7 ส.ค. 62 - ที่ศาลแพ่ง แผนกคดีผู้บริโภค ถ.รัชดาภิเษก น.ส.ธิษณา เดือนดาว อายุ 52 ปี เจ้าของสุนัข ชื่อ "เจอร์นี่" ที่ตายจากการรักษา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ จำกัด น.ส.สุชาดา หัทยานานนท์ สัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาล และนายอาจอง อธิปธรรมวารี สัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาล เป็นจำเลยที่ 1-3 เรื่องละเมิดในทางการที่จ้าง, สิทธิที่จะได้รับข่าวสารที่ถูกต้องและเพียงพอเกี่ยวกับบริการในฐานะผู้บริโภค, ข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม โดยเรียกค่าสินไหมทดแทน จำนวน 1 ล้านบาท
      
ศาลแพ่งประทับรับฟ้องคดีนี้ไว้พิจารณาเป็นคดีหมายเลขดำ ผบ.3656/2562 โดยศาลนัดพิจารณาเพื่อกำหนดประเด็นสืบพยาน วันที่ ‪7 ต.‬ค.นี้ 
      
น.ส.ธิษณา กล่าวว่า ได้นำเจอร์นี่ สุนัขที่เลี้ยงมาตั้งแต่อายุ 3 เดือน ดูแลเป็นอย่างดีตรวจสุขภาพทุกเดือน จนอายุ 11 ปีครึ่ง ล่าสุดเมื่อเดือน เม.ย. สัตวแพทย์ตรวจพบเจอชิ้นเนื้อในปอดใหญ่กว่า 3 เซนติเมตร จึงได้ปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อทำการรักษา โดยให้คำแนะนำ และโน้มน้าวให้นำสุนัขมารักษา โดยวิธีการผ่าตัดส่องกล้อง ค่าใช้จ่ายประมาณ 35,000 บาท แต่ภายหลังมีการแจ้งค่าใช้จ่ายใหม่ เนื่องจากต้องผ่าตัดโดยสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญการส่องกล้อง ค่าใช้จ่ายประมาณ 80,000-100,000 บาท ตนจึงตัดสินใจนำสุนัขเข้าผ่าตัดรักษา และจ่ายเงินไป 100,000 บาท 

แต่เมื่อถึงเวลาผ่าตัด ปรากฏว่าเป็นสัตวแพทย์อีกคนหนึ่งที่ไม่มีความชำนาญในการผ่าตัดแบบส่องกล้อง เมื่อสุนัขเข้าผ่าตัดได้ไม่นานก็เสียชีวิต  เนื่องจากขณะผ่าตัดสัตวแพทย์ผู้รักษานำกล้องสอดเข้าไปในลำตัว แต่ถูกเส้นเลือดใหญ่ และกล้องยังไม่ถึงปอดจุดที่พบชิ้นเนื้อด้วยซ้ำ กระทั่งตายลง หลังสุนัขตายผ่านไป 1 สัปดาห์ ตนไม่สามารถนอนหลับได้ตามปกติเลย ต้องใช้ยานอนหลับตลอด เพราะช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งตนไม่ได้เตรียมใจมาว่าจะเสียสุนัขไป เมื่อได้พูดคุยกับทางโรงพยาบาล ได้ชี้แจงว่าการผ่าตัดปอดส่องกล้อง มีวิธีการที่ซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูง เพราะต้องผ่านเส้นเลือดและอวัยวะที่สำคัญ แต่ก่อนหน้านี้โรงพยาบาลกลับแจ้งกับตนว่า การผ่าตัดรักษาด้วยวิธีนี้ ไม่มีความอันตราย ไม่เสียเลือด มีแผลขนาดเล็ก ซึ่งหากตนรู้ว่าการผ่าตัดมีความซับซ้อน ก็จะไม่ทำการรักษาโดยเด็ดขาด 
     
ทั้งนี้การยื่นฟ้องครั้งนี้ ส่วนตัวมองว่า เงินจำนวน 1 ล้านบาทที่เรียกร้องไป ไม่อาจเทียบกับความเสียหายที่ต้องแลกกับชีวิตสุนัขที่ตนรัก แต่จะทำให้เป็นคดีตัวอย่าง เพื่อที่จะทำให้แพทย์ระมัดระวังในการรักษาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ใช่หวังแต่ผลประโยชน์ 

ด้านนายอากาศ  วสิกชาติ ทนายความ กล่าวว่า จะยื่นฟ้องร้องในแผนกคดีผู้บริโภค หลังจากได้รับความเสียหาย ส่วนประเด็นการเซ็นเอกสารยินยอมผ่าตัดนั้นเป็นขั้นตอนตามปกติเช่นเดียวกับการรักษาในเคสอื่นๆ บ่งชี้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัย แต่คดีนี้เป็นการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง เกิดการเข้าใจผิด จึงต้องยื่นฟ้อง รพ.และสัตวแพทย์ที่ทำการผ่าตัด.