ปลุก'เสือดำไม่ตายฟรี' ชี้สำนวนคดีทัน10มี.ค.


เพิ่มเพื่อน    

    กรมอุทยานฯ ลั่นฟ้องสำนวน “เปรมชัย”  เสร็จทัน 10 มี.ค.แน่ “ปทส.” ชี้รอตรวจดีเอ็นเองาช้างก่อนลงดาบคดีอาญา ภาคประชาชนแสดงพลังงานทวงความยุติธรรมแทน “เสือดำ” ไม่ตายฟรีพรึ่บ โลกออนไลน์ถล่มเละรีบลบกราฟฟิตี้เสื้อดำ อดีต อสส.ข้องใจแทงใจดำใคร “อิตาเลียนไทย” ใหญ่จริง ตัดต้นไม้โกร๋นไม่รอเขตอนุมัติ
เมื่อวันอาทิตย์ ยังคงมีความเคลื่อนไหวในคดีของนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กับพวกรวม 4 คน เข้าไปล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี จนถูกจับกุมพร้อมของกลางซากสัตว์ป่า ปืนและเครื่องกระสุน
    โดยนายปิ่นสักก์ สุรัสวดี รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า หลักฐานต่างๆ ที่กรมอุทยานฯ รับผิดชอบนั้น ทางหน่วยปฏิบัติการนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่าได้เร่งการตรวจสอบหลักฐาน ทั้งซากสัตว์ เลือด หรือพันธุกรรมต่างๆ มาโดยตลอด ซึ่งหลักฐานเหล่านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งมาให้ 2 ล็อต โดยล็อตแรกตรวจพิสูจน์เสร็จเรียบร้อยแล้ว เตรียมส่งรายงานให้ตำรวจ ส่วนล็อตที่ 2 อยู่ระหว่างตรวจสอบ แต่คาดว่าทางหน่วยปฏิบัติการนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่าจะส่งหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวกับสัตว์ป่าในกรณีนี้ให้พนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิได้ภายในสัปดาห์หน้า เพื่อใช้ประกอบในสำนวนเสร็จทันตามที่กำหนดไว้ในวันที่ 10 มี.ค.2561 แน่นอน
        “ส่วนคดีการครอบครองงาช้าง 2 คู่ที่ยึดได้จากบ้านนายเปรมชัยนั้น จากการตรวจสอบพบว่าเป็นงาช้างแอฟริกา ซึ่งอยู่ในฐานความผิดครอบครองซากสัตว์ป่า ซึ่งกรมอุทยานฯ ได้ให้นายเปรมชัยชี้แจงถึงที่มาการได้ครอบครองแล้ว” นายปิ่นสักก์กล่าว
    ด้าน พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผบก.ปทส.) กล่าวเรื่องงาช้าง 4 กิ่งว่า พนักงานสอบสวนต้องรอผลการตรวจพิสูจน์อย่างเป็นทางการจากกรมอุทยานฯ มาประกอบการพิจารณาก่อนว่าจะมีความเห็นทางคดีอย่างไร โดย บก.ปทส.จะเป็นผู้รับดำเนินคดีนี้เอง หากได้ผลตรวจและพยานหลักฐานอื่นๆ แล้ว โดยคดีนี้จะอยู่ในเขตอำนาจศาลอาญา เป็นคนละส่วนกับคดีที่ สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เนื่องจากเหตุเกิดคนละที่กัน
สำหรับระยะเวลาในการดำเนินการนั้น พล.ต.ต.ปัญญาระบุว่า ต้องสอบถามผู้ตรวจพิสูจน์คือกรมอุทยานฯ เพราะเราเป็นพนักงานสอบสวน แต่ที่ทราบมาคงใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ต้องรอดูผลเป็นทางการต่อไป หากรับทราบผล ปทส.ก็จะสรุปสำนวนส่งอัยการฟ้องศาลอาญาต่อไป
ลบกราฟฟิตี้"เสือดำ"
        วันเดียวกัน เพจ Headache Stencil ซึ่งเป็นมือพ่นกราฟฟิตี้ชื่อดัง ได้โพสต์รูปภาพกำแพงที่ว่างเปล่าภายในซอยสุขุมวิท 58 ซึ่งก่อนหน้านั้นเคยมีรูปของเสือดำพร้อมกับเครื่องหมายปิดเสียง โดยระบุว่า “สำหรับคนที่จะมาถ่ายรูปกับกราฟฟิตี้เสือดำ เสียใจด้วยนะครับ มีเจ้าหน้าที่มาลบไปเรียบร้อย แถมจอดรถเฝ้าและอยู่รอในรถ 1 คน ตกลงผมอยากให้คนรักษาสัตว์ป่าก็ผิดเหรอครับ กำแพงที่ทำก็ไม่ใช่กำแพงสาธารณะ แถมผมพ่นลบที่เด็กช่างพ่นทิ้งกันไว้ให้ก่อนด้วย มันเกิดอะไรขึ้นครับ แล้วคนที่รอในรถรอใครหรือครับ??? กลับบ้านไปเถอะครับ ลบแล้ว ได้ทะเลาะกับงานศิลปะผมจนพอใจแล้วกลับบ้านไปเถอะครับ ไม่อยากเดินไปถ่ายรูปมาประจานนะครับ"
     ทั้งนี้ น่าสังเกตว่าข้างๆ กำแพงที่ใช้วาดรูปเสือดำก็มีการพ่นรูปอื่นๆ อยู่เต็มกำแพง แต่เจ้าหน้าที่จงใจลบแค่กำแพงที่มีรูปเสือดำเท่านั้น ทำให้เมื่อเพจดังกล่าวโพสต์เรื่องดังกล่าวออกไป ก็ทำให้มีการแชร์ต่อกันเป็นจำนวนมาก และวิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งเสนอแนะให้เจ้าของเพจพ่นกราฟฟิตี้บนกำแพงบ้านตัวเองเสียเลยเพื่อแก้ปัญหา
 ก่อนหน้านี้ เพจดังกล่าวเคยสร้างชื่อมาแล้วด้วยการวาดรูปนาฬิกาบิ๊กป้อมบริเวณสะพานลอยบนถนนสุขุมวิท ก่อนจะโดนเจ้าหน้าที่เทศกิจลบ และได้มีการจัดทำเสื้อยืดรูปนาฬิกาบิ๊กป้อมจำหน่าย ซึ่งได้รับกระแสตอบรับอย่างดีด้วย
ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 13.28 น. นายตระกูล วินิจนัยภาค อดีตอัยการสูงสุด (อสส.) โพสต์เฟซบุ๊กในเรื่องนี้ว่า “เอ้า!!! เกิดอะไรขึ้น ภาพนี้มันไปแทงใจดำใครหรือครับ จึงต้องสั่งลบออก!!! อยากทราบจังว่า...ใครสั่งลบ!!! และอยากทราบต่อไปว่า ใคร? ใช้สิทธิ์อะไรที่ไปสั่งลบ?? กำแพงของใคร? ใครวาด? ผิดกฎหมายเรื่องอะไรที่วาดรูปนี้? อันนี้ผมไม่ทราบและตอบไม่ได้จริงๆ ครับ ใครช่วยตอบหน่อยครับ 
ป.ล. ทำไมต้องทำให้เรื่องเล็กขยายวงจนเป็นเรื่องใหญ่สิครับ!!! ป.ล. (1) ไปลบภาพเขาโดยไม่มีสิทธิ์ อาจมีความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญาฯ ได้นะครับ คนที่สั่งให้ลบ...ก็อาจมีความผิดฐานผู้ใช้หรือตัวการร่วมได้ในความผิดดังกล่าวได้ครับ”
ด้านวินทร์ เลียววาริณ หรือนายสมชัย เลี้ยววาริณ เจ้าของรางวัลซีไรต์ และศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า “สองวันนี้ทำภาพกราฟฟิกมาจำนวนหนึ่ง ไม่ได้ตั้งใจออกแบบเป็นซีรีส์ แต่อารมณ์พาไป นี่คืองานอาร์ตแบบกราฟฟิก ทำด้วยโปรแกรม Illustrator ไม่ได้ออกแบบภาพแบบกราฟฟิกดีไซน์มานาน เรื้อเวทีไปบ้าง สายตาก็ไม่ค่อยดี ถ้าขยายภาพใหญ่ ก็คงเห็นรอยไม่เรียบร้อย แต่ไหนๆ ทำมาแล้ว ก็จะทยอยนำมาลงให้ดูกัน สื่อความรู้สึกด้วยภาพตรงไปตรงมา จัดเป็นงานออกแบบบัตรงานศพชนิดหนึ่ง สำหรับเสือดำผู้จากไป และนำความดีความถูกต้องของมนุษย์ไปด้วย”
จัดกิจกรรมทวงยุติธรรม
ในช่วงเย็น บริเวณลานหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร กลุ่ม T’Challa ได้จัดงาน "รวมพลคนพันธุ์เสือดำ" โดยมีกลุ่มนักอนุรักษ์ นักสิทธิมนุษยชน และประชาชนกว่า 100 คน รวมทั้งนางทิชา ณ นคร ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและเยาวชน เดินทางมาร่วมแสดงพลังและเรียกร้องความเป็นธรรมให้เสือดำที่ถูกล่าสังหารในทุ่งใหญ่นเรศวร โดยมีการแจกหน้ากากเสือดำให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมอย่างคึกคัก
โดยนางทิชากล่าวว่า เนื่องจากมองว่ากระบวนการยุติธรรมอ่อนแอ ผู้มีอำนาจ มีเงิน มีความสามารถในการชี้นำการใช้กฎหมาย จึงต้องการออกมาเพื่อบอกว่าประชาชนไม่ได้โง่ แต่กำลังเฝ้ามองการทำงาน หากกระบวนการยุติธรรมยังไม่เที่ยงตรง ประชาชนจะออกมาอีก โดยเฉพาะการตั้งข้อกล่าวหาที่เริ่มมีโทษลดลง ความสัมพันธ์ที่ชัดเจนของตำรวจกับผู้ถูกกล่าวหา โดยสังคมไทยเป็นสังคมอุปถัมภ์ ซึ่งทางกลุ่มรู้สึกไม่มีความหวังในคดีนี้ รวมถึงคดีอื่นๆ ที่ผ่านมา โดยการกระทำดังกล่าวเหมือนปลุกประชาชนให้ตื่นขึ้น ผู้พิทักษ์ป่าต้องได้รับการปกป้องจากประชาชนในการทำหน้าที่ 
ส่วนเรื่องนี้จะเป็นโมเดลทุ่งใหญ่นเรศวรหรือไม่นั้น นางทิชาระบุว่า เรื่องนี้จะเป็นกรณีตัวอย่างที่จะแสดงบรรทัดฐานทางสังคมไทย ว่าผู้ที่ไม่มีสิทธิไม่มีเสียงตั้งแต่คนยากจนจนถึงสัตว์ป่าจะมีสิทธิที่จะต่อสู้เรียกร้องให้กับความยุติธรรมหรือไม่ ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดนี้จะเดินหน้าต่อไปเท่าที่ทำได้ ภายใต้กรอบของรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ส่วนการยื่นเรื่องเสนอขอให้มีการแก้กฎหมายเพิ่มโทษให้กับผู้ที่ล่าสัตว์ป่าหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่จะต้องดำเนินต่อไป
เมื่อถามถึงกรณีโพสต์เฟซบุ๊กจำหน่ายภาพเข็มกลัดเสือดำ แต่ถูกเจ้าของภาพติติงเรื่องลิขสิทธิ์ นางทิชากล่าวสั้นๆ ว่า เดี๋ยวจะทำเอกสารชี้แจงอย่างละเอียดอีกครั้ง  
ทั้งนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมยังได้แสดงละครจำลองการฆ่าเสือดำเพื่อกินอวัยวะ จากนั้นกลุ่ม T’Challa ได้อ่านแถลงการณ์ว่า “เราเป็นตัวแทนของเสือดำและสัตว์ทั้งหลายในป่าใหญ่ เพื่อมาทวงถามความเลวร้ายของมนุษย์กลุ่มหนึ่งที่บุกมาฆ่าเพื่อนของเราถึงในบ้าน ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกที่มีผู้บุกรุกเพื่อนเราถึงในบ้าน แต่เราอยากให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย อยากให้วิญญาณของเสือดำและสัตว์น้อยใหญ่ทั้งหลายที่สังเวยจากน้ำมือมนุษย์ที่มีจิตใจอำมหิต อย่าให้ตายฟรี ขอให้วิญญาณเพื่อนของเราเหล่านี้เป็นเครื่องเตือนใจว่าสัตว์ก็อยู่ในป่า อยู่กันตามธรรมชาติอย่างสงบสุข และเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้เช่นเดียวกัน ขออย่าให้มนุษย์อย่าทำร้ายพวกเราเลยด้วยวิธีใดก็ตาม ขอให้สัตว์ป่าและป่าไม้อยู่คู่กับโลกตลอดไป สุดท้ายขอให้กระบวนการยุติธรรมด้วยดำเนินการกับคนที่บุกมาฆ่าเพื่อนของเราอย่างตรงไปตรงมา อย่าให้ตาชั่งของความยุติธรรมเอียงไปทางผู้มีอำนาจ ผู้มีเงินทองล้นฟ้า พวกเรา T’Challa จะเฝ้ามองทุกขั้นตอนอย่างใกล้ชิด และเราจะเจอกันใหม่ในวันที่กระบวนการยุติธรรมไม่เที่ยงตรง ระวังป่าจะประท้วง ซึ่งเราไม่ได้มีแค่เสือดำ แต่เรายังมีสัตว์ป่าอีกมากมายจะออกมาทวงถามความยุติธรรม”
ตัดต้นไม้เหี้ยนไม่รออนุญาต
จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้ร่วมกันขับร้องเพลงชีวิตสัมพันธ์ พร้อมชูป้าย “เสือดำต้องไม่ตายฟรี JUSTICE FOR WILDLIFE” เพื่อแสดงเจตนารมณ์ในการจัดกิจกรรม ก่อนถ่ายรูปแชร์ในเฟซบุ๊กรวมทั้งช่องทางโซเชียลมีเดียอื่นๆ และแยกย้ายกันเดินทางกลับ ซึ่งการจัดกิจกรรมครั้งนี้สร้างความสนใจแก่ผู้ที่เดินผ่านไปมาได้จำนวนมาก ทั้งประชาชนที่ติดตามข่าว รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็ให้ความสนใจเข้ามาบันทึกภาพ  พร้อมกันนั้นมีสำนักข่าวต่างประเทศเข้ามาเกาะติดทำข่าวด้วย 
    ยังมีเรื่องน่าสนใจเกิดขึ้นที่เกี่ยวเนื่องอีก โดยนายปกครอง พลเมือง ผู้อำนวยการเขตจตุจักร กล่าวว่า บริษัท อิตาเลียนไทยฯ ซึ่งเป็นผู้รับจ้างงานก่อสร้างโยธาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ได้ทำเรื่องขอขยายพื้นที่ถนนสำหรับดำเนินการโครงการก่อสร้าง โดยสำนักงานเขตจตุจักรอยู่ระหว่างสำรวจพื้นที่ว่าต้องตัดต้นไม้บริเวณใดบ้าง พร้อมคิดค่าเสียหาย รวมทั้งทำป้ายประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบข้อเท็จจริง ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุป แต่บริษัท อิตาเลียนไทยฯ ได้ตัดต้นไม้จนเหี้ยนเตียนบริเวณมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ช่วงหน้ามหาวิทยาลัยจำนวน 9 ต้น และบริเวณหน้าธนาคารออมสิน สาขา ม.เกษตรฯ อีก 5 ต้น โดยไม่รอผลการสำรวจ และไม่ได้ขออนุญาตทางเขตจตุจักรแต่อย่างใด 
“บริเวณดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานเขต ในเบื้องต้นสำนักงานเขตได้ทำหนังสือแจ้งความลงบันทึกประจำวันเพื่อเป็นหลักฐานที่ สน.บางเขต พร้อมทำหนังสือไปยังบริษัท เพื่อให้เข้ามาเสียค่าปรับ ตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 มาตรา 24 เกี่ยวกับการตัดโค่นต้นไม้ในที่สาธารณะ มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาทต่อไป” นายปกครองกล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"