ระเบิดกรุงรอบนี้ฝีมือใคร?

      มีทั้งคนตั้งคำถามและคนตอบ แต่คนรู้จริงมีไม่เยอะ อย่างน้อยก็คนจ้างวาน และคนลงมือปฏิบัติเท่านั้นที่รู้

      ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐอยู่ระหว่างคลำหา อาจพอเดาทางได้บ้าง แต่สำคัญที่สุดคือหลักฐาน

      อีกพวกคือนักการเมือง กลุ่มนี้รู้ดีกว่าใคร รู้ดีกว่าคนจ้างวาน คนลงมือวางระเบิดเองเสียอีก 

      แต่...ที่ว่ารู้ดีคือ รู้จักที่จะใช้เหตุระเบิดมาสร้างโอกาสทางการเมือง และกระหน่ำกันไปเรียบร้อยแล้ว

      พรรคฝ่ายค้านหลายคน ยืนยันตรงกันว่า รัฐบาลทำเองเพื่อกลบข่าว การถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

      รัฐบาลหน้าโง่ถึงกับสร้างสถานการณ์กลบข่าว โดยไม่สนใจว่าจะไปเจอปัญหาใหญ่กว่านั้น

      นั่นคือปัญหาความมั่นคงทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การค้าขาย ตลาดหุ้น ที่มีความอ่อนไหวสูงจากเหตุการณ์วางระเบิด

      สรุปง่ายๆ คือรัฐบาลมันโง่

      รัฐบาลกลัวประเด็นการถวายสัตย์ไม่ครบจนขี้ขึ้นสมองอย่างนั้นหรือ?

      ฝ่ายค้านเองอยากให้รัฐบาลนี้ล่ม เพื่อจะได้เปลี่ยนขั้วการเมือง แต่ประเด็นลักษณะนี้มันก็เหมือนถ่มน้ำลายรดหน้าตัวเอง

      ฝ่ายค้านประกาศมาตลอดว่าไม่เห็นด้วยกับมาตรการยุบพรรคการเมือง เพราะเป็นการขัดขวางความเป็นประชาธิปไตย แต่กลับเห็นด้วยว่า เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ถวายสัตย์ไม่ครบถ้อยความ รัฐบาลนี้จะต้องพินาศไป

      ให้เข้าสู่การจัดตั้งรัฐบาลกันใหม่ และแน่นอนฝ่ายค้านมีโอกาส

      ไม่แคนดิเดตของพรรคเพื่อไทยก็อนาคตใหม่มีโอกาสเป็นนายกฯ คนถัดไปอีกครั้ง!

      และไม่มีคนเก่ง คนดี จากพรรคฝ่ายค้านคนไหนเสนอว่า ประเด็นนี้เป็นเรื่องร้ายแรง ควรจะแก้ไขโดยเร็ว โดยจัดให้มีการถวายสัตย์ปฏิญาณใหม่อีกครั้ง

      มีแต่คนสรุปว่า พังแล้วเจ๊งแล้ว รัฐบาลเห็นท่าไม่ดี เลยวางระเบิดกลบข่าว

      คนต้องโง่แค่ไหน เห็นแก่ตัวแค่ไหน ถึงได้มองปัญหาเช่นนั้น?

      อย่าอะไรเลย ขนาดภาคอีสานแล้ง ยังโทษว่าเพราะรัฐบาลเผด็จการครองเมืองมา ๕ ปี ยังดีที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ทำน้ำท่วมภาคกลางนาน ๓ เดือน ทรัพย์สินประชาชนเสียหายกว่าล้านล้านบาท คนตายเกือบร้อย ไม่โทษว่าเพราะเผด็จการกำลังเตรียมวางแผนทำรัฐประหาร

      เหมือนๆ กับที่ "ธัมมชโย" ไม่ยอมมอบตัวเพราะประเทศไม่เป็นประชาธิปไตย

      ขนาด "ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์" ผู้ต้องหาหนีคดี ม.๑๑๒ ถูกทำร้ายที่ญี่ปุ่น ยังคงทึกทักเอาว่าฝีมือเผด็จการจากไทยส่งไปหวังจะฆ่าทิ้ง

      ที่จริงไม่อยากยุ่งเรื่องส่วนตัวของคน แต่จำได้ว่าวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ที่ผ่านมา "จอม เพชรประดับ"  ผู้ลี้ภัยในอเมริกา เพราะไม่ยอมไปรายงานตัวกับ คสช. บอกกล่าวทางเฟซบุ๊กว่า

        "หลังจากพยายามติดต่อ สืบหาข้อมูล ถึงการเงียบหายไปของ อ.ปวิน ทั้งคนใกล้ชิด สนิทสนมทั้งในและต่างประเทศ อยู่หลายคน ทุกคน ทุกแหล่ง ต่างก็อ้างข้อมูลของ Andrew MacGregor Marshall ที่บอกว่า อ.ปวิน สบายดีเพียงแต่อยากจะดึงตัวเองจากโลกโซเชียลไปสักพัก เท่านั้นเอง (แหล่งข่าวจากขอบเตียงแอบกระซิบมาว่า ก็คงไม่พ้นเรื่องผู้ชง ผู้ชายนั่นแหละค้า...ที่เป็นเหตุหลัก) และยืนยันว่า การเงียบหายไปครั้งนี้ ไม่เกี่ยวกับการมาทัวร์ต่างประเทศของ หน.พรรคสีส้มนะครับ เพราะ อ.ปวิน ไม่กินน้ำส้มมานานแล้ว...เอาเป็นว่า อาจารย์เยียวยาหัวใจตัวเองเรียบร้อย และพร้อมเมื่อไหร่ ก็คงจะได้เห็นลีลา คารม ของ อ.ปวิน กันอีกครั้ง..."

      เรื่องผู้ชายจริงหรือไม่มิทราบได้

      แต่ปกติถ้าเป็นเพราะเหตุผลทางการเมือง "ปวิน" ไม่เคยปล่อยให้ข้ามวินาที ต้องด่าไปแปดตลาดก่อนแล้ว

      ครั้งนี้กลับเงียบปล่อยเวลาเนิ่นนานร่วมเดือน ก่อนจะมาบอกว่า เหตุมาจากการเมือง

      กลับมาในมุมของรัฐบ้าง ถ้ารัฐบาลวางระเบิดเองจะได้อะไรบ้าง?

      กำขี้ยังได้มากกว่า!

      ขนาด ส.ส.พลังประชารัฐฟันธงว่า "ฝีมือแม้ว" ยังโดนด่ายับ แล้วรัฐบาลจะวางระเบิดตัวเองหาหอกอะไร

      จำระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เมื่อปี ๒๕๖๐ ได้หรือเปล่า วันนั้นก็ไม่ต่างวันนี้ คนไม่ชอบขี้หน้า คสช.พากันฟันธงเกี่ยวกับ "บิ๊กป้อม" แหงๆ

      สุดท้ายเป็นไง จำได้หรือเปล่า "วัฒนา ภุมเรศ" อดีตวิศวกรการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย  เป็นพวกเสื้อแดงคลั่งทักษิณ

      เป็นมือวางระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ศาลสั่ง ๗ คดี จำคุก ๑๖๐ ปี ๕๔ เดือน

      ระเบิดกรุงเที่ยวนี้ฝีมือใคร ปล่อยให้เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนไป พรรคฝ่ายค้าน โดยเฉพาะ "เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส" ไม่ต้องอวดเก่ง ทำเป็นรู้ไปหมดทุกเรื่อง

เพราะคนในพรรคตัวเองยังรู้จักไม่หมดไม่ใช่หรือ

      สำหรับพรรคระบอบทักษิณทั้งหลายกรุณาหันไปดูรอบๆ ตัวเองว่า.....

      ยังมีคนแบบ "วัฒนา ภุมเรศ" หลงเหลืออยู่กี่คน.