35ตำรวจศาล เข้ารายงานตัว ประเดิมคดีดัง


เพิ่มเพื่อน    

  ตำรวจศาลชุดแรก 35 นาย รายงานตัวแล้ว ประเดิมงานแรกวันพิพากษาคดี นปช.ก่อการร้าย 14 สิงหา. เลขาธิการศาลฯ ย้ำวางมาตรฐานรักษาความปลอดภัยดีขึ้น-ติดตามผู้หลบหนีประกัน ตั้งเป้า 5 ปี 309 อัตรา แจงกำไล EM ไม่มีปัญหาเหมือนกรมคุมประพฤติ เหตุเป็นคนละประเภท

    วันที่ 6 สิงหาคม ที่ผ่านมา ในห้องประชุมชั้น 12 สำนักงานศาลยุติธรรม อาคารศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เจ้าพนักงานตำรวจศาลชุดแรก จำนวน 35 นาย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และข้าราชการพลเรือน เช่น ปปง., ป.ป.ส. เข้ารายงานตัวต่อนายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม และนายปุณณพัฒน์ มหาลี้ตระกูล ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจำสำนักประธานศาลฎีกา ในฐานะผู้กำกับดูแลสำนักการเจ้าหน้าที่
    นายสราวุธกล่าวให้โอวาทต้อนรับตำรวจศาลว่าตำรวจศาลเป็นความหวังของระบบรักษาความปลอดภัยและบังคับใช้กฎหมายในศาล ทุกคนมีหลักประกันการทำงานเหมือนกับข้าราชการศาลยุติธรรม ในเดือนหน้าจะมีการไปศึกษาดูงานตำรวจศาลของสหรัฐอเมริกาด้วย กฎหมายตำรวจศาลนั้น ทางประธานศาลฎีกาได้ผลักดันให้กฎหมายผ่านหลังเรารอมากว่า 10 ปี ต้องการเห็นการปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยในบริเวณศาล หากศาลใดมีคดีสำคัญแล้วมีการร้องขอใช้ตำรวจศาลมาก็จะส่งไป 
    "ถ้าทำอย่างมีประสิทธิภาพ จะเพิ่มจำนวนคนเป็นหลักพันได้ วัฒนธรรมองค์กรเป็นเรื่องสำคัญ ขอให้เข้าใจเพื่อให้การทำงานราบรื่นมีประสิทธิภาพ ศาลอาญาเองก็เคยถูกอาวุธ ระเบิด อยากให้ทุกคนช่วยกันดูแล ที่กรรมการคัดเลือกมานั้นต้องการทักษะหลายด้าน เพื่อให้ได้ใช้ประโยชน์อย่างแท้จริง โอกาสเป็นของทุกคนในการแสดงฝีมืออย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน"
    เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมกล่าวถึงที่ตั้งของสำนักงานศูนย์รักษาความปลอดภัย สังกัดสำนักงานศาลยุติธรรม ซึ่งจะดูแลกำลังเจ้าพนักงานตำรวจศาลว่า อยู่ใกล้ศูนย์ควบคุมติดตามการปล่อยตัวชั่วคราว โดยใช้กำไลอิเล็กทรอนิกส์ EM ด้านข้างอาคารศาลอาญา ซึ่งเจ้าพนักงานตำรวจศาลจะปฏิบัติหน้าที่ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 5 ของ พ.ร.บ.เจ้าพนักงานตำรวจศาล พ.ศ.2562 และนโยบายของตำรวจศาลคือ 
    1.วางมาตรฐานระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีขึ้น 2.การบังคับตามหมายจับ ติดตามผู้หลบหนีประกันตัวที่ติดกำไล EM และที่ไม่มาศาลตามนัด โดยขณะนี้หากศาลทั่วประเทศแห่งใดประสงค์จะขอกำลังเจ้าพนักงานตำรวจศาลไปช่วยปฏิบัติหน้าที่ ก็สามารถยื่นความประสงค์มาที่สำนักงานศาลฯ ก็จะจัดสรรให้ แต่เนื่องจากขณะนี้กำลังยังมีน้อย ก็จะพิจารณาตามความจำเป็นและเหมาะสม
    ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาประจำศาล ซึ่งในอดีตได้รับการประสานจากสถานีตำรวจนครบาลในพื้นที่นั้น ส่งมาช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยและความเรียบร้อยบริเวณศาล กับเจ้าหน้าที่ รปภ.ของศาล ที่ได้รับการจัดสรรมาจากองค์การทหารผ่านศึก ก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่เช่นเดิม ควบคู่กับตำรวจศาล 
    อย่างไรก็ดี หวังว่าตำรวจศาลชุดแรกทั้ง 35 นาย จะวางระบบมาตรฐานให้ชัดเจนขึ้น เป้าหมายในการจัดกำลังตำรวจศาลกำหนดไว้ภายใน 5 ปี จะต้องมีให้ครบ 309 อัตรา โดยไม่จำกัดจำนวนชายหญิง เพราะทุกคนมีความสามารถที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้ ซึ่งในส่วนของตำรวจศาลรุ่นแรก 35 นาย แม้ในช่วงสมัครจะมีการกำหนดประเภทฝ่ายวิชาการและระดับปฏิบัติงาน แต่จริงๆ แล้ว ทั้งหมดได้รับการฝึกฝนและอบรมอย่างเข้มข้น พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ภาคสนามได้ทุกคน
    ผู้สื่อข่าวถามถึงในวันที่ 14 สิงหาคมนี้ ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาคดีสำคัญเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) 24 คน ในข้อหาร่วมกันก่อการร้าย สำนักงานศาลฯ จะจัดสรรตำรวจศาลมาประจำการบริเวณศาลอาญาเพื่อดูแลความเรียบร้อยหรือไม่ นายสราวุธกล่าวว่า ก็เป็นไปได้ ซึ่งภารกิจของตำรวจศาลคือการดูแลความปลอดภัยและความเรียบร้อยบริเวณศาลด้วย
    เมื่อถามถึงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์รักษาความปลอดภัย สังกัดสำนักงานศาลยุติธรรม ซึ่งจะดูแลกำลังเจ้าพนักงานตำรวจศาล นายสราวุธระบุว่า จากเดิมที่ลาออกไปเมื่อวันที่ 1 ส.ค.นี้ เราก็จะพิจารณาบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมมาดำรงตำแหน่ง ผอ.คนใหม่ ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ ตามรอบการโยกย้ายของสำนักงานศาลฯ ซึ่งปกติมี 2 รอบ คือ 1 เม.ย. กับ 1 ต.ค. โดยคุณสมบัติที่อาจจะนำมาพิจารณาอย่างหนึ่งก็คือ ผู้ที่จบสาขานิติศาสตร์ โดยการพิจารณาบุคคลขณะนี้เราจะดูจากบุคลากรภายในก่อน
    ถามถึงข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใส่กำไล EM ที่หลบหนี, อำนาจของตำรวจศาลในการจับกุม และกรณีที่มีข่าวบริษัทเอกชนร้องเรียนว่ากำไล EM ของกรมคุมประพฤติไม่ได้มาตรฐาน เมื่อถูกทำลายไม่มีสัญญาณแจ้งเตือนมายังศูนย์ ในส่วนของศาลมีปัญหาหรือไม่ นายปุณณพัฒน์ชี้แจงว่า ปัจจุบันมีผู้ใส่กำไล EM ของศาลที่หลบหนี 160 ราย ตำรวจศาลก็จะติดตามจับกุม ในส่วนกำไล EM ของศาลไม่มีปัญหา
    ขณะที่นายสราวุธกล่าวเสริมว่า ตำรวจศาลมีอำนาจหน้าที่สืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับข้อมูลของผู้ต้องหา-จำเลยที่หลบหนีประกันศาล และศาลออกหมายจับไว้แล้ว โดยจะมีหน้าที่ประสานตำรวจนครบาลในพื้นที่เพื่อติดตามจัดการตามหมายจับของศาลต่อไป ขณะที่ตำรวจศาลมีอำนาจจับกุมได้ด้วยเช่นกัน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ส่วนกำไล EM ของกรมคุมประพฤติใช้ติดที่ข้อมือ แต่ของศาลติดที่ข้อเท้า เป็นคนละประเภท
    นายปุณณพัฒน์ยังเผยถึงเครื่องแบบของตำรวจศาลว่า ได้กำหนดเครื่องแบบไว้ 3 ชุด ชุดที่หนึ่งพร้อมปฏิบัติงานภาคสนาม เสื้อคอพับแขนยาวหรือแขนสั้น กางเกงขายาว เข็มขัดด้ายถักสีน้ำเงินแกมดำ (ชุดเวสลักษณะคล้ายกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษของตำรวจนครบาล) ชุดที่สอง ชุดปฏิบัติงานปกติที่จะเป็นเสื้อคอแบะ ปล่อยเอว กางเกงขายาว ติดเครื่องแบบโลหะ และชุดที่สามเป็นสูทคอแบะ แขนยาว กางเกงขายาว ติดเครื่องแบบโลหะเช่นเดียวกัน ทั้งหมดเป็นชุดสีน้ำเงินแกมดำ
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อำนาจหน้าที่ของตำรวจศาลตามมาตรา 5 พ.ร.บ.เจ้าพนักงานตำรวจศาล พ.ศ.2562 มีสาระสำคัญ ได้แก่ รักษาความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยในบริเวณศาล, ป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดในบริเวณศาล, รักษาความปลอดภัยและคุ้มครองข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พนักงานและลูกจ้าง รวมทั้งอาคารสถานที่และทรัพย์สิน, ปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการแจ้งให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจจับผู้ต้องหาหรือจำเลยที่ได้รับการปล่อยชั่วคราวโดยศาลแล้วหนีหรือจะหลบหนี หรือจับผู้ต้องหาหรือจำเลยนั้นได้ ให้นำผู้ถูกจับไปยังศาลโดยเร็ว และเมื่อศาลได้ออกหมายจับผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามหมายเรียกหรือคำสั่งศาล ให้ศาลมีคำสั่งตั้งตำรวจศาลเป็นผู้จัดการตามหมายจับ ศาลอาจให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจเป็นผู้จัดการตามหมายจับด้วย โดยมีตำรวจศาลเป็นผู้สนับสนุนก็ได้.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"