บึ้มปลอมป่วนซ้ำ! ผบ.ตร.ตั้ง‘ศรีวราห์’คุมทีมสอบ/หึ่งผู้ต้องหาสารภาพยกแก๊งมา


เพิ่มเพื่อน    

 ป่วนอีก! วางระเบิดปลอมตรงข้ามศาลอาญา หวังสร้างสถานการณ์ อีโอดีเข้าตรวจสอบพบแค่ขวดน้ำเกลือพันเทปสีดำ ขณะที่ "จักรทิพย์" ตั้ง "ศรีวราห์" เป็นหัวหน้าทีมไขคดี ทีมสอบสวนอีกเพียบ สะพัด 2 ผู้ต้องหารับสารภาพมีเพื่อนร่วมแก๊งอีก 8 คน อ้างไม่พอใจทหารที่จับแนวร่วมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แน่ชัดแล้วเหตุไฟไหม้ 5 จุดย่านปทุมวันเป็นฝีมือกลุ่มเดียวกัน

    เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีหนังสือคำสั่ง ที่ 459/2562 ลงวันที่ 2 ส.ค. แต่งตั้งพนักงานสืบสวนสอบสวนคลี่คลายเหตุคนร้ายนำวัตถุต้องสงสัยคล้ายวัตถุระเบิดมาวางด้านหน้าป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร และเหตุระเบิดบริเวณสถานที่ราชการ แหล่งชุมชน และพื้นที่สาธารณะ และเกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารของเอกชนหลายแห่ง ซึ่งเกิดเหตุในระยะเวลาใกล้เคียงกัน ส่งผลให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหาย 
    จึงมีคำสั่งแต่งตั้งพนักงานสืบสวนสอบสวน ประกอบด้วย ส่วนบังคับบัญชา มี พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ,พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ผู้บัญชาการ สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ อำนวยความยุติธรรม ควบคุม กำกับ ดูแล และกำหนดแนวทางการสืบสวนสอบสวนให้ครอบคลุมครบถ้วน, เร่งรัด พนักงานสืบสวนสอบสวนและเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ ให้รีบดำเนินการสืบสวนสอบสวน แสวงหารวบรวมพยานหลักฐาน สืบสวนจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมาย ตลอดจนให้คำแนะนำปรึกษาแก่พนักงานสืบสวนสอบสวนในกรณีที่เกิดปัญหาข้อขัดข้องในการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวนทุกกรณี
         ในส่วนของพนักงานสืบสวนสอบสวน มี พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยมีรองหัวหน้าพนักงานสอบสวน ประกอบด้วย พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล, พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1, พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8, พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9, พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล, พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี, พล.ต.ท.พนมพร อิทธิประเสริฐ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลาง, พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เป็นรองหัวหน้าพนักงานสอบสวนและเลขานุการ และ พล.ต.ต.มนัส ศิกษมัต ผู้บังคับการ กองคดีอาญา สำนักงานกฎหมายและคดี ผู้ช่วยเลขานุการ
          ทั้งนี้ ให้เป็นพนักงานสืบสวนสอบสวน ผู้รับผิดชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาร่วมทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทั้งปวง ในคดีอาญาที่เกิดขึ้นให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว และหากการสืบสวนพบว่ามีการกระทำความผิดอื่นที่เกี่ยวเนื่องกัน หรือผู้กระทำผิดอื่นอีก ก็ให้มีอำนาจสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีในความผิดนั้นๆ ด้วย โดยให้ถือปฏิบัติตามระเบียบ คำสั่ง และกฎหมายโดยเคร่งครัด แล้วรายงานผลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทราบความคืบหน้าทุกระยะ 
    ในการสอบสวน ให้พนักงานสืบสวนสอบสวนพึงระมัดระวังเรื่องอำนาจการสอบสวน โดยจะต้องมีพนักงานสอบสวนผู้มีอำนาจทำการสอบสวนร่วมในการสอบสวนด้วยทุกครั้ง
นายกฯ ห่วงเรื่องความปลอดภัย
    พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เกี่ยวกับเหตุเกิดวัตถุเสียงดังคล้ายวัตถุระเบิดในพื้นที่ กทม.และใกล้เคียงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีความห่วงใยความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ พร้อมกำชับสั่งการให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เร่งรัดเจ้าหน้าที่ให้ทำการสืบสวน พิสูจน์ทราบถึงกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุและติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว 
    ผบ.ตร.จึงได้มีคำสั่งตั้งทีมงานสืบสวนสอบสวนขึ้นมา โดยมี พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็น คณะทำงาน ในการสืบสวนสอบสวนและสืบสวนติดตามและจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยขอให้ประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนก และโปรดให้มีความเชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างทำการสืบสวนสอบสวนและเร่งรัดในการทำงาน
    จากการสืบสวนขยายผลเกี่ยวกับเหตุการณ์บริเวณถนนพระราม 9 ซอย 57/1 เขตสวนหลวง จนทำให้พนักงานทำความสะอาดของ กทม.ได้รับบาดเจ็บนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการควบคุมตัวเยาวชนชาย 4 ราย ซึ่งเป็นนักเรียนช่างอุตสาหกรรมสถาบันแห่งหนึ่ง จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่า กลุ่มเยาวชนดังกล่าวได้นำระเบิดปิงปองไปซุกไว้บริเวณถนนพระราม 9 ซอย 57/1 เขตสวนหลวงจริง จนต่อมาได้เกิดเหตุระเบิด เมื่อพนักงานทำความสะอาดได้เข้าไปเก็บกวาดขยะ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปส่งพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
    จากกรณีดังกล่าวข้างต้นนั้น เบื้องต้นพบว่ามิใช่ระเบิดแสวงเครื่องที่มีแรงดันสูงแต่อย่างใด อีกทั้งยังไม่พบถึงการเชื่อมโยงกับเหตุการณ์อื่นในหลายเหตุการณ์ที่ผ่านมา แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้งไป และจะดำเนินการสืบสวนสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมต่อไป
          พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า ในส่วนของเหตุการณ์อื่น ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเร่งรัดสืบสวนสอบสวนและออกติดตามเพื่อจับกุมตัวผู้ก่อเหตุต่อไป พร้อมกันนี้ ผบ.ตร.ได้กำชับกองบัญชาการตำรวจนครบาล, ตำรวจภูธรภาค 1-9 และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ให้วางแนวทางเพิ่มความเข้มในการออกตรวจตราป้องกันเหตุตามสถานที่สำคัญ แหล่งชุมชน การคมนาคม ศูนย์การค้า สถานที่ท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชนในทุกพื้นที่ 
วางระเบิดปลอมป่วนเมือง
    รวมทั้งบูรณาการด้านการข่าวกับหน่วยงานความมั่นคง อาทิ กองบัญชาการตำรวจสันติบาล, สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจตระเวนชายแดน ให้เฝ้าระวังและติดตามข้อมูลตลอด เพื่อรายงานเหตุและเข้าแก้ไขให้ทันต่อสถานการณ์ อีกทั้ง ผบ.ตร. ขอขอบคุณภาคส่วนประชาชนและที่เกี่ยวข้องในการช่วยกันแจ้งข้อมูลเบาะแส และเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่เหน็ดเหนื่อยระดมกำลังออกทำงานเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยให้กับประชาชนและสังคมในช่วงนี้
    รองโฆษก ตร.กล่าวต่ออีกว่า หากประชาชนพบเบาะแสหรือมีข้อมูลผู้ต้องสงสัย สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขสายด่วน 191, 1599 ได้ตลอด 24 ชม.
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด (อีโอดี) เข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ริมกำแพงรั้วบ้าน ภายในซอยรัชดาฯ 32 ตรงข้ามศาลอาญา ก่อนที่จะปิดถนนและกันผู้คนออกนอกบริเวณ 
    จากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด เมื่อเวลา 14.35 น. พบเห็นชายอายุประมาณ 30 กว่า สูงประมาณ 165-170 ซม. สวมแว่นสายตา แต่งกายด้วยกางเกงยีนส์ เสื้อสีขาว สะพายกระเป๋าสีดำ เดินวนเวียนอยู่บริเวณดังกล่าวประมาณ 20 นาที ก่อนจะนำวัตถุพันด้วยเทปสายไฟสีดำมาวางไว้แล้วเดินออกไป พฤติกรรมผิดกับการวางระเบิดที่คนร้ายจะไม่ยืนตรงจุดก่อเหตุนานเกินไป จึงคาดว่าเป็นเพียงมือสมัครเล่นที่ต้องการสร้างความปั่นป่วนเท่านั้น เพราะเป็นเพียงขวดน้ำเกลือพันเทปดำ
         ด้าน พ.ต.ท.ทัสสุมิ ยอดประทุมวัน รอง ผกก.สส.สน.พหลโยธิน เผยว่า จากการตรวจสอบของอีโอดี พบว่าภายในเป็นขวดน้ำเกลือ หลังตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด แล้วจะเชิญตัวบุคคลต้องสงสัยดังกล่าวมาสอบปากคำเพื่อดูว่ามีเจตนาสร้างสถานการณ์หรือไม่ อาจจะเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.ความมั่นคง
    สำหรับความคืบหน้าการติดตามตัวกลุ่มคนร้ายก่อเหตุวางระเบิดหลายจุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานั้น มีรายงานข่าวจากฝ่ายความมั่นคงเผยว่า นายลูไซ แซแง อายุ 23 ปี และนายวิลดัน มาหะ อายุ 29 ปี ชาวจังหวัดนราธิวาส ผู้ต้องสงสัยนำระเบิดไปวางใต้ป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 1 ส.ค. รับสารภาพแล้ว จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดอย่างละเอียด พบว่ายังมีร่วมก่อเหตุอีก 8 คน ซึ่งทุกจุดที่มีการวางระเบิดได้ทิ้งสัญลักษณ์เอาไว้ เพื่อแสดงศักยภาพให้เจ้าหน้าที่เห็นว่าสามารถก่อเหตุได้ทุกจุดทั่วกรุง ไม่เว้นแม้แต่จุดศูนย์กลางใจกลางเมือง หรือตามสถานที่สำคัญต่างๆ เท่านั้น ไม่ใช่แค่จะก่อเหตุที่ภาคใต้ได้อย่างเดียว
         นอกจากนี้ ผู้ต้องหายังอ้างว่าต้องการแก้แค้น เนื่องจากไม่พอใจที่ก่อนหน้านี้กองทัพภาคที่ 4 ได้คุมตัวแนวร่วมไปสอบสวนแล้วหมดสติในค่ายทหาร
แก๊งบึ้ม!ไม่ต่ำกว่า 10 คน
    ขณะนี้ตำรวจได้เบาะแสคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุในจุดต่างๆ มีไม่ต่ำกว่า 10 คน พบความเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ โดยแผนประทุษกรรมเป็นลักษณะเดียวกับที่เคยเกิดเหตุระเบิดมาแล้วในอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แต่ไม่ใช่ผู้ต้องหากลุ่มเดียวกัน เนื่องจากมีการจับกุมไปแล้ว ผู้ก่อเหตุครั้งนี้เป็นคนกลุ่มใหม่ทั้งหมด
         ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้แบ่งชุดสืบสวนแต่ละชุดไปรวบรวมข้อมูลภาพจากกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุที่สถานีรถไฟฟ้าสถานีช่องนนทรี, ศูนย์ราชการอาคาร B, กองบัญชาการกองทัพไทย และหน้าสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ถนนศรีสมาน อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เพื่อนำมาไล่เรียงลำดับเหตุการณ์ก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ เพื่อติดตามจับกุมคนร้าย
         จากการตรวจสอบพบข้อมูลว่า คนร้ายเตรียมระเบิด 9 ลูกมาใช้ก่อเหตุ มีการเขียนตัวเลขกำกับแต่ละลูกไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่อีโอดีสามารถกู้ระเบิดได้ 3 ลูก คือที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 2 ลูก และที่หน้ากองบัญชาการกองทัพไทย 1 ลูก ช่วงเวลาที่คนร้ายก่อเหตุอยู่ในช่วง 6 นาฬิกาถึง 9 นาฬิกา หลังจากนั้นก็ไม่พบเหตุระเบิดจุดใดเพิ่มเติม 
    ส่วนเหตุไฟไหม้ 5 จุดนั้น ชัดเจนแล้วว่าเชื่อมโยมกัน เนื่องจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบชายต้องสงสัยนำวัสดุบางอย่างไปวางไว้ก่อนเกิดการระเบิด จนไฟลุกไหม้ และจากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบไทเมอร์หน่วงเวลาในบริเวณดังกล่าวด้วย
    จากข้อมูลทางการสืบสวนยืนยันว่า คนร้ายกลุ่มนี้  เป็นขบวนการเดียวกันกับกลุ่มผู้ก่อเหตุวางระเบิดหลายจุดเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ซึ่งขณะนี้ยังถูกควบคุมตัวไปสอบสวนขยายผล หาความเชื่อมโยงผู้ร่วมก่อเหตุรายอื่นต่อไป
    พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานคำรับสารภาพของ 2 ผู้ต้องสงสัย แต่หากมีการพาดพิงถึงกองทัพภาคที่ 4 ในเรื่องดังกล่าวนั้น ก็ขอให้สื่อมวลชนไปสอบถามกับคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่มีกว่า 30 คน โดยตั้งขึ้นมาเพื่อสอบสวนสาเหตุการเสียชีวิตของนายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ เพื่อความโปร่งใส ที่มีทั้งแพทย์ คณะกรรมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี เพราะตนไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากเกรงข้อครหาว่าจะเป็นการให้ข้อมูลที่เข้าข้างเจ้าหน้าที่ของรัฐ 
ไฟไหม้โยงระเบิดชัดเจน
    อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าเรื่องการสอบสวนผู้ต้องสงสัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทางทหารมีหน้าที่เป็นเพียงคนกลางในการดำเนินการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไปให้ผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องสอบสวนเท่านั้น และหลังเกิดเหตุนายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ เสียชีวิตก็ได้สอบสวนผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้กระทำผิด และตนขอย้ำว่ากองทัพจะไม่ทำผิดหลักสิทธิมนุษยชน หากพบว่ากำลังพลคนใดทำผิดจริง ตนจะไม่เลี้ยงไว้แน่นอน  
    ที่ รพ.วิภาราม พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. เดินทางเข้าเยี่ยมเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดเขตสวนหลวง ที่ประสบเหตุถูกระเบิดปิงปองได้รับบาดเจ็บในซอยพระรามเก้า 57/1 พร้อมกล่าวถึงแนวทางการเฝ้าระวังเหตุก่อความวุ่นวายว่า วานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้สั่งการให้หน่วยงานความมั่นคงและตำรวจทุก สน. คอยเฝ้าระวังสังเกตการณ์สิ่งผิดปกติตามจุดสุ่มเสี่ยงต่างๆ พร้อมขอความร่วมมือประชาชน หากมีเบาะแสผู้ก่อเหตุหรือพบวัตถุต้องสงสัย ให้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบได้
         ผบช.น.เผยว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนยังอยู่ในแนวทางการสืบสวน ไม่สามารถเผยรายละเอียดได้ ส่วนกรณีจากหลักฐานภาพวงจรปิดที่มีคนร้ายนำวัตถุคล้ายระเบิดไปวางในร้านค้าของห้างดังย่านปทุมวัน แต่งกายในชุดคล้ายนักศึกษา จะเป็นการเชื่อมโยงให้เข้าใจว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุมีแนวโน้มที่จะอายุน้อยลง เป็นการปลูกฝังหรือสร้างแนวร่วมทางการเมืองในหมู่คนรุ่นใหม่หรือไม่นั้น พล.ต.ท.สุทธิพงษ์กล่าวว่า ยังไม่ไปถึงขั้นนั้น อีกทั้งคดีเก่าๆ ที่เคยเกิดขึ้น เช่นเหตุระเบิดที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อปี 2558 ก็มีคนร้ายอายุไม่มากร่วมอยู่ด้วย ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานชี้ชัดถึงข้อสังเกตดังกล่าว
           ทั้งนี้ มีรายงานชุดสืบสวนคลี่คลายคดีระเบิดว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ตั้งชุดสืบสวนคลี่คลายคดี เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ทั้ง 4 จุดคือ สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ช่องนนทรี, ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะอาคาร B และกองบัญชาการกองทัพไทย รวมถึงที่หน้าสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ถนนศรีสมาน อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เพื่อนำมาไล่เรียงลำดับเหตุการณ์ก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ เพื่อติดตามจับกุมคนร้าย 
          เบื้องต้นทราบว่าเป็นการกระทำหวังผลสร้างสถานการณ์ ซึ่งแผนประทุษกรรมเป็นลักษณะเดียวกับที่เคยเกิดเหตุระเบิดมาแล้วใน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ แต่ไม่ใช่ผู้ต้องหาในกลุ่มเดียวกัน เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ถูกจับกุมไปแล้ว แต่ผู้ก่อเหตุครั้งนี้เป็นคนกลุ่มใหม่ทั้งหมด
แค่เด็กช่างจะตีกัน
    พล.ต.ต.ธีรพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.4 เปิดเผยถึงกรณีมีระเบิดบริเวณถนนพระราม 9 ซอย 57/1 แขวงและเขตสวนหลวง กทม. เหตุเกิดเมื่อเช้าวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา จนมีผู้บาดเจ็บเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายความสะอาดเขตสวนหลวงว่า ภายหลังเกิดเหตุดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและสืบสวน จนสามารถจับกุมนายดนุนัล เลี้ยงสอน อายุ 19 ปี และนายเอ นามสมมุติ อายุ 17 ปี และนายเค นามสมมุติ อายุ 15 ปี พร้อมของกลางระเบิดแบบประดิษฐ์ทำเอง 1 ลูก, ปืนปากกา 1 กระบอก พร้อมกระสุนขนาด .38 มม. จำนวน 1 นัด และอาวุธมีด 2 เล่ม
          ผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่ง ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดป่วนกรุงที่เกิดขึ้น ส่วนของกลางที่พบ ผู้ต้องหาได้นำไปทิ้งไว้ในซอยเพื่อเตรียมไว้ป้องกันตัวเท่านั้น
         เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มีวัตถุระเบิดไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนต่อไป
    นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการการประชุมติดตามสถานการณ์ความไม่สงบเรียบร้อย ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ว่าที่ประชุมได้ติดตามและเตรียมแผนเพื่อป้องกันการเกิดเหตุ โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน ซึ่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้กำชับให้เจ้าที่ทุกฝ่ายทำงานร่วมกับความมั่นคงดูแลพื้นที่ ขณะเดียวกันอยากขอให้ประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบสิ่งผิดปกติให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ กทม.ที่ประจำแต่ละจุดให้ประสานตำรวจและฝ่ายความมั่นคงเข้าไปตรวจสอบ แต่ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนกหรือหวาดกลัวเกินเหตุ
          นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้ทุกเขตไปสำรวจกล้องวงจรปิด CCTV ของ กทม.ให้มีสภาพพร้อมใช้งานครบทุกจุด เพราะเหตุลอบวางระเบิดครั้งแรก ก็สามารถจับคนร้ายได้เร็วภายใน 24 ชั่วโมง รวมถึงที่ประชุมได้สั่งการเพิ่มความถี่เจ้าหน้าที่ของรัฐ เทศกิจ ลงไปในแต่ละเขต เพื่อช่วยตรวจตราร่วมกับตำรวจ โดยเพิ่มความถี่ในช่วงกลางคืน ส่วนเขตปทุมวันนั้น วันนี้เป็นวันสุดท้ายสำหรับการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน จะมีการดูแลเป็นพิเศษ
          นางศิลปสวยยังกล่าวถึงเจ้าหน้าที่เขตสวนหลวง ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดพระราม 9 ว่า กทม.พร้อมเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งยังมีงบช่วยเหลือผู้ประสบเหตุจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกด้วย
          นอกจากนี้ กทม.ยังได้เปิดวอร์รูมเฝ้าระวังเหตุ พร้อมมอนิเตอร์กล้อง CCTV ในความรับผิดชอบของ กทม.ตลอด 24 ชั่วโมง. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"