5 ก.ค. 2562 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า วันที่ 9 ส.ค. เวลา 09.00 น. จะนำคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม เดินทางไปพบนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และคณะกรรมการส.อ.ท. เพื่อหารือแนวทางส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมร่วมกัน รวมทั้งสอบถามนโยบายใดของภาครัฐ ที่ยังเป็นอุปสรรคการลงทุน หรือต้องการให้ส่งเสริมด้านใดเป็นพิเศษ เพื่ออำนวยความสะดวกในการลงทุน  เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมไทย ถือเป็นหนึ่งในหัวจักรสำคัญที่ช่วยผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโตยั่งยืน   

“ผมต้องการให้กระทรวงอุตสาหกรรม ทำงานในเชิงรุก เดินเข้าไปหาผู้ประกอบการโดยตรงเลยว่า ยังมีอะไรที่ต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือหรือไม่ ที่ผมเลือกไปส.อ.ท.ก่อนที่จะไปเยี่ยมกรม หรือหน่วยงานต่างๆในกระทรวงอุตสาหกรรม เพราะมีสมาชิกที่เป็นภาคอุตสาหกรรมรวมทุกขนาด ทั้งรายใหญ่ รายกลาง รายเอสเอ็มอี ล้วนแต่มีความสำคัญในภาคเศรษฐกิจไทย เมื่อรวบรวมรับฟัง แนวทางส่งเสริม หรืออุปสรรคทุกอย่างแล้ว ก็จะให้การบ้านแต่ละหน่วยงานไปทำควบคู่กับนโยบาย 100 วันอุตสาหกรรมทำได้ด้วย เพื่อให้คลอบคลุมแก้ได้ตรงจุดในทุกมิติ”    

นอกจากนี้นโยบายที่ตนเน้นเป็นพิเศษ คือ การส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้ครบวงจร ให้เข็มแข็งโตได้จริง แก้ปลดล็อคปัญหาที่ยังคั่งค้างอยู่ เพราะเป็นฐานรากสำคัญของระบบเศรษฐกิจไทย ซึ่งส.อ.ท. มีผู้ประกอบการที่มีศักยภาพจำนวนมาก ที่ผ่านมามีโครงการที่ดี อย่างโครงการบิ๊กบราเธอร์ พี่ช่วยน้อง ต้องเข้าไปดูว่า ประสบความสำเร็จ หรือมีอะไรที่ต้องช่วยกันเติมให้เป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่ รวมทั้งหารือประเด็นความพร้อมการผลักดันนโยบายการส่งเสริมการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ (โลคอล คอนเทน) ในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของไทย  ถือเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทย   

“ตอนนี้เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เราทุกคนต้องช่วยเหลือกัน ประคับประคองทั้งภาครัฐ รายใหญ่ รายกลาง รายเล็ก ให้ทุกคนปรับตัวอยู่รอดร่วมกันไปได้ ไม่ต้องการทิ้งใครกลุ่มไหนไว้ เพราะฉะนั้นหากรายใหญ่ ใช้ศักยภาพ ความเชี่ยวชาญ เป็นที่ปรึกษาช่วยผู้ประกอบการรายเล็กให้รู้แนวทางปรับตัว ลดต้นทุน รูปแบบการตลาดที่จะอยู่รอดในโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป ควบคู่กับการช่วยเหลือของภาครัฐ จะเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์อย่างมาก”     

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานส.อ.ท. กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ที่จะเดินทางมาที่ส.อ.ท. เพื่อหารือแนวทางการส่งเสริมร่วมกันระหว่างกระทรวงอุตฯ และภาคเอกชนให้เดินหน้าไปในทิศทางเดียวกัน โดยภาคเอกชน จะนำเสนอข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ของทุกฝ่าย เช่น การแก้ไขกฎหมายที่ยังเป็นอุปสรรคต่อการลงทุน แม้ที่ผ่านมาได้ทยอยแก้ไปแล้ว แต่ยังมีหลายฉบับที่ยังต้องแก้ไขต่อไป  , เสนอภาครัฐสนับสนุนจัดตั้งกองทุนพัฒนานวัตกรรมของภาคเอกชน ซึ่งเป็นประโยชน์ในการพัฒนาเอสเอ็มอีของไทย

ขณะเดียวกันจะเสนอให้สนับสนุนโครงการเมด อิน ไทยแลนด์ เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อเพิ่มโอกาสในการส่งเสริมสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย รวมทั้งช่วยบรรเทาผลกระทบจากปัญหาสงครามการค้าที่เกิดขึ้นหลายประเทศทั่วโลกได้  , ให้ตั้งภาคเอกชนเข้าร่วมในคณะกรรมการพัฒนาอิส ออฟ ดูอิ้ง บิสสิเนส  ด้านต่างๆ เพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจให้มีความสะดวกและเอื้อต่อการแข่งขันของผู้ประกอบการในด้านต่างๆอย่างต่อเนื่อง