คือวัฒนธรรมที่ดี ที่ถูกกาลเทศะ การกราบพ่อกราบแม่ กราบในวาระ ไม่จำเป็นต้องไปขึ้นโชว์บนเวที่ จริงๆ เพลงอิ่มอุ่น ของผมถูกนำไปใช้มาก โรงเรียนเชิญผมไปร่วมงาม เขาเล่าให้ผมฟังว่าเด็กจะร้องไห้กันทั้งโรงเรียน คุณครูน้ำตาคลอ ผมก็เฮ้ยไม่ใช่แล้ว
ผมคิดว่าคนที่มีบทบาทของโรงเรียนคือ สมาคมผู้ปกครอง ที่ควรจะคุยกับทางโรงเรียน ว่าเราเห็นแบบนี้เราอยากจะเปลี่ยนแปลง โรงเรียนมันมีพื้นที่ มีบริบท มีเวลา มีครู ผมว่ามันน่ารักดีที่ลูกๆ เขียนการ์ด เอากลับบ้านก็เอาไปให้แม่ แต่บางทีแค่เขียนเรียงความก็ต้องคิดแล้วว่า เด็กที่ไม่มีแม่จะเขียนยังไง ทุกอย่างมันละเอียดอ่อน ผู้ปกครองจำนวนมาก มีความคิด มีสติปัญญา และที่สำคัญคือมีจินตนาการพอที่จะรู้ว่า แม้จะไม่ใช่ลูกของเรา ความรู้สึกเจ็บปวดของเด็ก ไม่ต้องทำวิจัยก็พอจะรู้ได้ มันเป็นสามัญสำนึกที่คนที่มีลูก หรือคนที่เป็นครูจะต้องมีอยู่แล้ว”
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |