ในหลวง-พระราชินี พระราชทานดอกไม้เยี่ยมผู้บาดเจ็บเหยื่อระเบิดป่วนกรุงเทพฯ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ "บิ๊กตู่" ยันเอาอยู่ ไม่กระทบเศรษฐกิจ ไม่มีประเทศไหนเตือนห้ามมาไทย "ธนกร" ด่าลั่นพวกโจมตีว่าเป็นฝีมือรัฐบาล เอาสมองส่วนไหนคิด นายกฯทำประเทศสงบมา 5 ปีแล้ว อย่ามาใส่ร้าย

     เวลา 10.00 น. วันที่ 3 สิงหาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี  ทรงห่วงใยประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พลอากาศโท ภักดี แสง-ชูโต ผู้ช่วยราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทานไปมอบแก่นายเอกรินทร์ ยงสันเที๊ยะ อายุ 54 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บจากคนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณสถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี ณ โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ 
          จากนั้น เชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทานไปมอบแก่นายชนะใจ เลาะหมุด อายุ 28 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บจากคนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณลานจอดรถหน้าอาคารมหานครคิงพาวเวอร์ และนางสาวศศินิภา เพชรทองหลาง อายุ 39 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บจากคนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณซอยพระราม 9-57/14 (หลังร้าน 13 เหรียญ) ณ โรงพยาบาลวิภาราม เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร
          ต่อมา พลอากาศโทภักดีเชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทานไปมอบแก่นางสาวคิสนา ผ่องใสสี อายุ 46 ปี และนางสุนทร รอดเสียงล้ำ อายุ 56 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณซอยพระราม 9-57/14 (หลังร้าน 13 เหรียญ) ณ โรงพยาบาลสิรินธร เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร
         โอกาสนี้ พลอากาศโทภักดี แสง-ชูโต ผู้ช่วยราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยไปกล่าวกับประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บให้ได้รับทราบ สร้างความปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแก่ประชาชนและครอบครัวที่ได้รับบาดเจ็บอย่างหาที่สุดมิได้
    นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากเหตุระเบิดป่วนเมือง 9 ครั้ง 5 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายความมั่นคงทุกคน ที่ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน รวมตลอดถึงสื่อมวลชนที่ได้ช่วยกันเป็นกำลังสำคัญในการช่วยตรวจสอบข้อมูลความเป็นจริง และเป็นสื่อกลางในการสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้องกับประชาชน ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่ารัฐบาล ตำรวจ และฝ่ายความมั่นคง สามารถควบคุมสถานการณ์ได้
ยังไม่ห้ามมาไทย
    โฆษกประจำสำนักนายกฯ เผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่กระทบต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไทยแต่อย่างใด ซึ่งจากข้อมูลของผู้แทนไทยในต่างประเทศพบว่า มีเพียงการรายงานข่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่านั้น ยังไม่มีการเตือนหรือห้ามประชาชนเดินทางมายังประเทศไทย 
    ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีได้สร้างความมั่นใจแก่ผู้แทนต่างประเทศที่มาเยือนไทย เช่น ผู้แทนระดับสูงของสหภาพยุโรปและ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ ว่า รัฐบาลไทยสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ซึ่งผู้แทนต่างประเทศต่างเข้าใจ และไม่กังวลใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ยังคงให้ความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลและประเทศไทย
    โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสืบสวนหาหลักฐานการกระทำผิด และขณะนี้ฝ่ายความมั่นคงทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายพลเรือน ได้ยกระดับการรักษาความปลอดภัยตามจุดต่างๆ อย่างเข้มงวด จึงขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วและทุกคนปลอดภัย
    นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ประณามกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่มาก่อเหตุในครั้งนี้ สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชน เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์วุ่นวายให้กับประเทศ อยากจะฝากไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เร่งดำเนินการจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เพราะพี่น้องประชาชนต้องการความสงบสุข ที่ผ่านมาประชาชนมีความสุขมากที่บ้านเมืองมีความสงบ ไม่น่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาอีก     
    "จะเกี่ยวข้องกับการดิสเครดิตรัฐบาลหรือไม่นั้นอย่าเพิ่งด่วนสรุป เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดำเนินการสอบสวนอยู่ แต่ทราบว่าสามารถจับกุมคนร้ายได้บางส่วนแล้ว คงจะทราบว่าเป็นฝีมือของกลุ่มใด"
         นายธนกรฝากไปยังพี่น้องประชาชนให้ช่วยเป็นหูเป็นตาด้วย รัฐบาลกำลังเร่งดำเนินนโยบายเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในทุกด้าน จึงไม่น่าจะมีสถานการณ์แบบนี้ เป็นการทำลายภาพลักษ์ของประเทศไทย ส่วนกรณีที่บางฝ่ายออกมาระบุว่ารัฐบาลสร้างสถานการณ์นั้น ตนไม่ทราบว่าใช้สมองข้างไหนคิด ไม่มีใครคิดชั่วเอาชีวิตประชาชนมาเป็นตัวประกันเหมือนที่กล่าวหาแน่นอน นอกจากคนที่พูดเองอาจจะมีประสบการณ์หรือไม่ ที่สำคัญ ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมทำให้บ้านเมืองสงบมา 5 ปีแล้ว ดังนั้น อย่ามาใส่ร้าย ตนมั่นใจว่ารัฐบาลจะทำทุกอย่างเพื่อให้บ้านเมืองสงบ ปลอดภัย และประชาชนมีความสุขแน่นอน
    ด้านนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การก่อความไม่สงบไม่ว่าจะหวังผลในเรื่องอะไร ผลที่ได้รับออกมาคือความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน นี่คือสิ่งที่สำคัญที่ ประชาชนที่ต้องออกจากบ้าน เดินทางไปปฏิบัติภารกิจในชีวิตประจำวัน กลายเป็นแพะที่ได้รับความเดือดร้อนมากที่สุด ตนไม่อยากจะออกมาประณามผู้ที่ก่อเหตุ เพราะคนที่ทำชั่ว ไม่จำเป็นต้องให้ผู้อื่นลุกขึ้นมาชี้หน้าว่าคุณทำชั่ว มนุษย์ทุกคนย่อมรู้อยู่แก่ใจว่า การกระทำของตัวเองเรียกว่าทำดีหรือทำชั่ว
แจ้งเบาะแสเอาไป 1 แสน
         “ผมขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ หากมีเบาะแสผู้ที่ลงมือกระทำ ขอให้แจ้งมาที่ตน ที่บ้านเรือนไทย แจ้งวัฒนะ ผมมีสินน้ำใจให้ผู้ที่แจ้ง 100,000 บาท”
          นายสิระยังกล่าวว่า ขอให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีและคณะทำงานทุกฝ่าย ตนในฐานะคนไทยคนหนึ่ง อยากจะเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และต้องการช่วยทางการจับคนชั่วทำร้ายประเทศมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด เพราะเมื่อรู้ว่าเป็นการกระทำของกลุ่มใด นั่นจะทำให้ประชาชนปลอดภัยได้มากที่สุก
    น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส อดีตผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย ทวีตข้อความถึงเหตุการณ์ระเบิดในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า "เลือกความสงบจบที่ลุงตู่" 55555 นกหวีดติดคอกันยัง??!
    "เห็นแล้วน่าตกใจ และสะเทือนใจกับผู้ที่เสนอตัวมาเป็นผู้แทนของประชาชน กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเกิดกับใคร ก็ไม่ควรมีการแสดงออกทางความคิดเห็น ความรู้สึกที่สะใจ กับความเจ็บปวดของประชาชน และเหตุการณ์ที่สะเทือนขวัญกับพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ
    "รักจะเป็นนักการเมืองที่คอยเรียกร้องหาประชาธิปไตย ควรยอมรับในความเห็นต่าง เคารพในสิทธิของประชาชน ไม่ว่าประชาชนจะเลือกหรือไม่เลือก คุณก็ไม่มีสิทธิ์ไปดูถูกดูแคลน หรือเยาะเย้ยถากถางประชาชนค่ะ" น.ส.ฐิติภัสร์ระบุ
    วันเดียวกันนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ลงพื้นที่ถนนเยาวราช เผยว่า คาดว่าไม่กระทบต่อสถานการณ์การท่องเที่ยวในภาพรวมของประเทศไทย แต่อย่างไรก็ตาม กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเรื่องดังกล่าว จึงกำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กองมาตรฐานและกำกับความปลอดภัยนักท่องเที่ยว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัด ได้ช่วยกันสอดส่อง ดูแล และกระจายกำลังไปในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว
    สำหรับมาตรการความปลอดภัย ขณะนี้สถานการณ์ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งมีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจตราความปลอดภัยทั้งในและนอกเครื่องแบบในทุกจุด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดทั้งประชาชนชาวไทย และชาวต่างประเทศที่วางแผนเดินทางมาประเทศไทย ไม่ว่าเพื่อการท่องเที่ยว เพื่อการติดต่อธุรกิจ เพื่อการศึกษา ประชุม สัมมนา ดูงาน ตลอดจนเพื่อร่วมงานแสดงสินค้า หรือภารกิจตามความประสงค์ของทุกท่าน คนไทยทุกคนต้องร่วมกันเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่ พบเห็นอะไรที่ไม่ชอบมาพากลก็รีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบโดยทันที
    ทั้งนี้ หากเกิดเหตุขึ้นกับนักท่องเที่ยว สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ ได้ที่สายด่วนตำรวจท่องเที่ยว 1155 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คุมเข้มอาคารรัฐสภาใหม่
    นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ยอมรับว่า ค่อนข้างเป็นห่วงระบบรักษาความปลอดภัยของรัฐสภา หลังเหตุระเบิดหลายจุดทั่วกรุงเทพฯ จึงสั่งให้มีการเพิ่มเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะวันจันทร์นี้ ที่จะมีการประชุมวุฒิสภา ซึ่งอาจจะต้องตรวจรถและสัมภาระ ทั้งสมาชิก ผู้เข้าร่วมประชุม เจ้าหน้าที่ สื่อมวลชนและผู้ที่จะเดินทางเข้า-ออก
          รองประธานสภาผู้แทนฯ ยังกล่าวถึงเหตุระเบิดป่วนกรุงหลายจุดว่า ขณะนี้ยังไม่มีใครรู้ความจริง และมองว่าไม่เหมาะสมที่จะวิจารณ์ รวมทั้งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับกรณีที่ คสช.เพิ่งหมดอำนาจไป เพราะในช่วงปีนี้ประเทศไทยมีเรื่องสำคัญที่เกิดขึ้น จึงอาจจะเป็นไปได้ว่าจะเป็นการดิสเครดิต อย่างไรก็ตาม ขอรอเจ้าหน้าที่สอบสวนให้แน่น
    นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ แสดงความห่วงใยประชาชนชาว กทม. ที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และขอประณามกลุ่มผู้ก่อเหตุ ที่ใช้ประชาชนและประเทศชาติมาเป็นเครื่องมือในการสร้างสถานการณ์ทางการเมือง เพื่อต้องการดิสเครดิตรัฐบาล
    เขากล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นอกจากจะส่งผลกระทบในเรื่องความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนแล้ว ยังกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวที่เป็นรายได้หลัก และความไม่มั่นใจของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเที่ยวในประเทศไทย รวมไปถึงสถานการณ์ด้านความมั่นคงในประเทศด้วย 
    “ผมและพรรคพลังธรรมใหม่ขอให้กำลังใจรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่ให้สามารถจับกุมคนร้ายและกลุ่มผู้ก่อเหตุระเบิดครั้งนี้ให้ได้โดยเร็ว แต่ก็ขอให้ประชาชนทุกคนดำเนินชีวิตตามปกติ อย่าได้ตื่นตระหนก เพียงแต่เพิ่มความระมัดระวังและพยายามหลีกเลี่ยงไม่เข้าใกล้บริเวณพื้นที่จุดเสี่ยงที่อาจเกิดเหตุได้” นพ.ระวีกล่าว 
    ส่วนท่าทีจากพรรคการเมืองฝ่ายค้านนั้น นายฐิติพงษ์ หมื่นหาญ หรือจัมโบ้ ดอกจิก โฆษกพรรคพลังปวงชนไทย กล่าวถึงกรณี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ โพสต์โจมตีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า "พอหยุดเผาก็มาระเบิด อำมหิต" ว่าถือเป็นการกล่าวหาโดยอาศัยนั่งเทียนพูดโดยปราศจากหลักฐาน กี่ครั้งแล้วที่เกิดความวุ่นวายในเมืองหลวง หรือเมื่อมีกระแสข่าวดังทางการเมือง ย่อมมีเหตุการณ์ระเบิดหลายครั้ง ทำให้กระแสข่าวเงียบลง และก็ถูกโยงไปยังคนแดนไกล
ต้องการสร้างความเกลียดชัง
    "มีความเข้าใจว่าต้องการสร้างความเกลียดชังให้กับผู้เห็นต่างอย่างเห็นได้ชัด ทุกครั้งที่เกิดเหตุครั้งใด ย่อมมีบุคคลไม่พึงปรารถนาออกมาชี้ชัดเลยว่าต้องเป็นคนแดนไกลจ้างมา บุคคลหน้าเดิมบ้าง คนเห็นต่างทางการเมืองบ้าง แต่ไม่มีใครกล้าพูดเลยว่าเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อการนำไปสู่กฎหมายพิเศษหรือไม่ เนื่องจากวันนี้คณะรัฐบาลขาดความมั่นใจในการบริหารประเทศเป็นอย่างมาก จึงฝากให้พี่น้องประชาชนคอยจับตาดูรัฐบาลและพวกที่ชอบประจบผู้นำเพียงแต่หวังแค่อำนาจเท่านั้น" นายฐิติพงษ์กล่าว
    ขณะที่ ดร.รยุศด์ บุญทัน รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า รู้สึกชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจยิ่งนัก ที่ตื่นตัว เร่งติดตามตัวคนร้ายในเหตุวางระเบิดที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาได้อย่างรวดเร็วภายในวันเดียว นี่คือศักยภาพของตำรวจไทยที่แท้จริง 
    ส่วนเหตุระเบิดหลายจุดในกรุงเทพฯ ก็หวังว่าจะสามารถจับคนร้ายได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน อย่างน้อยก็เป็นการแก้มือ ที่หน่วยงานความมั่นคงของไทยพลาดอีกครั้ง ด้วยการปล่อยให้เกิดการวางระเบิดในจุดสำคัญของกรุงเทพฯ หลายๆ จุด เกิดความเสียหาย มีผู้บาดเจ็บ ซึ่งสะท้อนถึงความล้มเหลวของการข่าว หน่วยงานความมั่นคงอย่างแท้จริง 
    อย่างไรก็ตาม หากต้องการจะแก้ไขความผิดพลาดนี้ หน่วยงานความมั่นคงก็ต้องเร่งหาตัวคนร้ายให้ได้เร็วที่สุด นอกจากนี้ ก็ขอให้รัฐบาลเร่งแก้ไขงานด้านการข่าวให้มีประสิทธิภาพ และรวดเร็วทันต่อการแก้ไขสถานการณ์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้คนในชาติ รวมถึงนักลงทุนและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติด้วย 
     ดร.รยุศด์บอกว่า อยากให้มาตรฐานการทำงานของเจ้าหน้าที่ไทย เป็นดังเช่นคดีระเบิดปลอมหน้า สตช.อย่างนี้ทุกคดี รวมถึงคดีของนักกิจกรรมอีกหลายคนที่ถูกลอบทำร้าย ก็ควรเร่งติดตามหาคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ความน่าเชื่อถือ ให้กลับมาสู่เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยและหน่วยงานความมั่นคงโดยเร็วที่สุด
โยงบึ้มเพราะขัดแย้งใน สตช.
    นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย ขอประณามผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิดดังกล่าว ที่ทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บและรู้สึกไม่ปลอดภัยกับสถานการณ์ในประเทศไทย ขอให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการติดตาม ตรวจสอบอย่างใกล้ชิดโปร่งใส ตรงไปตรงมา เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ประเทศและนักลงทุน 
    เขาอ้างว่าเหตุการณ์ระเบิดดังกล่าวประชาชนบางส่วนตั้งคำถามว่าเกี่ยวข้องกับปัญหาการทำงานในสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ เป็นการสร้างสถานการณ์รับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เดินทางมาเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังการเข้ามารวบอำนาจคุม สตช.ด้วยตัวเองหรือไม่ รวมถึงการก่อเหตุบริเวณใต้ป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความเชื่อมโยงกันอย่างไร เพราะหากในสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังไม่ปลอดภัย ประชาชนคงลดความวิตกกังวลในสถานการณ์นี้ได้ยาก  
    “ในอดีตคนไทยเคยได้ยิน ผบ.ตร.ไซด์ไลน์ หวังว่าจะไม่ได้มีเกิดขึ้นในยุคนี้อีก ขอฝาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เร่งสร้างขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ ลงไปควบคุมสั่งการอย่างใกล้ชิด อย่าปล่อยปละละเลย เพื่อยกระดับการทำงานให้ประชาชนเชื่อมั่นและคลายความวิตกกังวลในสถานการณ์นี้ให้ได้โดยเร็ว” นายอนุสรณ์กล่าว
    นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ระบุว่า ช่วงนี้มีปรากฏการณ์หลายๆ อย่างเกิดขึ้น บางฝ่ายหวังปลุกนักเรียน นักศึกษามาเป็นเครื่องมือทางการเมือง บางส่วนก็ป่วนเมืองด้วยระเบิด แต่ผมเชื่อว่าคนไทยรับรู้ว่าอะไรเป็นอะไร คนที่คิดไม่ดีต่อประเทศ มักจะจบชีวิตไม่ดี.