7 ส.ค.2562 แหล่งข่าวจากกรมท่าอากาศยาน(ทย.) เปิดเผยว่าตัวเลขงบประมาณปี 2563 ของทย.ที่ได้ขอไปนั้นอยู่ที่ 11,315 ล้านบาท สำหรับโครงการที่มีความสำคัญสอดคล้องกับความต้องการของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม นั้นได้แก่การก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 สนามบินบุรีรัมย์ งบลงทุนราว 700 ล้านบาท เพื่อเพิ่มปริมาณการรองรับนักท่องเที่ยวให้และการผลักดันการท่องเที่ยวเชิงกีฬา สอดรับกับแผนพัฒนาสนามบินแห่งนี้เป็นสนามบินนานาชาติในอนาคต 

สำหรับอาคารใหม่นี้จะเพิ่มการรองรับจากเดิม 1 เท่า เป็น 1.7 ล้านคน/ปี จากปัจจุบันรองรับได้ 7.5 แสนคน/ปี อีกทั้งยังสอดคล้องกับงานพัฒนาลานจอดเครื่องบินที่ได้ดำเนินการเสร็จไปแล้วก่อนหน้านี้

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่าส่วนโครงการที่สำคัญในปี 2563 อีกสองแห่งคือโครงการขยายสนามบินสุราษฎร์ธานี เกทเวย์สู่ภาคใต้ เพื่อให้ตอบสนองตลาดท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างรวดเร็วในภาคใต้ สำหรับการขยายอาคารนี้จะรองรับนักท่องเที่ยวได้ปีละ 3.6 ล้านคน/ปี จากปัจจุบัน 2 ล้านคน/ปี นอกจากนี้ยังมีแผนขยายสนามบินกระบี่เพิ่มปริมาณรองรับ 1 เท่าตัวจาก 4 ล้านคน/ปี เป็น 8 ล้านคน/ปี

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่าขณะนี้อยู่ระหว่างทำแผนแม่บทการเพิ่มรายได้เชิงพาณิชย์ ขณะนี้มีแผนจะขึ้นค่าเช่าแผงค้าและค่าเช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์ในสนามบินทุกแห่ง คาดว่าจะสร้างรายได้เพิ่มให้ ทย.ปีละ 143 ล้านบาท ส่วนแนวทางหารายได้เพิ่มเพื่อยกระดับคุณภาพบริการนั้นยืนยันว่าจะไม่มีการขึ้นภาษีสนามบิน (PSC) เพื่อไม่ให้เป็นภาระกับประชาชน ส่วนเรื่องอัตราค่าจอดเครื่องบิน (Landing&Parking)​ นั้นต้องพิจารณาอีกครั้งว่าจะปรับขึ้นหรือไม่ เพราะอาจกระทบผู้โดยสารถ้าผู้ประกอบการนำตัวเลขค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นไปบวกในค่าตั๋วโดยสาร

รายงานข่าวแจ้งว่านายถาวร ยังได้สั่งให้กรมท่าอากาศยานเร่งประชาสัมพันธ์ภารกิจของหน่วยงานเพิ่มเติม เพราะกรมท่าอากาศยานเป็นหน่วยงานที่สำคัญ แต่ไม่มีการประชาสัมพันธ์ ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักไม่รู้ว่ากรมท่าอากาศยานกำกับดูแลสนามบินใดบ้าง ท่านก็บอกว่าอยู่ทางใต้ แต่ไม่รู้ว่ามีสนมาบินลำปาง แสดงว่า กรมฯประชาสัมพันธ์อ่อน