5 ส.ค. 2562 นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่าความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้ารางเบา (Light Rail Transit) นั้นได้เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่ พบว่าชาวเชียงใหม่ล้วนต้องการรถไฟฟ้าในพื้นที่เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเดินทาง แก้ปัญหาจราจรในตัวเมืองตลอดจนสนับสนุนการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งมีผู้โดยสารที่สนามบินมากกว่า 10 ล้านคนต่อปี 

สำหรับเส้นทางนำร่องที่จะเริ่มดำเนินการนั้นคือสายสีแดงช่วงโรงพยาบาลนครพิงค์ - แยกแม่เหียะสมานสามัคคี รูปแบบโครงสร้างทางวิ่งผสมระดับใต้ดินและระดับดิน มีแนวเส้นทางตามแนวเหนือ - ใต้ รวมระยะทางประมาณ 12.5 กิโลเมตร มีสถานีจำนวน 12 สถานี 
อย่างไรก็ตามเส้นทางสายนี้คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้าง 4-5 ปีก่อนเปิดใช้บริการ นอกจากนี้ยังมีแผนต่อขยายเส้นทางสายสีแดงออกไปเพื่อรองรับการท่องเที่ยวและสนับสนุนให้ผู้โดยสารนอกตัวเมืองได้ใช้ โดยจะขยายเส้นทางช่วงหัวและท้ายของโครงการระยะทางรวม 18.5 กม. ได้แก่ 1.โรงพยาบาลนครพิงค์-แม่ริม ระยะทาง 8.5 กม. 2.แยกแม่เหียะ-สันป่าตอง ระยะทาง 10 กม. 

นอกจากนี้ชาวบ้านในพื้นที่ต้องการให้เร่งรัดโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเบาอีกสองเส้นทางคือ สายสีเขียว ระยะทาง 12 กม.ช่วงแยกรวมโชค-สนามบินเชียงใหม่ และสายสีน้ำเงิน ระยะทาง 11 กม.ช่วงสวนสัตว์เชียงใหม่-ห้างสรรพสินค้าพรอมเมนาดา โดยมีข้อเสนอให้ก่อสร้างรถไฟฟ้าทั้งสองเส้นทางนี้ควบคู่กันไปภายหลังจากเปิดให้บริการสายสีแดง เพราะไม่อยากรอนานเกินไป มองว่าหากรัฐบาลทยอยพัฒนาทีละเส้นทางอาจต้องใช้เวลามากถึง 15 ปีกว่าจะเปิดใช้ได้ทั้งหมด ซึ่งรฟม.ก็ขอรับฟังข้อเสนอและนำกลับไปทบทวนว่าจะก่อสร้างไปพร้อมกันได้หรือไม่ แต่ทั้งนี้ต้องทำความเข้าใจกับคนในพื้นที่ว่ามาตรการดังกล่าวอาจกระทบต่อปัญหาจราจรในวงกว้าง หากชาวเชียงใหม่ยอมอดทนได้ก็คงเป็นเรื่องที่ม๊โอกาสเป็นไปได้

อย่างไรก็ตามในการจัดประชุมได้รายงานสถานะโครงการรวมถึงจุดที่ใช้ในการก่อสร้างและพื้นที่เวนคืน สำหรับพื้นที่เวนคืนนั้นส่วนใหญ่จะเป็นสถานีใต้ดินที่มีทางขึ้นและทางลง นอกจากนี้จะมีพื้นที่ศูนย์ซ่อมบำรุงขนาดใหญ่ (Depot) ไปจนถึงการก่อสร้างอาคารจอดแล้วจร (Park and Ride Building)บริเวณสถานีแรกและสถานีสุดท้ายของโครงการคล้ายกับรถไฟฟ้าเมืองหลวง เพื่อสนับสนุนให้ชาวบ้านนำยานพาหนะมาจอดแล้ชวเดินทางด้วยรถไฟฟ้า

ทั้งนี้ รฟม. ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ให้เป็นผู้ดำเนินโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดเชียงใหม่ ในรูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) ซึ่งเมื่อโครงการแล้วเสร็จสมบูรณ์จะช่วยเพิ่มทางเลือกในการเดินทางที่มีประสิทธิภาพและมาตรฐาน รวมถึงมีความสะดวก รวดเร็ว และความปลอดภัย ให้แก่ของประชาชนและนักท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงสามารถลดการใช้รถยนต์โดยรวมบนท้องถนน จึงช่วยลดปริมาณมลพิษในอากาศที่เกิดจากการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงของรถยนต์ได้อีกด้วย